สังเวียน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ผ่านไปอย่างรวดเร็วกับแม็ตช์เดย์ที่ 5 โดยทีมงาน Siamsport ได้จัดการเลือก 11 ดาวเตะผลงานสุโค่ยมาให้ได้ติดตามกัน มีใครติดทีมกันบ้าง...

ผู้รักษาประตู : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ (สวอนซี ซิตี้)
เซฟจนมือแตกสำหรับนายทวาร 32 กะรัต สถิติเผย ฟาเบียนสกี้ ปัดป้องไม่ให้บอลตุงตาข่ายถึง 8 ครั้งช่วยให้ สวอนซี ได้หนึ่งแต้มอันล้ำค่าในการบุกไปเสมอ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 0-0

เซนเตอร์ฮาล์ฟ : เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ (สวอนซี)
อีกหนึ่งหน่อจากคลับหงส์ขาวที่เล่นได้เหนียวแน่นสุดๆ เฟร์นานเดซ เคลียร์บอลอันตรายได้ถึง 18 ครั้งมากที่สุดในเกม และป้องกันลูกโด่งอีก 6 ครั้งช่วยให้ สวอนซี เก็บคลีนชีตได้สำเร็จ

เซนเตอร์ฮาล์ฟ : ชโคดราน มุสตาฟี่ (อาร์เซนอล)
แนวรับอินทรีเหล็ก แข็งแกร่งเอามากๆ และเกือบพังประตูชัยให้ทีมได้ด้วย แต่น่าเสียดายดันเป็นลูกล้ำหน้า ซึ่งผลงานของ มุสตาฟี่ แบ่งเป็นการเข้าปะทะสำเร็จ 2 จาก 5 ครั้ง, เคลียร์บอลอันตราย 8 ครั้ง, ตัดบอล 2 ครั้ง, ป้องกันลูกกลางอากาศ 6 ครั้ง และการตามติดชีวิต อัลบาโร่ โมราต้า หัวหอกเจ้าถิ่นไม่ให้ทำงานของตัวเองได้ถนัด ส่งผลให้ อาร์เซนอล บุกยันเสมอ เชลซี ไปแบบสนุก 0-0

เซนเตอร์ฮาล์ฟ : จามาล ลาเซลเลส (นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด)
ทำผลงานได้เยี่ยมยอดอีกแล้วสำหรับกัปตันทัพสาลิกาดง ลาเซลเลส เคลียร์บอลอันตรายได้ 6 ครั้ง, ป้องกันลูกโด่ง 5 ครั้ง และเป็นผู้พังประตูชัยให้ นิวคาสเซิ่ล เปิดรังชนะ สโต๊ค ซิตี้ 2-1 เป็นการทำประตูได้เป็นเกมที่สองติดต่อกันของแนวรับวัย 23 ปีรายนี้

วิงแบ๊กขวา : อันโตนิโอ วาเลนเซีย (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
หลายต่อหลายนัดมีเสียงครหาถึงแบ๊กขวาวัย 32 ขวบว่าเปิดบอลไม่เป็นสัปปะรดเอาซะเลย นัดนี้ "โตโน่ วาเลนเซีย" จัดให้อย่างสาสม แต่ไม่ใช้การเปิดบอลให้เพื่อนทำประตู แต่เป็นการสับไกที่โคตรสวยต่างหาก!

 กัปตันทีมปีศาจแดงในเกมนี้ ตะบันเต็มตีนขวาจากนอกกรอบ บอลพุ่งทะยานผ่านมือ จอร์แดน พิคฟอร์ด เป็นประตูเบิกร่องให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีชัยเหนือ เอฟเวอร์ตัน ในท้ายที่สุด

