หลังจากเป็นที่คลุมเครือกันมานานว่า ทีมชาติไทย ที่กำลังจะเข้าแคมป์ในช่วงวันที่ 28 พ.ค. - 5 มิ.ย.นี้ จะอุ่นเครื่องกับทีมใด ปรากฏว่า ในที่ประชุมใหญ่สามัญของ ส.บอล ที่ห้องประชุมบุณยะจินดา เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยืนยันว่าได้คู่แข่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"ตามแผนหลักของสมาคมฯ ต้องการพาทีมชาติไทย ไปเก็บตัวที่ยุโรป ทว่าด้วยระยะเวลาแล้วทำให้หลายสโมสรลงมติร่วมกันว่าน่าจะเข้าแคมป์ที่เมืองไทย พร้อมกับหาทีมอุ่นเครื่อง ซึ่งมี 2 ชาติที่ติดต่อเข้ามา นั่นคือ จีน ที่เป็นทีมแรกในการแสดงเจตจำนงในการลับแข้งด้วย"

"อีกทีมคือ อินเดีย แต่เรามองว่าด้วยศักยภาพและแรงกิ้งแล้ว ประกอบกับการอุ่นเครื่อง 2 นัด ในวันที่ 29 พ.ค. กับวันที่ 2 มิ.ย. ค่อนข้างกระชั้นชิดเกินไป ทำให้เลือก จีน อุ่นเครื่องในวันที่ 2 มิ.ย.ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน"

สำหรับ จีน ชุดใหญ่ มี มาร์เซโล่ ลิปปี้ กุมบังเหียนเพิ่งผ่านการอุ่นเครื่องฟีฟ่า เดย์ ในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ไป 2 แมตช์ ซึ่งพวกเขาเล่นในบ้านตัวเองกับรายการ "ไชน่า คัพ 2018" แพ้ เวลส์ 0-6 (รอบแรก) และ แพ้ สาธารณรัฐเช็ก 1-3 (รอบชิงอันดับ 3) ซึ่งผู้เล่นทรงคุณค่าในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวเป็น เอดิสัน คาวานี่ กองหน้าปารีส แซงแชร์ก แมง ของอุรุกวัย ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการตีลังกายิงลูกสุดสวยในรอบรองชนะเลิศ เอาชนะมังกรเวลส์ 1-0 พาทีมคว้าแชมป์ไปครอง

โดย มาร์เชลโล่ ลิปปี้ ถือเป็นกุนซือที่มีฝีมือและเป็นที่ยอมรับในระดับโลก หลังเคยพาทีมชาติอิตาลี คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ปี 2006 รวมทั้งมีประสบการณ์เคยคุม  ยูเวนตุส, นาโปลี และ อินเตอร์ มิลาน สามสโมสรดังในบ้านเกิดมาแล้ว โดยผลงานคุมทีมชาติจีน 16 เกมทุกรายการ ชนะ 4 เสมอ 4 แพ้ 8 นัด