ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » พล.ต.อ.จักรทิพย์เตรียมกระซวกผู้กระทำล้มบอลไทยนัดไต่สวน 24 เม.ย.นี้

พล.ต.อ.จักรทิพย์เตรียมกระซวกผู้กระทำล้มบอลไทยนัดไต่สวน 24 เม.ย.นี้

Posted 14/03/2018 by siamsport

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เตรียมกระซวกผู้กระทำล้มบอลไทย 15 คน นัดไต่สวนอีกคร้ง 10 โมงเช้า วันที่ 24 เม.ย.นี้ ด้าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เผย ทุกอย่างเป็นไปตามคดีไม่มีกลั่นแกล้งผิดว่าตามผิด แต่ยังมีคนที่มีเกี่ยวข้องยังไม่หยุดพฤติกรรมทำลายวงการลูกหนังไทย วอนทุกฝ่ายช่วยกันเป็นหูเป็นตา หลังจากวงจรอุบาทว์ยังไม่หมดกลิ่นสาบในเวลานี้

หลังจากที่สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือเอเอฟซี ได้แจ้งกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ให้ตรวจสอบกรณีที่สงสัยว่า อาจมีการล็อคผลสกอร์ในฟุตบอลไทย กระทั่งทาง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯได้ประสานกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เพื่อนำหลักฐานที่ตรวจสอบได้ว่าการแข่งขัน โตโยต้า ไทย ลีก 2017 จำนวน 4 นัด เข้าข่ายกระทำความผิดเกี่ยวกับการล้มบอล โดยเป็นทีมในลีกสูงสุดทั้งหมด และมีการทำประตูในช่วงท้ายเกมมากผิดปกติ

จากนั้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. วันอังคารที่ 21 พ.ย. 2560 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้ตั้งทีม ประกอบด้วยเจ้าหน้าตำรวจในสังกัด บช.น. และบช.ก. รวมกว่า 30 นาย ร่วมกันทำงาน เก็บข้อมูลกับทางสมาคมฟุตบอลฯ พบว่า มีขบวนการล้มบอลจริง มีผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 12 ราย โดยผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 12 รายมีดังต่อไปนี้

นักฟุตบอลอาชีพ 5 รายประกอบด้วย 1.นายสุทธิพงษ์ เหลาพร นักฟุตบอลทีมราชนาวี เอฟซี, 2.นายณรงค์ วงษ์ทองคำ ผู้รักษาประตู ทีมราชนาวี เอฟซี, 3.นายสุวิทยา นำสินหลาก นักฟุตบอลทีมราชนาวี เอฟซี, 4.นายเสกสันต์ ชาวทองหลาง นักฟุตบอลทีมราชนาวี เอฟซี, 5.นายวีระ เกิดพุดซา ผู้รักษาประตูทีมนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี

ผู้ตัดสิน (ฟีฟ่า) 1 ราย คือ นายภูมิรินทร์ คำรื่น และไลน์แมน 1 ราย คือ นายธีรจิตร สิทธิศุข

ผู้บริหารสโมสร 1 ราย คือ นายเชิดศักดิ์ บุญชู ผู้อำนวยการสโมสรศรีสะเกษ เอฟซี

กลุ่มนายทุนหรือตัวแทนนายทุน 4 ราย คือ 1.นายวัลลภ สมาน, 2.นายกิตติภูมิ ปาภูงา, 3.นายมานิตย์ หรือ เศรษฐปสิทธิ์ โกมลวัฒนะ, 4.นายภาคภูมิ พันธ์นิกุล

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 มี.ค. 61 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผช.ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีล็อกผลสกอร์ (ล้มบอล) การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทย ลีก 2017 พร้อมคณะกว่า 10 นาย ได้นำสำนวนการสอบสวนพร้อมพยานหลักฐาน 10 แฟ้ม 3,000 หน้า และความเห็นสมควรฟ้องผู้ต้องหากลุ่มนายทุนพนัน, นักฟุตบอล และกรรมการตัดสินกับผู้ช่วยผู้ตัดสิน รวม 15 ราย ในความผิดร่วมกันล้มบอลและร่วมกันสนับสนุนล้มบอล ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ. 2556

ทั้งนี้ มีโทษตามกฎหมายฐานเป็นผู้ให้ทรัพย์สินเพื่อจูงใจให้นักกีฬาอาชีพทำการล้มกีฬา ตามมาตรา 64, ฐานเป็นผู้ใดเรียกรับทรัพย์เพื่อประโยชน์ตนเองหรือผู้อื่นฯ มาตรา 65, ผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน เพื่อจูงใจให้การตัดสินไม่เที่ยงธรรม ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับ ตั้งแต่ 200,000 – 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และฐานเป็นผู้ตัดสินเรียกรับทรัพย์สินฯ มาตรา 67 ระวางโทษจำคุก 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 300,000 – 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พล.ต.อ.จักรทิพย์ เผยว่า “คดีนี้เป็นคดีแรกตามความผิด พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ.2556 ที่ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน และดำเนินการ ได้ ซึ่งยอมรับว่าสำนวนคดีมีความถูกต้องและสมบูรณ์ โดยสำนวนคดีนี้มีทั้งหมด 10 แฟ้ม 3,000 หน้า ซึ่งได้มีการส่งสำนวนยื่นฟ้องผู้ต้องหา 16 คน แบ่งออกเป็น นายทุน 6 คน ผู้ตัดสิน 1 คน ประชาชน 1 คน นักฟุตบอล 8 ซึ่งมีการส่งฟ้อง 15 คน และ ไม่ส่งฟ้อง 1 คน

