"คริสเตียโน่ โรนัลโด้" ทำประตูแตะหลักร้อยลูกในสีเสื้อ "ราชันชุดขาว" เรอัลมาดริด บนเวทีถ้วยยุโรปได้สำเร็จ หลังทำสองลูกพาทีมถลุง "เปแอสเช" 3-1 กุมความได้เปรียบก่อนออกเยือน ในการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกแรก คืนวันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกแรก
วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561
เรอัลมาดริด 3-1 เปแอสเช

   ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกแรก "แชมป์เก่า" "ราชันชุดขาว" เรอัลมาดริด จัดผู้เล่นชุดใหญ่แนวรุกมี  "อิสโก้,เบนเซม่า,โรนัลโด้" เปิดถิ่นรอรับ "เปแอสเช" ที่ขนนักเตะ แนวรับกัปตันทีม ติอาโก้ ซิลวา มีรายชื่อเป็นตัวสำรอง ส่วนแผงหน้านำโดย "เนย์มาร์,คาวานี่,เอ็มบัปเป้" 

   ครึ่งแรกเพียงนาทีที่ 3 เจ้าถิ่นทักทายก่อน อิสโก้ เปิดบอลขึ้นหน้าให้ โรนัลโด้ ก่อนเจ้าตัวจะเอี่ยวยิงจากกรอบเขตโทษด้านขวา บอลผ่านประตูทีมเยือนไปแบบได้ลุ้น

   ผ่านมาอีกสองนาทียังคงเป็น "ราชันชุดขาว" เกือบออกนำ โทนี่ โครส ได้บอลหน้าเขตโทษจากการลูเตะมุม ก่อนยิงด้วยเท้าขวา แต่ นายด่านเปแอสเช เซฟไว้ได้บอลกระเด็นออกมา แนวรับผู้มาเยือนเคลียร์ออกหลังไป

   เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 17 เปแอสเช ชวดได้จุดโทษจากจังหวะ เนย์มาร์ กระชากบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนผ่านบอลมาหน้าประตู บอลโดนมือผู้เล่นเจ้าบ้าน แต่กรรมการไม่ได้เป่าให้เป็นจุดโทษ

   ต่อมานาทีที่ 26 เจ้าถิ่นได้ฟรีคิกบริเวณหน้ากรอบเขตโทษแต่ โรนัลโด้ ซัดข้ามคลานไปพอสมควร ก่อนที่สองนาทีต่อมา โรนัลโด้ ได้โอกาสหลุดเดี่ยวจากการเปิดของมาร์เซโล่ โดยยิงสวนตัวนายทวารทีมเยือนแต่ไม่ถูกเซฟไว้ได้

   และแล้วนาทีที่ 33 เปแอสเช ทำประตูอเวย์โกลสำเร็จ เอ็มบัปเป้ เปิดบอลจากริมเส้น ผ่านมาหน้าประตูแนวรับ มาดริด สกัดไม่ดี บอลเข้าทาง ราบิโอต์ แปะบอลซุกก้นตาข่าย ออกนำ 1-0

   ถึงนาทีที่ 37 เแผงกองหลัง เปแอสเช จ่ายบอลพลาดมาเข้าทาง โรนัลโด้ แบบโล่ง ๆ แต่เจ้าตัวกลับยิงโด่งข้ามคานออกไปเหลือเชื่อ

   นาทีที่ 43 เจ้าบ้านได้เฮสนั่น โครส เลื้อยบอลเข้ามากรอบเขตโทษด้านซ้าย โล เซลโซ ผู้เล่นทีมเยือนดึงเสื้อล้มลงไป กรรมการเป่าให้ลูกจุดโทษ ก่อนที่จะเป็น โรนัลโด้ ซัดไปทางด้านขวามือของประตูตีเสมอเป็น 1-1 และเป็นประตูที่ 100 ในการรับใช้ "ราชันชุดขาว" ในศึกบอลยุโรป จบครึ่งแรกแชมป์เก่า เรอัลมาดริด ตามตีเสมอ เปแอสเช 1-1

   ครึ่งหลังเริ่มขึ้น 49 ทีมเยือนได้ลุ้นลูกสอง เนย์มาร์ ไหลบอลจากเขตโทษด้านซ้ายมาให้ เอ็มบัปเป้ ยิงก่อนบอลพุ่งติดเซฟนายด่านเจ้าถิ่น ชวดออกนำอีกครั้ง ต่อมานาทีที่ 55 เปแอสเช สร้างสรรค์โอกาสพังตาข่ายอีกหน ราบิโอต์ ลองส่องไกลแต่ยังดีแนวรับเจ้าบ้านอย่าง รามอส เอาตัวเข้าบล็อกบอลได้ทันอย่างหวุดหวิด

   นาทีที่ 68 ซีดาน นายใหญ่ทีมเจ้าบ้านตัดสินใจส่ง แกเร็ธ เบล ปีกซ้ายทีมชาติเวลส์ ลงมาแทน คาริม เบนเซม่า ที่ช่วงครึ่งหลังแทบไม่มีส่วนร่วมกับเกม พอถึงนาทีที่ 77 แกเร็ธ เบล รับบอลจากการโยนของเพื่อนร่วมทีม ก่อนจะหยอดบอลย้อยมาให้ โรนัลโด้ ซัดบอลติดแนวรับ เปแอสเช ออกหลังไป 

   แต่แล้วนาทีที่ 83 โรนัลโด้ มาทำประตูลูกทีมสองของเจ้าตัวและทีมเกมนี้ จากการซ้ำลูกยิงของ อเซนซิโอ ที่เป็นตัวสำรอง เข้าไปให้ทีมแซงนำเป็น 2-1 สองนาทีตอมากลายเป็น เรอัลมาดริดได้เปรียบหนักกว่าเดิม เมื่อมาร์เซโล่ พังสกอร์ให้เจ้าบ้าน ฉีกหนีเป็น 3-1 จบเกมแชมป์เก่า เรอัลมาดริด เอาชนะ เปแอสเช พร้อมดวลกันเลกสอง วันที่ 6 มีนาคมต่อไป

   รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
เรอัลมาดริด:เคย์เลอร์ นาวาส,นาโช่,ราฟาเอล วาราน,เซร์คิโอ รามอส,มาร์เซโล่,ลูก้า โมดริช,โทนี่ โครส,คาเซมิโร่,อิสโก้,คาริม เบนเซม่า,คริสเตียโน่ โรนัลโด้
เปแอสเช:อัลโฟนเซ อเรโอลา,ดานิ อัลเวส,มาร์ควินญอส,เพรสแนล คิมเพมเบ้,ยูริ เบร์ชีเช่,มาร์โก แวร์รัตติ,โจบานี โล เซลโซ,อาเดรียง ราบิโอต์,คีเลียน เอ็มบัปเป้,เอดิสัน คาวานี่,เนย์มาร์