"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เสียเปรียบกฏอะเวย์โกลจากผลเสมอและเสียประตูในบ้านเกมแรกโดย เอแด็น อาซาร์ พร้อมลงล่าตาข่าย นัดเยือนถิ่น "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ที่ ลิโอเนล เมสซี่ ดาวยิงตัวเก่งจะกลับคืนทีมอีกครั้ง ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่2) คืนวันพุธที่ 14 มี.ค. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : beIN SPORTS 1, เวลา : 02.45 น.

ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

(รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2)

วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2561

บาร์เซโลน่า (สเปน) - เชลซี (อังกฤษ)

(นัดแรกทั้งสองทีมเสมอกันที่สกอร์ 1-1)

ถ่ายทอดสด : beIN SPORTS 1, เวลา : 02.45 น.

สนาม : คัมป์ นู
    เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เทรนเนอร์ บาร์เซโลน่า พาทีมเสมอเชลซี 1-1 ในเกมแรก ก่อนชนะ มาลาก้า 2-0 ในเกมลีกล่าสุด เป็นชัยชนะ 3 นัดติด 

    สภาพทีมเกมนี้ บัลเบร์เด้จะได้ เนลสัน เซเมโด้ พ้นโทษแบนกลับมาเสริม แต่ก็มีอาการบาดเจ็บรบกวน ต้องรอทดสอบความฟิต เช่นเดียวกับ อันเดรส อีเนียสต้า ที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า แต่ในรายของ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่ติดคัพ-ไท ชวดแน่นอน 

    ส่วน ลิโอเนล เมสซี่ สตาร์ประจำทีมที่พลาดเกมลีกล่าสุด เพราะไปเฝ้าภรรยาที่ให้กำเนิดลูกคนที่ 3 ก็พร้อมกลับมาช่วยทีมตามปกติ เช่นเดียวกับแกนหลักรายอื่นๆ อย่าง เคราร์ด ปีเก้, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ และ หลุยส์ ซัวเรซ 

    อันโตนิโอ คอนเต้ เทรนเนอร์ เชลซี พาทีมเสมอ บาร์เซโลน่า 1-1 ในนัดแรก ก่อนอัด คริสตัล พาเลซ 2-1 ในเกมลีกล่าสุด เป็นชัยชนะนัดแรกในรอบ 4 เกม

    สภาพทีมเกมนี้ คอนเต้ต้องรอเช็กความฟิตของ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ (กล้ามเนื้อ) แต่ในรายของ ดาวิด ลุยซ์ (เข่า) และ รอสส์ บาร์คลี่ย์ (เอ็นหลังหัวเข่า) ยังชวดเหมือนเดิม แต่ก็ไม่มีผลอะไร เพราะเป็นแค่สำรองอยู่แล้ว

    นอกจากนั้นไม่มีปัญหาอะไรเพิ่ม แต่อาจมีการปรับทัพในบางตำแหน่ง อันโตนิโอ รือดิเกอร์ น่าจะกลับมาคุมแนวรับแทน แกรี่ เคฮิลล์ เช่นเดียวกับแนวรุกที่น่าจะกลับมาใช้ระบบ False 9 คือดัน เอแด็น อาซาร์ ขึ้นมายืนหน้าเป้า
 
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม   
    บาร์เซโลน่า (4-4-2) : มาร์ค-อันเดร แทร์ ชเตเก้น - เซร์จี้ โรเบร์โต้, เคราร์ด ปีเก้, ซามูแอล อุมติตี้, จอร์ดี้ อัลบา - เปาลินโญ่, อิวาน ราคิติช, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อันเดรส อีเนียสต้า - หลุยส์ ซัวเรซ, ลิโอเนล เมสซี่ 
    เทรนเนอร์ : เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้  
  
    เชลซี (3-4-2-1) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, แกรี่ เคฮิลล์ - วิคเตอร์ โมเสส, เชส ฟาเบรกาส, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาร์กอส อลอนโซ่ - วิลเลี่ยน, เปโดร โรดริเกซ - เอแด็น อาซาร์
    เทรนเนอร์ : อันโตนิโอ คอนเต้