“การดำเนินคดีนี้เป็นไปตามที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร้องทุกข์ ซึ่งถือเป็นคดีแรกการล้มกีฬา หรือล้มบอล ที่ได้ดำเนินการภายหลัง พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพฯ ที่เริ่มบังคับใช้ปี 2556 ซึ่งพนักงานสอบสวนอย่างเต็มที่โดยเราไม่ได้เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ”

 ขณะที่ นายพรชัย ชลวาณิชกุล รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา เผยว่า “ในส่วนการทำงานของอัยการ ได้ตั้งคณะทำงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 6 รับผิดชอบรวม 5-6 คน โดยมีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 6 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน เบื้องต้นเท่าที่ทราบกลุ่มผู้ต้องหา แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ซึ่งในสำนวนมีหลักฐานเชื่อมโยงเส้นทางการเงิน และแสดงให้เห็นเจตนาไว้”

“แต่อย่างไรก็ดีในการพิจารณาสำนวนอัยการจะทำโดยรอบคอบพิจารณาให้ครบถ้วน โดยอัยการจะกำหนดนัดให้ผู้ต้องหามารายงานตัวแบบเดือนต่อเดือน เพื่อรอฟังผลการสั่งคดี ซึ่งอัยการจะดำเนินให้รวดเร็ว ซึ่งคดีนี้ถือว่ากระทบต่อวงการกีฬาไทย เราก็จะดำเนินรอบคอบที่สุด โดยขณะทำงานคดีอัยการคดีอาญา 6 จะนัดผู้ต้องหาล้มบอลไทยลีก มาฟังคำสั่งครั้งแรกในวันที่ 24 เม.ย. นี้ เวลา 10.00 น.”

ฟาก "บิ๊กอ๊อด"พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ออกมาพูดถึงเรื่องดังกล่าวทันทีที่ทราบผลของการไต่สวนว่า "หลังเราได้มีการดำเนินแก้ไขปัญหาล็อคผลบอล เจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่ตามขั้นตอน ทุกอย่างว่าไปตามหลักฐาน เราจะไม่มีการกลั่นแกล้งหรือช่วยเหลือใครทั้งสิ้น"

 

 "เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นมะเร็งร้ายของวงการฟุตบอล ถ้าเราไม่แก้ไขก็จะทำให้วงการเราล่มสลายเหมือนกับประเทศเพื่อนบ้านเราที่ประสบมาแล้ว สิ่งเหล่านี้ยังไม่หมดสิ้นไปจากวงการฟุตบอล เรายังไม่หยุดอย่างเด็ดขาด เพราะเราได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งรายงานผมว่ายังมีการดำเนินการและสืบสวนต่อไป" 

 "หากว่ามีข้อมูล หลักฐานถึงใครก็จะสาวไส้ไปถึงคนนั้น หากแม้ว่าผมจะอยู่เป็นนายกสมามฯ ในวันข้างหน้าหรือไม่ก็ตาม ก็ต้องฝากถึงคนที่จะมาทำหน่าที่ต่อไปว่ามันสร้างความเสียหาย หากไม่ร่วมมือกัน ผู้บริหารส.บอล, สโมสร, นักกีฬา, ผู้ตัดสิน จำเป็นต้องซื่อสัตย์ต่ออาชีพของท่าน เนื่องจากเป็นรายได้ที่ดูแลตัวเองและครอบครัว

ในเรื่องประเด็นที่ "บิ๊กอ๊อด"เคยออกมาบอกว่า ยังมีกระบวนการล็อกผลฟุตบอลล่วงหน้าที่ไม่หยุด โดยมีอดีตผู้ตัดสินคนดังการพยายามติดต่อผู้ตัดสินหลายคน เพื่อที่จะทำสิ่งที่ไม่ควรทำ แต่มาบอกตนเพราะเป็นสิ่งที่ทำลายวงการฟุตบอลไทยนั้น ล่าสุดเจ้าตัวออกมาชี้แจงเพิ่มว่า

"อย่างที่ผมบอก ความพยายามล็อคผลบอลยังไม่หมดไปจากวงการฟุตบอล เนื่องจากมีผู้ตัดสินหลายคนมารายงานให้ผมได้ทราบเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลกำลังำยายามสิ่งเหล่านี้อยู่ แต่เราไม่ลดละความพยายามแน่นอน"

"บอกได้เลยว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ วงการฟุตบอลจะเสียหายเพราะท่านไม่กี่คน ท่านมีรายได้จากตรงนี้แต่เป็นบ่อนทำลายทุกอย่าง ผมอยากจะบอกทุกคนว่าต้องช่วยกัน สมาคมฯคงจะแก้ปัญหาทั้งหมดไม่ได้มากนัก ในที่แจ้งเขาคงไม่ทำกันเพราะจะทำในที่ลับ

"หากไม่ช่วยหกันดูแลให้สิ่งชั่สร้ายเข้ามาสู่สโมสรของท่าน วันหนึ่งท่านลงทุนไปกับสโมสรเป็นร้อยๆล้านบาท ทว่าคนเหล่านี้กลับได้เงิน 2-3 แสนบาท ในการล็อคผลการแข่งขันเขาก็ทำแล้วสิ่งเหล่านี้จะสร้างความเสียหายกับบรรดาสโมสรของท่านครับ"

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »