PPTV HD จัดให้..."หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เตรียมจัดทัพเต็มอัตราศึกแม้นัดแรกจะเก็บชัยมาได้ก่อนโดย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พร้อมนำปิดสกอร์ เกมเยือน "หมาป่า" โรม่า ที่ขอสู้หวังทำประตูรวมพลิกแซงชัย ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2) คืนวันพุธที่ 2 พ.ค. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : PPTV HD และ beIN SPORTS 1, เวลา : 01.45 น.

ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
(รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2)
วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
อาแอส โรม่า (อิตาลี)   -   ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
(ผลนัดแรก ลิเวอร์พูล ชนะ 5-2)
ถ่ายทอดสด : PPTV HD และ beIN SPORTS 1, เวลา : 01.45 น.

สนาม : สตาดิโอ โอลิมปิโก

ยูเซบิโอ ดิ ฟรานเชสโก้ เทรนเนอร์โรม่า พาทีมบุกไปแพ้มาก่อนในนัดแรก 2-5 ทำให้มีโจทย์เดียวให้ทำเหมือนรอบที่แล้วคือชนะ 3-0 (และ 4-1) จะพลิกเข้ารอบ

สภาพทีมเกมนี้ ดิ ฟรานเชสโก้ ยังไม่มี ริค คาร์ลสดอร์ป และ เกรกอยร์ เดอแฟรล ที่บาดเจ็บ แถมล่าสุดยังต้องมาเสีย เควิน สตรอทมัน กองกลางคนสำคัญที่เดี้ยง และโอกาสลงเล่นมีน้อยมาก

ตำแหน่งของสตรอทมันน่าจะเป็น ลอเร็นโซ่ เปลเลกรินี่ ลงเล่นแทน อีกจุดที่มีปัญหาคือ ดีเอโก้ เปร็อตติ ซึ่งมีปัญหาบาดเจ็บรบกวนเช่นกัน สื่อในอิตาลีบอกว่าอาจให้ สเตฟาน เอล ชาราวี ลุยก่อน

ส่วนพวกแกนหลักที่ได้พักในเกมลีกล่าสุด ไม่ว่าจะเป็น คอสตาส มาโนลาส, อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ และ เซนกิซ อุนเดอร์ ต่างพร้อมคัมแบ็กทั้งหมด แต่ตำแหน่งของ อุนเดอร์ อาจมี พาทริค ชิค สอดแทรกเพราะนัดล่าสุดทำผลงานได้ดี

ขณะที่ เอดิน เชโก้ ซึ่งเคยยิงลิเวอร์พูลมาแล้ว 3 ประตูสมัยเล่นอยู่กับแมนฯ ซิตี้ ก็น่าจะลงเป็นตังจริงอย่างแน่นอน

ด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ลิเวอร์พูล พาทีมถล่มโรม่า 5-2 ในนัดแรก ก่อนเสมอสโต๊ค ซิตี้ 0-0 ในเกมลีกล่าสุด ทำให้ไม่แพ้มา 9 เกมแล้ว แต่ก็เจอข่าวร้ายที่เกมนี้ไม่มี เซลจ์โก้ บูวัช เพื่อนสนิทซึ่งเป็นมือขวาคนสำคัญทำหน้าที่ร่วมกันที่ข้างสนาม หลังมีข่าวลือว่าขัดแย้งกัน และบูวัชได้กลับไปที่เยอรมันแล้ว

สภาพทีมเกมนี้ คล็อปป์นำลูกทีม 23 รายเดินทางไปกรุงโรม โดยที่มีเซอร์ไพรส์หนีบเอา อดัม ลัลลาน่า ไปด้วยหลังหายเจ็บกลับมาซ้อมได้ในช่วงหลัง ส่วน ซาดิโอ มาเน่ ที่หลุดโผเกมลีกเพราะเจ็บเล็กน้อยก็ไม่พลาดขึ้นเครื่องเช่นกัน

คล็อปป์ต้องลุ้นความพร้อมของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่สภาพความฟิตไม่เต็มร้อยนัก แต่คงถูกเข็นลงสนาม ส่วนมาเน่น่าจะมีสภาพที่พร้อมจะลงเล่น

แต่พวกที่เดี้ยงอยู่ก่อนทั้ง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (เข่า), โฌแอล มาติป (ต้นขา) และ เอ็มเร่ ชาน (หลัง) ยังชวดเหมือนเดิม

ส่วนแนวรุกนั้น โม ซาลาห์ ที่เพิ่งคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของผู้สื่อข่าวจากการโหวต ก็พร้อมอย่างเต็มที่ไม่มีปัญหา

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามตัวจริง   
โรม่า (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, เฟเดริโก้ ฟาซิโอ, คอสตาส มาโนลาส, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ - ลอเร็นโซ่ เปลเลกรินี่, ดานิเอเล่ เด รอสซี่, รัดย่า นาอิงโกลัน - เซนกิซ อุนเดอร์ (พาทริค ชิค), เอดิน เชโก้, สเตฟาน เอล ชาราวี
เทรนเนอร์ : ยูเซบิโอ ดิ ฟรานเชสโก้  

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ลอริส คาริอุส - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเรน, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจมส์ มิลเนอร์ - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่ 
เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์ 

ผู้ตัดสิน : ดาเมียร์ สโคมิน่า (สโลวาเกีย)

