ป็นหนึ่งในเกมที่ไม่น่าจดจำของฤดูกาลสำหรับสาวกปีศาจแดง ไปดูประเด็นที่เกิดขึ้นในเกมนี้ว่าจะมีอะไรบ้างที่น่าสนใจ

1. แท็กติกที่ผิดพลาด

เกมนี้ปีศาจแดงต้องการประตูเพื่อเข้ารอบ แต่แท็กติกที่มูรินโญ่กลับเลือกใช้คือการเน้นรัดกุมไม่ให้เสียประตู ซึ่งทำให้ในเกมนี้ผีแดงเหมือนจะกล้าๆกลัวๆในการบุก

เกมรุกจึงไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร แถมเกมรับต้องทำงานหนักโดยเฉพาะรายของเอริค ไบยี่ ทำให้รูปเกมออกมาเป็นที่อึดอัดของแฟนเรดอาร์มี่เป็นอย่างมาก จนถึงขนาดที่แฟนบอลต้องส่งเสียงเรียกร้องให้ทีมบุกสู้บ้าง ดูเหมือนว่ามูรินโญ่จะวางแท็กติกมาพลาดมหันต์จนทำให้ทีมต้องตกรอบไปในที่สุด

2. คู่มิดฟิลด์

    เนมานย่า มาติช และมารูยาน เฟลไลนี่ ออกสตาร์ทตัวจริงแบบเซอร์ไพรส์ โดยเฉพาะในรายของเฟลไลนี่ที่เพิ่งหายเจ็บลงสนามในเกมแดงเดือดที่ผ่านมา แท็กติกของนายใหญ่ปีศาจแดงคือการให้เฟลไลนี่ขึ้นสูงคอยให้เพื่อนป้อนบอลยาวเข้าใส่ ซึ่งดู

    เหมือนว่าจะไม่ได้ผลเท่าที่ควร นอกจากนี้ด้วยการที่เฟลไลนี่ต้องขึ้นสูงตลอดเวลาก็ทำให้ เนมาย่า มาติชต้องเหลือคนเดียวในแดนกลางทำให้ต้องเหนื่อยในการรับมือแนวรุกของเซบีย่า เท่านั้นไม่พอ หลังจากมูรินโญ่ส่งป็อกบาลงสนามแทนเฟลไลนี่ ดุเหมือนป็อกบา จะหมดความมั่นใจอย่างมากเพราะลงมาจ่ายบอลเสียบ่อยครั้ง กลายเป็นว่ารูปเกมแย่กว่าเดิม นั่นเป็นคำถามให้กับแฟนบอลว่า สก็อต แมคโทมิเนย์ ซึ่งเล่นได้ดีในเกมแดงเดือด ทำไมเขาถึงไม่เลือกใช้?

3. หมัดเด็ด เบน เยดแดร์

   เซบีย่าเริ่มต้นเกมด้วยการใช้ หลุยส์ มูเรียล เป็นกองหน้าซึ่งดูเหมือนเขาจะใช้โอกาสสิ้นเปลืองไปหลายครั้ง จนกระทั่งเขาถูกเปลี่ยนออกและส่ง เบน เยดแดร์ ลงสนามมา ซึ่งเขาก็ใช้เวลาเพียง 87 วินาทีก็สามารถถลุงตาข่ายผ่านมือ ดาบิด เด เคอา ได้แล้วรวมถึงการยืนถูกที่ถูกตำแหน่งทำให้โหม่งลูกที่สองตามมา ฤดูกาลนี้เขายิงให้เซบีย่าไปทั้งหมด 17 ประตู บ่งบอกถึงฟอร์มร้อนแรงของเขา น่าสนใจว่าถ้าเขาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแนวรับปีศาจแดงแาจจะเหนื่อยกว่านี้แน่นอน

4.แรชฟอร์ด อยู่ผิดฝั่ง

 ในเกมแดงเดือดสัปดาห์ที่ผ่านมา แรชฟอร์ดป่วนแนวรับของหงส์แดงได้ดีเมื่อเขาเล่นอยู่ฝั่งซ้าย ซึ่งไม่ใช่แค่เกมแดงเดือดที่เล่นดี แต่ทุกเกมที่เขาเล่นฝั่งซ้ายมักจะมีผลลัพธ์ออกมาในทางที่ดี ความคล่องตัวและการยิงของเขาจะเป็นประโยชน์อย่างมากแต่ในเกมกับเซบีย่าเขากลับถูกโยกให้ไปเล่นฝั่งขวา เปิดทางให้อเล็กซิส ซานเชซ เล่นฝั่งซ้าย ซึ่งก็มีหลายจังหวะทำได้ดีแต่พอเข้าพื้นที่สุดท้าย เขากลับเปิดบอลได้ค่อนข้างแย่ แถมยังไม่ค่อยมีโอกาสจบสกอร์เท่าไหร่นัก พอเขาเริ่มโยกมาฝั่งซ้ายก้สายไปแล้วเมื่อเซบีย่าได้ประตูขึ้นนำไป มีหลายแท็กติกในคืนนี้ที่มูรินโญ่วางพลาดเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เกมรุกปีศาจแดงไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

5.ลูกากู ยังยิงต่อเนื่อง

   ในวันที่เป็นฝันร้ายของผีแดง ก็ยังมีสิ่งดีๆอยู่บ้าง โรเมลู ลูกากู ยังสามารถพิสูจน์ตัวเองได้อีกครั้งด้วยการทำประตูที่ 24 ของเขาในฤดูกาลนี้ ถ้ามองจากเกมในวันนี้ ลูกากูถือว่าไม่ได้เล่นแย่เท่าไหร่ เพราะเขาพยายามหาตำแหน่งในการยิงประตูได้หลายครั้ง ถึงแม้ว่าจะใช้โอกาสเปลืองไปบ้าง แต่เขาก็ยังทำประตูได้ต่อเนื่อง

6. ชนะนัดเดียวในรอบน็อกเอาต์

นับตั้งแต่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือจากบังเหียน เมื่อฤดูกาล 2012/13 นับตั้งแต่นั้นมาปีศาจแดง เก็บชัยชนะได้ในรอบน็อกเอาต์ได้เพียงนัดเดียวเท่านั้น

ซึ่งชัยชนะนัดเดียวที่ว่ามานั้น เกิดขึ้นในสมัยที่เดวิด มอยส์ เป็นเฮดโค้ช!

7. 60 ปีที่รอคอย

 เซบีย่า ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้เป็นครั้งแรก แต่หากย้อนกลับไปสมัยที่ยังใช้ชื่อ ยูโรเปี้ยน คัพ พวกเขาก็เคยผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีม เมื่อปี 1958

นั่นหมายความว่า นี่คือครั้งแรกในรอบ 60 ปี ที่ทีมดังจากอันดาลุเซีย ไปไกลเกินกว่ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในถ้วยใบนี้