คุณรู้หรือไม่?รวมเกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับฟุตบอลโลก
Posted 11/06/2018 by siamsport
ในสกู๊ปนี้ทางทีมงานSiamsport รวบรวมเกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับฟุตบอลโลกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันจากบีบีซี สื่อชั้นนำจากประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นข้อมูลที่แฟนบอลทุกคนควรได้ทราบเพื่อเตรียมพร้อมก่อนศึกเวิลด์ คัพ 2018
1. ใครได้แชมป์โลกมากที่สุด?
- บราซิลคือประเทศที่คว้าแชมป์โลกได้มากที่สุด คือ 5 สมัย ซึ่งครั้งล่าสุดที่ได้คือปี 2002 แม้ฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมาพวกเขาจะได้เป็นเจ้าภาพแต่สุดท้ายต้องพ่ายให้กับเยอรมันในรอบรองชนะเลิศ 1-7
ซึ่งดูจากทำเนียบแชมป์ จะเห็นได้ว่ามีเพียงประเทศจากสองทวีปเท่านั้นที่เคยคว้าแชมป์รายการนี้คือ ยุโรป และอเมริกาใต้ โดยในสามครั้งล่าสุดชาติจากยุโรปคว้าแชมป์ได้ทั้งหมด ไล่ตั้งแต่ อิตาลี (2006), สเปน (2010) และ เยอรมัน (2014) นั่นหมายความว่าชาติจากยุโรปคว้าแชมป์ได้มากกว่าชาติจากอเมริกาใต้ ที่ 11 ต่อ 9 ครั้ง
2. ใครเป็นผู้ทำประตูสูงสุด?
- มิโรสลาฟ โคลเซ่ อดีตศูนย์หน้าอินทรีเหล็กคือผู้ที่ยิงประตูมากที่สุดตลอดกาลในศึกฟุตบอลโลก โดยทำไป 16 ประตู จากการลงเล่นในรายการนี้ 4 ครั้ง (2002,2006,2010,2014) อันดับต่อมาคือ โรนัลโด้ อดีตยอดกองหน้าแซมบ้า ที่ซัดไป 15 ประตู
ขณะที่ ชุสต์ ฟองแต็ง จากฝรั่งเศส คือผู้ที่ทำประตูได้สูงสุดได้ในครั้งเดียวโดยยิงไป 13 ประตู จากการเล่น 6 นัด เมื่อปี1958
3. แล้วผู้เล่นที่ยังเล่นอยู่ละ?
- สำหรับนักเตะที่ยิงประตูมากสุดที่ยังคงเล่นอยู่ในปัจจุบันและมีชื่อติดทีมเล่นบอลโลกครั้งนี้ คือ โธมัส มุลเลอร์ จากเยอรมันโดยยิงไป 10 ประตู
และเมื่อดูจากภาพสถิติแล้ว ราฟาเอล มาร์เกซ ที่กำลังจะเล่นเวิลด์ คัพเป็นสมัยที่ 5 คือผู้เล่นตำแหน่งกองหลังคนเดียวที่ติดชาร์จนี้โดยยิงเท่ากับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ 3 ประตู
4. บอลโลกครั้งที่ผ่านมาโอกาสยิงน้อยแต่มีประตูมากที่สุด
- ฟุตบอลโลก 2014 ครั้งที่ผ่านมา ถูกบันทึกไว้ว่ามีค่าเฉลี่ยโอกาสยิงประตูน้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 1966 ซึ่งเป็นปีแรกที่ถูกบันทึกสถิติโดยออพต้า
อย่างไรก็ดี แม้จะมีค่าเฉลี่ยโอกาสยิงน้อยที่สุดแต่มหกรรมฟุตบอลโลกที่บราซิล กลับเป็นครั้งที่มีค่าเฉลี่ยประตูเกิดขึ้นมากที่สุดที่ค่าเฉลี่ย 2.7 ประตูต่อเกม นับตั้งแต่ปี 1982 ที่ดินแดนกระทิงดุ
จากรูปเป็นการเปรียบเทียบโอกาสยิงประตูในเกมนัดชิงชนะเลิศระหว่างปี2014 และ ปี1966 ซึ่งในปี2014 ทั้งเยอรมัน-อาร์เจนติน่า สร้างโอกาสยิงรวมกันได้เพียง 20 ครั้ง จากเวลา 120 นาที ส่วนในปี1966 ทั้งอังกฤษและเยอรมันตะวันตก สร้างโอกาสยิงรวมกันถึง 77 ครั้ง
5. แข้งจากลีกอังกฤษครองเมือง?
