ครั้งแรกที่พรีเมียร์ลีกฟาดแข้งที่ เวมบลี่ย์ สังเวียนเหย้า "ไก่เดือยทอง" ซึ่งจะใช้เป็นรังเหย้าซีซั่นนี้ เปิดศึก "ลอนดอนดาร์บี้" รับมือ "แชมป์เก่า" เชลซี พร้อมจัดหนักส่ง แฮร์รี่ เคน หัวหอกตัวเก่งที่ต้องการอีก 1 ประตูจะยิงครบ 100 ลูก ทุกรายการ ส่วนทางฝั่ง "สิงห์บลูส์" สภาพทีมสุดยวบทั้งเจ็บทั้งแบน อัลบาโร่ โมราต้า พร้อมออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ในปรีวิวคู่บิ๊กแมตช์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม 2560 เริ่ม 22.00 น. beIN sport 1 ยิงสดให้ชม

ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม 2560
สเปอร์ส - เชลซี
เวลา 22.00 น. ถ่ายทอดสด beIN sport 1

สนาม : เวมบลีย์ (ลอนดอน)

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือไก่เดือยทอง พาทีมเอาชนะนิวคาสเซิ่ล 2-0 นัดก่อน จากการให้ของขวัญโดย จอนโจ้ เชลวี่ นัดนี้มาเฝ้าเวมบลีย์ทำศึกนัดสำคัญกับแชมป์เก่าที่เป็นโจทย์กันในระยะหลังๆ

ไก่เดือยทองลุ้นความฟิตของ คีแรน ทริปเปียร์ แบ็กขวาที่เจ็บข้อเท้าและไม่ได้เล่นที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค จะต้องทดสอบความฟิตก่อน แต่ถ้าฟิตไม่ทันก็ไร้ปัญหาเพราะ ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส ทำหน้าที่เนียนไร้ที่ติ

อย่างไรก็ตามผู้เล่นอย่าง แดนนี่ โรส (เข่า), เอริค ลาเมล่า (สะโพก/ต้นขา) และ จอร์จส์ เควิน-เอนคูดู้ (เข่า) ยังคงอยู่ในลิสต์รายชื่อนักเตะบาดเจ็บอยู่

เชื่อว่า วิคเตอร์ วานยาม่า ที่เป็นตัวสำรองถูกเปลี่ยนลงมาท้ายเกมนัดก่อน จะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในเกมนี้ด้วย โดยความหวังของไก่ยังอยู่ที่ แฮร์รี่ เคน, เดเล่ อัลลี่ และ คริสเตียน เอริคเซ่น ที่อันตรายเหลือเกิน

อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือสิงโตน้ำเงินคราม แชมป์เก่าเจอกับปัญหาสารพัดทั้งในและนอกสนามทำให้เขาเป็นเต็ง 1 ที่จะโดนไล่ออกไปแล้ว และผลงานนัดออกสตาร์ตถือว่าขี้เหร่สุดๆ คือแพ้เบิร์นลี่ย์คาถิ่น 2-3

แกรี่ เคฮิลล์ และ เชส ฟาเบรกาส ที่โดนไล่ออกในเกมดังกล่าวก็จะติดโทษแบน ลงเล่นที่ เวมบลีย์ ไม่ได้อย่างแน่นอน แถมยังต้องลุ้น เปรโดร โรดริเกซ ที่เจ็บข้อเท้าด้วยว่าจะฟิตทันสำหรับเกมนี้หรือไม่ แต่ถ้าฟิตคอนเต้ก็จะให้แค่นั่งสำรองไปก่อน

แม้จะมีข่าวดีว่า เอแด็น อาซาร์ กับ ตีมู บากาโยโก้ ลงซ้อมได้แล้ว แต่เชลซีก็จะยังไม่เสี่ยงส่งอาซาร์ลงเล่นแน่นอน ขณะที่บากาโยโก้น่าจะมีชื่อแต่ต้องลุ้นว่าจะเป็นตัวจริงหรือสำรองกันแน่

ส่วน วิคเตอร์ โมเสส จะพ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมได้ และในตำแหน่งหน้าเป้า อัลบาโร่ โมราต้า ตัวสำรองนัดก่อนที่ยิงประตูได้ จะได้เป็นตัวจริงนัดนี้แน่นอน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

สเปอร์ส (4-2-3-1) : อูโก้ โยริส - ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, แยน แฟร์ต็องเก้น, เบน เดวิส - วิคเตอร์ วานยาม่า, เอริก ดายเออร์ - มุสซ่า ซิสโซโก้, เดเล่ อัลลี่, คริสเตียน เอริคเซ่น - แฮร์รี่ เคน

เชลซี (3-4-3) : ติโบ กูร์กตัวส์ - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, ดาวิด ลุยซ์ - วิคเตอร์ โมเสส, ตีมู บากาโยโก้, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาร์กอส อลอนโซ่ - วิลเลี่ยน, อัลบาโร่ โมราต้า, มิชี่ บาตชูอายี่

ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์

เกร็ดน่ารู้ : สเปอร์ส - เชลซี

- นี่เป็นครั้งแรกที่พรีเมียร์ลีกจะเล่นกันที่สนามเวมบลีย์ และเป็นสนามที่ 58 ที่เคยแข่งรายการนี้

- เชลซี แพ้แค่ 2 จาก 17 นัดหลังสุดที่เจอสเปอร์สในทุกรายการ (ชนะ 8 เสมอ 7)

- สเปอร์ส ลุ้นชนะในบ้านนัดที่ 15 ติดต่อกัน (รวมฤดูกาลก่อน) ส่วนสถิติชนะในบ้านยาวนานที่สุดคือ ลิเวอร์พูล ที่ 21 นัด ในปี 1972

- ฤดูกาลก่อน สเปอร์ส ไม่แพ้ในบ้านเลย และความพ่ายแพ้ล่าสุดคือ แพ้เซาธ์แฮมป์ตันในเดือนพฤษภาคม 2015 อย่างไรก็ตาม พวกเขาแพ้โมนาโก กับ เลเวอร์คูเซ่น ที่สนามเวมบลีย์ ในแชมเปี้ยนส์ ลีก

- สเปอร์ส ไม่แพ้ในลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ 13 นัด ในบ้านภายใต้การคุมทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ (ชนะ 9 เสมอ 4)

- สเปอร์ส ชนะนัดเดียวจาก 9 นัดที่เล่นเวมบลีย์ (แพ้ 6 เสมอ 2)

- แฮร์รี่ เคน ต้องการอีกประตูเดียวก็จะยิงครบ 100 ประตูให้สเปอร์สในทุกรายการ

-  เคน ไม่เคยยิงได้เลยในเดือนสิงหาคม ทว่า 18 ประตูจาก 21 ประตูหลังสุดในลีก เป็นการยิงได้ในเกมลอนดอน ดาร์บี้

- ครั้งสุดท้ายที่เชลซี แพ้ใน 2 นัดแรกของฤดูกาล เกิดขึ้นในปี 1973

- ส่วนครั้งล่าสุดที่แชมป์เก่าแพ้ใน 2 นัดแรกของฤดูกาลต่อมาคือ แอสตัน วิลล่า ในปี 1981

- 7 จาก 8 นัดของเชลซีที่แพ้ในยุค อันโตนิโอ คอนเต้ คือการแพ้ในลอนดอน