กองกลาง : มารูยาน เฟลไลนี่ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
ลูกรักเฮียมู ได้โอกาสลงเป็นตัวจริงก่อน อันเดร เอร์เรร่า ในเกมนี้ ซึ่งฟอร์มก็ใช้ได้เลยในการปัดกวาดหน้าบ้านของตัวเองร่วมกับ เนมันย่า มาติช โดย "พี่ฟู" เข้าปะทะสำเร็จ 4 จาก 5 ครั้ง, ตัดบอล 4 ครั้ง, ชนะดวลลูกกลางอากาศ 5 และป้องกันได้ 3 ครั้ง หากยังรักษามาตรฐานได้แบบนี้ เฟลไลนี่ ก็มีโอกาสยึดตัวจริงได้ยาวๆเช่นกัน ในช่วงที่ ปอล ป็อกบา ต้องนอนดูเพื่อนเล่นหลังได้รับบาดเจ็บ

กองกลาง : เควิน เดอ บรอยน์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
พ่อค้าแข้งเลือดเบลเจี้ยน ฟอร์มแหล่มต่อเนื่อง คอนโทรลแดนกลางได้สมบูรณ์แบบ รวมไปถึงลูกตั้งเตะที่หวังผลได้ ซึ่งประตูเปิดหัวก็มาจากฝีเท้าของ เดอ บรอยน์ ที่บรรจงเปิดฟรีคิกเข้าหัวของ เซร์คิโอ อเกวโร่ โขกขึ้นนำ 1-0 นั่นเอง

วิงแบ๊กซ้าย : เซอัด โคลาซินัช (อาร์เซนอล)
แบ๊กซ้ายบอสเนียฯ แข็งโป๊กเลยในการปิดการขึ้นเกมรุกทางกราบขวาของ เชลซี โดย โคลาซินัช เข้าปะทะสำเร็จ 4 ครั้ง, เคลียร์บอลอันตราย 2 ครั้ง, ตัดบอล 2 ครั้ง, ป้องกันลูกกลางอากาศ 2 ครั้ง และเป็นผู้ถูกกระทำในจังหวะที่ ดาวิด ลุยซ์ เข้าเสียบเปิดปุ่มอย่างน่าเกลียด ส่งผลให้ปราการหลังเจ้าถิ่นโดนไล่ออกจากสนามในช่วงท้ายเกมด้วย

กองกลางตัวรุก : ดาบิด ซิลบา (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
"เฮียโล้น" ขับเคลื่อนเกมรุกกับ เควิน เดอ บรอยน์ ได้อย่างสนุกสนาน เกมนี้ ซิลบา เข้าปะทะสำเร็จ 2 จาก 5 ครั้ง, ผ่านบอลสำเร็จ 93%, ผ่านบอลได้เสียถึง 5 ครั้งสูงสุดในทีม เปลี่ยนเป็น 2 แอสซิสต์แจ่มๆให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ และ นิโกลัส โอตาเมนดี้ พังตาข่ายได้

กองหน้า : เซร์คิโอ อเกวโร่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
คงไม่ต้องสาธยายอะไรมากกับฟอร์มการเล่นในนัดนี้ของ "เอล กุน" ผลงานซัด 1 แฮตทริก และจ่ายให้ กาเบรียล เชซุส จบสกอร์ได้อีก กับเกมบุกยำ วัตฟอร์ด 6-0 ซึ่ง 3 ลูกในนัดนี้ส่งผลให้ อเกวโร่ ทำประตูให้คลับเรือใบจากการลงเล่นรวมทุกรายการไปแล้ว 175 ลูก ถือว่ามากสุดตลอดกาลของสโมสรเป็นอันดับสองตามหลัง เอริค บรู๊ค เพียงแค่ 2 ลูก อีกทั้งยังขยับขึ้นมารั้งที่ 5 ดาวเตะพรีเมียร์ลีกที่ทำแฮตทริกมากที่สุด โดยตอนนี้เจ้าตัวทำได้อยู่ที่ 6 ครั้ง

 กองหน้า : โรเมลู ลูกากู (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
อาจดูเงียบไปนิดในการเจอทีมเก่า แต่ ลูกากู ก็ยังแผลงฤทธิ์ได้ ด้วยการยิง 1 จ่าย 1 ให้ "ปีศาจแดง" เปิดบ้านรัว ทอฟฟี่สีน้ำเงิน 4-0 และหนึ่งประตูดังกล่าวก็ทำให้ ลูกากู เป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 4 ที่ทำประตูในลีกครบ 90 ลูกอีกด้วย