ผู้ตัดสิน : ดาเมียร์ สโคมิน่า (สโลวีเนีย)

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- บาร์ซ่าได้เปรียบเรื่องอะเวย์โกลจากนัดแรกหลังเสมอที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ 1-1
- ทั้งสองทีมพบกัน 13 หนเป็นแชมเปี้ยนส์ ลีก ทั้งหมด และนับแต่ปี 2000 โดย 5 หนในนั้นเป็นการเล่นรอบน็อกเอาต์
- บาร์ซ่าลุ้นเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศเป็นปีที่ 11 ติดต่อกัน ส่วนสิงห์บลูส์ผ่านรอบนี้ไปได้แค่หนเดียวจาก 5 ซีซั่นหลัง
- ทั้งสองทีมเจอกัน 13 หนที่ว่าโดยเชลซีชนะ 4, บาร์ซ่าชนะ 3 และเสมอกันอีก 6 เกม
- บาร์ซ่าได้เล่นในรอบ 16 ทีมทุกปีนับแต่ฤดูกาล 204/05 โดยชนะ 11 จาก 13 หนที่ว่า แต่สองหนที่ตกรอบคือการเจอกับทีมจากอังกฤษนั่นคือ ปี 2005 ต่อเชลซี และต่อหงส์แดงในอีกสองปีต่อมา
- สองหนหลังของบาร์ซ่าในถ้วยนี้ตกรอบก่อนรองชนะเลิศต่อยูเว่ปีก่อน และแอตเลติโก มาดริด ปี 2015/16
- บาร์ซ่าชนะรวดทั้ง 3 เกมในบ้านปีนี้ โดยยิงไป 8 และเสียแค่เม็ดเดียว ที่สำคัญพวกเขาไม่แพ้ใคร 24 เกมติดต่อกันในแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่คัมป์ นู นับแต่กันยายน 2013 (ชนะ 22, เสมอ 2) ซึ่งสองหนที่เสมอคือเจ๊าตราหมีและยูเว่
- บาร์ซ่าเจอกับทีมจากพรีเมียร์ลีกหนสุดท้ายคือการพบกับเรือใบ เมื่อซีซั่นก่อน
- สถิติรวมของเจ้าบุญทุ่มในบ้านเมื่อเจอกับทีมจากอังกฤษคือชนะ 19, เสมอ 11, แพ้ 2 โดยชนะ 4 ครั้งหลังรวดและ 6 จาก 7 หนหลังที่คัมป์ นู
- บาร์ซ่า ชนะ 13 จาก 23 ในการเล่นเหย้า-เยือนเมื่อเจอกับทีมจากแดนผู้ดี โดยพวกเขามีสถิติเสมอเกมเยือนนัดแรก 24 ครั้ง ชนะไป 19 หนถ้ากลับมาเล่นที่บ้าน ส่วนสถิติการดวลจุดโทษในยุโรปคือชนะ 5, แพ้ 1
- เชลซีมีสถิติในรอบ 16 ทีมคือ ชนะ 8, แพ้ 4 ซึ่งพวกเขาเคยตกรอบนี้สองหนติดต่อเปแอสเช ปี 2015 และ 2016
- เชลซีเล่นแบบเหย้า-เยือนรอบน็อกเอาต์เจอกับทีมจากสเปน สถิติ ชนะ 4 และแพ้ 6
- เชลซีไม่แพ้ 10 หนหลังที่มาเยือนสเปน (ชนะ 3, เสมอ 7) โดยพวกเขาเสมอ 5 เกมติดต่อกันก่อนมาชนะตราหมีเมื่อกันยายน
- สถิติของสิงห์บลูส์เมื่อเยือนสโมสรจากสเปนคือ ชนะ 4, เสมอ 7 แพ้ 5 โดยเชลซีชนะ 4 จาก 6 หนหลังในถ้วยยุโรปที่พวกเขาเสมอในบ้านตัวเองก่อน ขณะที่สถิติการดวลจุดโทษอยู่ที่ ชนะ 1 แพ้ 3