"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล พบกับความพ่ายแพ้หนที่สองติดต่อกันในรอบสัปดาห์ หลังโดน เวสต์บรอมวิช บุกมาคว้าชัยถึงแอนฟิลด์ 3-2 โดยเกมนี้ระบบ วีเออาร์ (VAR) นำมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการไม่ได้ประตูของทีมเยือนรวมถึงการได้จุดโทษของเจ้าถิ่นก่อนที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ จะบอดโทษ ส่งผลให้ "เดอะ แบ็กกี้ส์" ตีตั๋วเข้าไปเล่นในรอบ 5 ต่อไป ในเกม เอฟเอ คัพ อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 4
วันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2561
ลิเวอร์พูล 3 - เวสต์บรอมวิช 2

สนาม : แอนฟิลด์

    "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล รอบที่แล้ว คว้าชัยเหนือคู่ปรับร่วมเมือง เอฟเวอร์ตัน 2-1 ในเข้ามาได้จากประตูชัยของ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ที่วันนี้ได้ยืนคุมแนวรับร่วมกับ โจเอล มาติป แถมยังได้ อัลแบร์โต้ โมเรโน่ หายเจ็บกลับมาทำหน้าที่แบ็กซ้าย ส่วน
แดนกลาง เอ็มเร่ ชาน รับบทกัปตันทีม ส่วนแนวรุกจัดหนักส่ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และโรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่

    ส่วน "เดอะ แบ็กกี้ส์" เวสต์บรอมวิช ผ่านเอ็กเซเตอร์ 2-0 เกมนี้วาง ฮัล ร็อบสัน-คานู เป็นหน้าเป้า ส่วนแดนกลางอัดแน่นทั้ง คริส บรันท์, เจค ลิเวอร์มอร์, แกเร็ธ แบร์รี่, เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค และเจย์ โรดริเกซ

    เพียงแค่ 6 นาทีแรก "หงส์แดง" ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จอนนี่ อีแวนท์ กัปตันแบ็กกี้ส์ทำพลาดปล่อยให้ ซาลาห์ หลุดเข้าไปซัดติดเซฟ เบน ฟอสเตอร์ แต่บอลยังไปเข้าทาง ฟีร์มีโน่ ชิพบอลข้ามหัวเข้าไปอย่างเหนือชั้น

    กระนั้น นาทีเดียวถัดมา เวสต์บรอมวิช ไล่ตีเสมอ 1-1 ทันควัน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เข้าบอลโฉ่งฉ่าง คริส บรันท์ ตัดบอลได้ก่อนแทงบอลให้ เจย์ โรดริเกซ หลุดเข้าไปซัดเต็มข้อบอลติดไซด์ก้อยหนีมือ มิโญเล่ต์ เสียบมุมเข้าไปอย่าง
หมดจด

    เท่านั้นยังไม่พอ นาที 11 แฟนบอล "เร้ด แมชีน" ต้องเงียบกริบหลัง "แบ็กกี้ส์" พลิกขึ้นนำ 2-1 บอลเริ่มจาก ครีโชเวียค ไหลออกทางซ้ายให้ คีแรน กิ๊บบ์ส ปาดบอลเลียดมาหน้าประตูให้ เจย์ โรดริเกซ แปบอลง่ายๆเข้าไป เป็นประตูที่สองในเกมนี้
ของอดีตดาวยิงจากนักบุญ

    แนวรับเจ้าถิ่นยังเล่นกันผิดพลาด และนาที 23 หวิดเสียประตูเพิ่ม หลัง เคร็ก ดอว์สัน โขกบอลเข้าประตู แต่ เคร็ก พาวสัน เช็กจาก VAR ก่อนตัดสินใจให้ทีมเยือนไม่ได้ประตู เนื่องจาก เจค ลิเวอร์มอร์ อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าและมีส่วนกับการได้ประตู

    นาที 25 เคร็ก พาวสัน เชิ้ตดำต้องวิ่งไปดู "วีเออาร์" หรือวิดีโอผู้ช่วยผู้ช่วยผู้ตัดสินข้างสนาม หลัง อัลแล็ง นียอม พยายามขัดขวางการเล่นของ ซาลาห์ ด้วยการไปดึงในเขตโทษ ก่อนที่จะตัดสินชี้ให้เจ้าถิ่นได้จุดโทษ ทว่า ฟีร์มีโน่ ทำให้สาวกหงส์
เซ็งเมื่อซัดไปชนคานอย่างจัง สกอร์เจ้าบ้านยังตาม 1-2 เหมือนเดิม

    อลัน พาร์ดิว ต้องเปลี่ยนตัวคนแรก นาที 38 หลัง ฮัล ร็อบสัน-คานู หัวหอกของทีมมีอาการบาดเจ็บ ก่อนจะส่ง แม็ตต์ ฟิลลิปส์ ลงไปเล่นแทน

    ช่วงทดเจ็บก่อนจบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ต้องมาเสียประตูที่สามให้ "แบ็กกี้ส์" หลังแนวรับ "หงส์แดง" เช็กไลน์พลาด เคร็ก ดอว์สัน ปาดบอลผ่านฟาน ไดค์ ก่อนบอลจะเลยไปโดน มาติป เข้าประตูตัวเองไป

    จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ตามหลัง เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 1-3

    เริ่มครึ่งหลังมาแค่ นาที 49 เคร็ก ดอว์สัน โขกบอลผ่านมิโญเล่ต์ที่ออกมาชกบอลพลาดซุกก้นตาข่าย แต่ผู้ตัดสินปฎิเสธไม่ให้ประตูเนื่องจากเป็นลูกล้ำหน้า

    รูปเกมของเจ้าถิ่นยังตื้อๆไม่ดีขึ้นเลย จน นาที 65 "คล็อปป์" ต้องแก้เกมเปลี่ยนตัวผู้เล่นรวดเดียว 3 คน มิลเนอร์ แทน ชาน, เฮนเดอร์สัน แทน มาเน่ และแดนนี่ อิงส์ แทน อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน

    นาที 74 เจมส์ มิลเนอร์ ได้วอลเลย์ด้วยขวาเต็มข้อในกรอบแต่บอลก็ไม่ผ่านมือ ฟอสเตอร์ ที่ป้องกันไว้ได้ อีกนาทีเดียวถัดมา อิงส์ ได้อัดด้วยซ้ายบอลก็โดน ฟอสเตอร์ เซฟได้อีก แม้มิลเนอร์จะตามซ้ำไปติดขานายด่านแบ็กกี้ส์อีกทีแต่ผู้ตัดสินเป่า
เป็นล้ำหน้า

    ลิเวอร์พูล มาได้ประตูไล่มาเป็น 2-3 จนได้ นาทีที่ 78 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เลี้ยงจี้ขึ้นมาก่อนเปิดด้วยซ้ายมาให้ ฟีร์มีโน่ บอลกระเด้งมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดเลียดผ่าน ฟอสเตอร์ เข้าไป เป็นประตูที่ 25 ในชุดหงส์แดงซีซั่นนี้

    ช่วงเวลาที่เหลือ "หงส์แดง" แม้จะโหมบุกอย่างหนัก แต่ไม่สามารถไล่ตีเสมอได้ จบเกม ลิเวอร์พูล พ่ายคาบ้านให้ เวสต์บรอมวิช 2-3 ส่งผลให้ "เดอะ แบ็กกี้ส์" ตีตั๋วผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 5 เอฟเอ คัพ ต่อไป

    11ผู้เล่นที่ลงสนาม

    ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจเอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน, เอ็มเร่ ชาน (กัปตันทีม), จอร์จินโญ่ ไวนัลดุม - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์
โต้ ฟีร์มีโน่

    ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์

    เวสต์บรอมวิช (4-5-1) : เบน ฟอสเตอร์ - อัลแล็ง นียอม, จอนนี่ อีแวนส์ (กัปตันทีม), เคร็ก ดอว์สัน, คีแรน กิ๊บบ์ส - คริส บรันท์, เจค ลิเวอร์มอร์, แกเร็ธ แบร์รี่, เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค, เจย์ โรดริเกซ - ฮัล ร็อบสัน-คานู

    ผู้จัดการทีม : อลัน พาร์ดิว

    ผู้ตัดสิน: เคร็ก พาว