''ปราสาทสายฟ้า'' บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิด ''ช้าง อารีน่า'' บู๊ ''กิเลนผยอง'' เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เจ้าถิ่น ''โบซิดาร์ บันโดวิช'' กุนซือใหญ่อยู่ในสถานการณ์ที่กดดันสุดๆ หลังสะดุดแพ้คู่แข่ง 2 จาก 3 นัดล่าสุด ยังไม่รู้ ''รัตนากร ใหม่คามิ'' กองกลางตัวหลักจะลงเล่นได้หรือไม่  ด้านทีมเยือน ''กิเลนผยอง'' เอสซีจี เมืองทอง ประเดิมโค้ชใหม่ ''ราโดวาน เคอร์ซิช'' อดีตกุนซือทีมชาติเซอร์เบีย แต่สภาพทีมไม่สมบูรณ์ ขาด 7 แข้งหลักที่ทั้งเจ็บยาวและต้องลุ้นเช็กฟิต แนวรุกปรับใหม่ จ่อใช้ สิโรจน์ ฉัตรทอง อาศัยใหญ่ชนแดนหน้า มี เฮแบร์ตี้ แฟร์นันเดส รองดาวซัลโวดวลกับ ดีโอโก้ หลุยส์ ซานโต ผู้นำดาวซัลโวของบุรีรัมย์ เดือดแน่นอน 19.00 น.
   
การแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 2018 คู่โทนวันศุกร์ที่ 4 พ.ค.61 ''ซูเปอร์อภิมหาบิ๊กแมตช์'' ที่แฟนบอลต่างเฝ้ารอ ''ปราสาทสายฟ้า'' บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงฟอร์มสะดุดที่มี 29 แต้มจาก 13 นัด เปิดบ้านรับมือ ''กิเลนผยอง'' เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมอันดัน 5 ที่มี 21 แต้มจาก 13 นัด ฟาดแข้งที่ช้าง อารีน่า เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสด 3 ช่องทาง ทรูโฟยู, ทรูสปอร์ต 2 และ ทรูสปอร์ต เอชดี 2
   
''โบซิดาร์ บันโดวิช'' กุนซือใหญ่ ''ปราสาทสายฟ้า'' บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างกดดันหลังจากเก็บได้เพียง 3 แต้มจาก 3 นัดหลังสุด สะดุดแพ้ไป 2 นัด ทั้งการบุกพ่าย สิงห์ เชียงราย 0-1 และเกมล่าสุดที่บุกแพ้ สุโขทัย เอฟซี 0-1 โดนรองจ่าฝูงอย่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กดดันไล่หลังหายใจรดต้นคอตามหลังเหลือเพียงแค่ 2 คะแนนเท่านั้น
   
เกมนี้เจ้าถิ่นยังต้องลุ้นว่า รัตนากร ใหม่คามิ กองกลางดาวรุ่งที่เจ็บมาจากเกมเอซีแอลจะหายทันกลับมาช่วยทีมหรือไม่ ส่วนรายของ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม แบ็กขวาคืนฟิตพร้อมลุย อีกทั้งยังจะได้ ประวีณวัช บุญยงค์ กองหลังตัวหลักที่ติดโทษแบนจากเกมล่าสุดพ้นโทษกลับมาช่วยทีม ร่วมกับแกนหลักอย่าง จักรพันธ์ แก้วพรม, ยู จุน ซู, บรูโน่ เอ็ดการ์ และ ดีโอโก้ หลุยส์ ซานโต ผู้นำดาวซัลโว 12 ประตูในขณะนี้ ซึ่งบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะต้องเล่นแบบถนอมตัวด้วย เพราะมีเกมสำคัญในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2018 รอบ 16 ทีมนัดแรกที่จะเปิดบ้านรับมือ ชนบุก ฮุนได มอเตอร์ แชมป์เอเชีย 2 สมัยและแชมป์เก่าเคลีก ที่จะบุกมาเยือนในวันอังคารที่ 8 พ.ค.61 เวลา 18.00 น. ด้วย
   
11 ผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนามให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ประกอบด้วย ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู), พรรษา เหมวิบูลย์, อันเดรส ตูเญซ, ประวีณวัช บุญยงค์, กรกช วิริยะอุดมศิริ, ยู จุน-ซู, จักรพันธ์ แก้วพรม, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, สุภโชค สารชาติ, ดีโอโก้ หลุยส์ ซานโต้, ศศลักษณ์ ไหประโคน
   
ด้านทีมเยือน ''กิเลนผยอง'' เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เตรียมประเดิมโค้ชใหม่อย่าง ราโดวาน เคอร์ซิช กุนซือเซอร์เบีย ที่จะประเดิมคุมทีมเอสซีจี เมืองทอง เป็นนัดแรกยกทัพบุกถิ่นช้าง อารีน่า โดยสภาพทีมถือว่าไม่สมบูรณ์ ชวดใช้งาน 3 แข้งหลักเกมรับที่ยังบาดเจ็บ ทั้ง เซลิโอ ซานโตส ปราการหลังชาวบราซิเลียน, สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ แบ็กขวา รวมถึง นุกูลกิจ ครุฑใหญ่ เซนเตอร์ฮาล์ฟที่ปิดเทอมยาวไปแล้ว ขณะที่ 4 รายที่ยังต้องเช็กฟิต ทั้ง ประสิทธิ์ ผดุงโชค มือหนึ่ง, พัชรพล อินทนี เซนเตอร์ฮาล์ฟดาวรุ่ง รวมถึงคู่กองหน้าอย่าง ''ชาช่า'' แจ็คสัน โคเอลโญ่ และ อดิศักดิ์ ไกรษร โดยที่แกนหลักที่พร้อมลงบู๊ จะมีทั้ง นาโออากิ อาโอยามะ, สารัช อยู่เย็น, ชาริล ชัปปุยส์ แนวรุกอาจปรับหมากวางคู่หอกอย่าง สิโรจน์ ฉัตรทอง เปลี่ยนมาออกสตาร์ตเป็นตัวจริง คู่กับตัวทีเด็ดอย่าง เฮเบอร์ตี้ แฟร์นันเดส ที่ซัด 2 ประตูเกมเจ๊า ราชบุรี มิตรผล 2-2 ซึ่งขยับขึ้นมาเป็นรองดาวซัลโวที่ 9 ประตูในตอนนี้แล้ว ยิงได้เท่ากันที่ 23 ประตู
   
11 ผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนามให้ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ประกอบด้วย ประสิทธิ์ ผดุงโชค (ผู้รักษาประตู), พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, นาโออากิ อาโอยามะ, วัฒนา พลายนุ่ม, อดิศร พรหมรักษ์, ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร, สารัช อยู่เย็น, ชาริล ชัปปุยส์, สิโรจน์ ฉัตรทอง, เฮแบร์ตี้ แฟร์นันเดส, ทริสตอง โด
  
สถิติการพบกันของคู่นี้ทุกถ้วยทุกรายการ 24 เกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชนะ 8 นัด, เสมอ 10 นัด และเอสซีจี เมืองทอง ชนะ 6 นัด โดยเกมล่าสุดที่พบกัน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แพ้ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 0-2 ในเกมโตโยต้า ลีก คัพ 2017 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ก่อนที่เอสซีจี เมืองทอง จะเป็นแชมป์ในรายการนี้เมื่อปีที่ผ่านมาอีกด้วย