ข้อมูลน่าสนใจ
- หงส์แดงตุนสกอร์นำจากที่แอนฟิลด์ ไปโรม 5-2 โดยพวกเขายังไม่แพ้ใครในแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้เลย
- ส่วนโรม่าก็ไม่เสียประตูใน 5 เกมเหย้าตลอดแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ ทำให้พวกเขาคิดว่าตัวเองยังมีความหวัง
- โรม่าเคยเข้าถึงรอบรองฯ มาแล้วหนึ่งครั้ง และหนนั้นชนะด้วย แต่ก็ไปแพ้ต่อ ลิเวอร์พูล ในนัดชิงชนะเลิศ ที่สนามโอลิมปิก สเตเดี้ยม บ้านตัวเอง ปี 1984
- ขณะที่ ลิเวอร์พูล นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขามาไกลขนาดนี้นับแต่ปี 2007/08
- โรม่าชนะในรอบรองฯ ครั้งเดียว คือปี 1983/84 ตอนนั้นชนะ ดันดี ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์รวมสองนัด 3-2
- โรม่าเคยชนะเข้ารอบในการเตะแบบสองนัดกับทีมอังกฤษ 3 หนแรก แต่หลังจากนั้นเจอ 6 แพ้รวด อย่างไรก็ดี ทีมจากอังกฤษเป็นเหยื่อหมาป่ามาแล้วในเกมนัดที่ 4 ปีนี้ นั่นคือ เชลซี แพ้ 0-3
- โรม่ามีสถิติในบ้านเจอกับทีมจากอังกฤษ คือ ชนะ 9, เสมอ 3, แพ้ 4 ไม่รวมนัดชิงปี 1984 ที่พ่ายต่อหงส์แดง
- จัลโล่รอสซี่ ชนะ 4 จาก 5 เกมหลังสุดในบ้านเมื่อเจอกับทีมจากพรีเมียร์ลีก โดยแพ้หนเดียว คือ 0-2 ต่อเรือใบ รอบแบ่งกลุ่ม ปี 2014/15
- โรม่าเป็นเพียงทีมเดียวที่เข้ารอบหลังจากแพ้นัดแรก โดยปีนั้นแพ้ต่อ ชัคตาห์ มา และมาชนะที่บ้าน รวมสกอร์ 2-2 เข้าอะเวย์โกล
- โรม่าชนะแค่ 6 จาก 26 เกมหลังสุดในรายการนี้ (เสมอ 8, แพ้ 12) แต่ก็ชนะ 5 จาก 10เ กมหลัง
- สถิติการดวลจุดโทษของโรม่าในถ้วยยุโรป คือ ชนะ 1, แพ้ 3 นั่นคือ ชนะ นอร์โคปิ้ง ปี 1983 แต่หลังจากนั้นอีก 3 หน แพ้รวดต่อ ลิเวอร์พูล (1984), เรอัล ซาราโกซ่า (1987) และ อาร์เซน่อล (2009)
- ลิเวอร์พูลมีสถิติใน ยูโรเปี้ยน คัพ รอบรองฯ คือ ชนะ 7, แพ้ 2 คือ แพ้ต่อ อินเตอร์ และ เชลซี ปี 1965 และ 2008 ซึ่งการแพ้รอบรองฯ ล่าสุดนั้น ถือเป็นการยุติสถิติชนะรวด 7 นัด ในรอบตัดเชือกของพวกเขาด้วย
- สถิติรวมสองนัดเตะน็อกเอาต์เจอกับทีมจากอิตาเลียนของ หงส์แดง อยู่ที่ ชนะ 4, แพ้ 2 แต่ก็ชนะสองหนหลังรวด ซึ่งล่าสุดคือ คว่ำ อินเตอร์ มิลาน รอบ 16 ทีม ปี 2008
- สถิติหงส์แดง 26 เกมยุโรปเจอกับทีมเลี่ยน ชนะ 10, เสมอ 5, แพ้ 11
- หงส์แดงแพ้แค่ครั้งเดียวจาก 7 เกมเยือนหลังสุดในการพบทีมอิตาเลียน โดยชนะ 3 หน
- ลิเวอร์พูลชนะเข้ารอบทั้ง 5 หนที่มีสกอร์ตุน 3 เม็ดก่อนที่บ้าน
- สถิติของหงส์แดงในการดวลจุดโทษถ้วยยุโรป คือ ชนะ 3, แพ้ 1 ซึ่งแพ้ครั้งเดียว คือ พ่าย เบซิคตัส ในยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีม ปี 2015 ที่เหลือ ชนะ เชลซี ปี 2007 รอบรองฯ ชปล., ชนะ มิลาน ปี 2005 รอบชิงฯ และ ชนะ โรม่า ปี 1984 รอบชิงฯ
- โม ซาลาห์ ยิงไป 22 จาก 20 เกมหลังให้หงส์แดง ตอนนี้เขายิง 31 เม็ดในลีก จาก 34 เกมซีซั่นนี้ และ 43 ลูกทุกรายการ ใกล้ทาบสถิติ เอียน รัช ตำนานสโมสรที่ทำไว้เป็นสถิติของทีม คือ 47 ลูก ปี 1983/84
- ลิเวอร์พูลไม่แพ้ใคร 15 เกมหลังสุดในแชมเปี้ยนส์ ลีก
- มีสกอร์รวมสูงกว่า 2.5 ลูกใน 8 จาก 9 เกมหลังสุดของหงส์ ในแชมเปี้ยนส์ ลีก
- หงส์ยิงอย่างน้อยสองเม็ดใน 8 จาก 9 เกมหลังสุดแชมเปี้ยนส์ ลีก
- มีสกอร์รวมสูงกว่า 2.5 ลูกใน 3 เกมหลังของโรม่า ในแชมเปี้ยนส์ ลีก