"ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส ฟอร์มจัดจ้านสะเด่าเหลือหลาย หลังเปิดรังไล่ถลุง "ปีศาจแดง" แมนฯยูไนเต็ด 2-0 จาก คริสเตียน เอริคเซ่น และฟิล โจนส์ ที่ทำเข้าประตูตัวเอง แถม เอริคเซ่น ยังซัดประตูเร็วสุดในพรีเมียร์ลีกเป็นอันดับ 2 ที่ 11 วินาที เป็นรองแค่ เลดลี่ย์ คิง ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันพุธที่ 31 มกราคม 2561
สเปอร์ 2 - แมนฯ ยูไนเต็ด 0

สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม (ลอนดอน)

    ''ไก่เดือยทอง'' ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่เกมล่าสุดในเอฟเอ คัพ รอบ 4 ต้องเป็นฝ่ายไล่ตีเสมอ นิวพอร์ท ทีมลีก ทู 1-1 ส่วนผลงานในลีกไม่แพ้ในมา 6 เกมติดต่อกัน โดยเกมนี้จัดชุดใหญ่ แฮร์รี่ เคน ดาวซัลโวของลีกเป็นตัวจบสกอร์ และใช้ คริสเตียน เอริคเซ่น, เดเล่ อัลลี่ และซน ฮึง-มิน สนับสนุน

    ทางฝั่ง โชเซ่ มูรินโญ่ นายใหญ่ "ปีศาจแดง" เพิ่งจะพาลูกทีมบุกไปถล่ม โยวิล ทาวน์ ทีมลีก ทู ในเอฟเอ คัพ รอบ 4 นัดล่าสุดถึง 4-0 เก็บชัยชนะ 5 นัดติดต่อกันทุกรายการชนิดไม่เสียประตูให้คู่แข่ง เกมนี้จัด อเล็กซิส ซานเชซ สตาร์ตัวใหม่ขับเคลื่อนเกมร่วมกับ เจสซี่ ลินการ์ด และอ็องโตนี่ มาร์กซิยาล โดยทิ้ง โรเมลู ลูกากู เป็นหน้าเป้า

    เปิดฉากมาแค่ 11 วินาที "ไก่เดือยทอง" ได้ประตูขึ้นนำแบบรวดเร็ว จากจังหวะเขี่ยบอลกลางสนาม แฟร์ต็องเก้น เปิดยาวให้ เคน โขกชงต่อให้ เดเล่ อัลลี่ สะกิดบอลต่อให้ เอริคเซ่น วิ่งมาแปด้วยซ้ายผ่านมือ เด เคอา เข้าไป สเปอร์ส ชิ่งนำก่อน 1-0 ทำสถิติยิงเร็วสุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก เป็นรองแค่ เลดลี่ย์ คิง (9.7วิ.) ของ สเปอร์ส เช่นกัน ในเกมที่เสมอกับ แบร็ดฟอร์ด 3-3

    "ผีแดง" หลังเสียประตูเร็วแต่ไก่โห่ โหมบุกหนัก นาที 3 ทีมเยือนพลาดโอกาสตีเสมอ ป็อกบา จ่ายทะลุช่องให้ ลินการ์ด หลุดเข้าไปดวลกับ โยริส แต่ยิงไปติดเซฟของนายด่านเลือดน้ำหอม

    แมนฯยูไนเต็ด ยังครองบอลได้เหนือกว่า นาที 20 อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล สลับขึ้นทางขวาเลี้ยงตัดเข้ากลางแต่ยิงเหินคานไปไกล

    จากนั้นแค่ 4 นาที กลายเป็นเจ้าถิ่นที่โต้กลับได้น้ำได้เนื้อกว่า เอริคเซ่น จ่ายตัดแบ็กเข้ากลางให้ เคน หนีสมอลลิ่งเข้าไปยิงแต่บอลเบาไปเข้ามือ เด เอคา

    เสียงเฮลั่นของแฟนไก่ดังลั่นในเวมบลี่ย์อีกรอบ เมื่อมาได้ประตูนำห่าง 2-0 ในนาที 28 จากจังหวะที่ คีแรน ทริปเปียร์ ครอสบอลจากด้านข้างเข้าไป ฟิล โจนส์ วิ่งมาสกัดด้วยขวาบอลผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองไป

    ลูกทีมของ มูรินโญ่ อยู่ไม่ติดหลังเสียไปสองเม็ด ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง นาที 30 มาร์กซิยาล ใช้สปีดเลี้ยงกินแดนก่อนสบจังหวะง้างเต็มข้อแต่บอลก็ไม่พลาดมือ โยริส ปัดออกหลังไป

    ทีมเยือนยังเล่นกันได้ไม่มีทรง ช่วงท้ายเกมหวิดเสียประตูอีกเม็ด หลัง แฮร์รี เคน หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาแต่บอลยังไม่ห่างมือ เด เคอา รับเข้ามือไว้ได้ จบครึ่งแรก สเปอร์ส ขึ้นนำ แมนฯยูไนเต็ด 2-0

    กลับมาว่าต่อในครึ่งหลัง แค่ 5 นาทีแนวรับ "ปีศาจแดง" ยังโดนปั่นป่วน เคน หลุดเข้าไปซัดติดเซฟเด เคอา แต่เป็นลูกล้ำหน้า

    นาที 55 ลูกากู หลังจากเงียบจากครึ่งแรก ได้โอกาสซัดเข้ากรอบหนแรกแต่บอลก็โดน โยริส ปฎิเสธเซฟออกหลังไป

    มูรินโญ่ ต้องแก้เกมด้วยการส่ง เฟลไลนี่ และมาต้า ลงมาเล่นแทน ลินการ์ด และป็อกบา

    นาที 65 แฟนเจ้าถิ่นหวิดได้ลั่นอีกหน หลัง เอริคเซ่น ตะบันไกลเต็มข้อบอลพุ่งเป็นจรวดเฉียดเสาสองออกไปแบบน่าเสียดาย

    ถัดมาแค่นาทีเดียว อัลลี่ จ่ายเข้ากลางให้ เอริคเซ่น วิ่งข้ามหลอกให้ เคน ตามมาซัดแต่บอลก็ยังเบาไปเข้ามือเด เคอา

    สเปอร์ส ยังครองบอลได้เหนือกว่า คราวนี้ นาที 69 ได้ลุ้นจากจังหวะยิงของ ซน ฮึง-มิน แต่บอลพุ่งไปติดตัว เด เคอา หลุดหลังออกไปแบบน่าเสียดาย

    นาที 70 มูรินโญ่ เปลี่ยนคนสุดท้ายถอดเอา เฟลไลนี่ ที่อยู่ในสนามไม่ถึงสิบนาทีออกแล้วส่ง  เอร์เรร่า ลงไปแทน

    เจ้าถิ่นดาหน้าลุยบุกไม่ยั้ง ตรงข้ามกับปีศาจแดงที่โงหัวบุกไม่ขึ้น ท้ายเกม เคน ได้ลองปั่นฟรีคิกระยะได้ลุ้นแต่ดาวยิงทีมชาติอังกฤษซัดเหินคานไปหมดลุ้น

    จบเกม สเปอร์ส เปิดรังไล่บดเอาชนะ แมนฯยูไนเต็ด 2-0    

    11ผู้เล่นที่ลงสนามทั้งสองทีม

    สเปอร์ส (4-2-3-1) : อูโก้ โยริส - คีแรน ทริปเปียร์, ดาวินซอน ซานเชซ, แยน แฟร์ต็องเก้น, เบน เดวิส - เอริก ดายเออร์, มูซ่า เดมเบเล่ - คริสเตียน เอริคเซ่น, เดเล่ อัลลี่, ซน ฮึง-มิน - แฮร์รี่ เคน

    ผู้จัดการทีม : เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่

    แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, คริส สมอลลิ่ง, ฟิล โจนส์, แอชลี่ย์ ยัง -  เนมานย่า มาติช, ปอล ป็อกบา - เจสซี่ ลินการ์ด, อเล็กซิส ซานเชซ, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล - โรเมลู ลูกากู

    ผู้จัดการทีม : โชเซ่ มูรินโญ่

    ผู้ตัดสิน : อังเดร มาร์ริเนอร์
 

Getty Images