- นับตั้งแต่คว้าแชมป์โลกเมื่อปี1966 ทีมชาติอังกฤษเพิ่งจะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นคือปี1990แต่นักเตะส่วนใหญ่ที่ไปเล่นฟุตบอลโลกมาจากลีกจากแดนผู้ดี
แม้ผู้เล่นอย่าง เลรอย ซาเน่, มาร์กอส อลอนโซ่, ดาวิด ลุยซ์ ไม่ติดทีมชาติไปบอลโลกครั้งนี้ แต่พรีเมียร์ลีกก็ยังเป็นลีกที่ส่งออกนักเตะมากที่สุดอยู่ดี
จำนวนนักเตะ 130 คนที่ลงทะเบียนในฟุตบอลโลกครั้งนี้ คือตัวเลขที่แข้งเหล่านั้นลงเล่นให้กับทีมในลีกอังกฤษ โดยมีนักเตะจากลีกสเปน 81 คน และลีกเยอรมัน 67 คน ตามลำดับ
ส่วนชาติอย่าง อุรุกวัย, ปานามา, ซาอุดีอาระเบีย และ รัสเซีย คือ 4 ประเทศที่ไม่มีนักเตะในชาติของตนเล่นอยู่ในลีกอังกฤษเลย
นอกจากนี้ ทัพสิงโตคำรามชุดนี้ เป็นทีมเดียวที่มีแต่นักเตะที่เล่นอยู่ในลีกสูงสุดของตัวเอง โดยสวีเดน และเซเนกัล คือสองชาติที่ไม่มีนักเตะจากลีกของตัวเองเลย
6. เจ้าภาพมักได้เปรียบ?
- คงไม่มีใครในประเทศบราซิลอยากจดจำนักเมื่อพวกเขาได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกสองครั้ง ซึ่งทั้งสองหนนั้นพวกเขาไม่ได้แชมป์เลยทั้งในปี 1950 ที่อุรุกวัยเป็นแชมป์ และครั้งล่าสุดที่เยอรมันคว้าแชมป์
แต่หากมองถึงความได้เปรียบการเป็นเจ้าภาพแล้วตามสถิติบอกว่าทีมเจ้าถิ่นมักจะทำผลงานได้ดีขึ้นเมื่อได้เสียงเชียร์จากคนในชาติช่วยเป็นกำลังใจ
อย่างไรก็ดี มีทีมเดียวเท่านั้นที่ได้เป็นเจ้าภาพแล้วไม่สามารถผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้ นั่นคือ ทีมชาติแอฟริกาใต้ เมื่อปี 2010 ซึ่งรัสเซีย ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่เกิดเหตุกาณ์แบบนี้ขึ้น ในครั้งนี้
จากรูปเห็นได้ว่ามีประเทศที่เป็นเจ้าภาพแล้วได้แชมป์โลกมี 6 ประเทศ คือ อุรุกวัย, อิตาลี, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อาร์เจนติน่า ส่วนบราซิล และสเปน เป็นสองประเทศที่ทำได้ดีเมื่อยามที่ตัวเองไม่ได้เป็นเจ้าภาพ
หมายเหตุ : เป็นข้อมูลจากฟีฟ่าที่นับคะแนนปกติในรอบแบ่งกลุ่ม ( 3 คะแนน, 1 คะแนน, 0 คะแนน) ส่วนในรอบน็อกเอาท์
นั้นหากช่วงเวลาปกติเสมอกันแล้วต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ก็จะนับเป็นผลเสมอของทั้งสองทีม และหากผลการแข่งขันจบลงใน
ช่วงต่อเวลาพิเศษ ก็จะนับแต้มตามปกติเหมือนในรอบแบ่งกลุ่ม
7. ทีมไหนเซียนดวลจุดโทษ?
- มีเพียงทีมชาติเยอรมันเท่านั้นที่ไม่เคยแพ้ในการดวลจุดโทษเลย ซึ่งพวกเขาเอาชนะคู่แข่งได้ทั้งหมด 4 ครั้ง ที่สำคัญทัพอินทรีเหล็กไม่พลาดลูกจุดโทษมาแล้ว 15 ลูกติดต่อกันนับตั้งแต่ปี 1982
ในทางตรงกันข้าม ทีมชาติอังกฤษมีสถิติการดวลเป้าที่ตรงข้ามกับเยอรมันอย่างสิ้นเชิง โดยสามครั้งที่ทัพทรีไลออนส์ ต้องตัดสินด้วยฎีกา พวกเขาแพ้รวดทั้งสามครั้ง ขณะที่อิตาลี ก็มีสถิติที่ไม่น่าจดใจนักเมื่อ 4 ครั้งที่ดวลจุดโทษ แพ้ไปถึง 3 ครั้ง ซึ่งครั้งเดียวที่ทัพอัซซูร์รี่ ชนะได้นั้นส่งให้พวกเขาเป็นแชมป์โลกในปี 2006 เหนือฝรั่งเศส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ก่อนลุยบอลโลก!เบลเยียมฟัดคอสตาริกาอุ่นแข้งทีมชาติ
โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือทีมชาติเบลเยียม ฟอร์มล่าสุด ชนะอียิปต์ 3-0 เป็นชัยชนะนัดที่ 3 ในรอบ 5 เกม โดยเตรียมพาทีมลงอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายก่อนลุยฟุตบอลโลก การจัดทัพน่าจะมีการสลับเอาพวกสำรองบางรายมาออกสตาร์ตบ้าง นำโดย มารูอาน เฟลไลนี่ ท้าดวล ทีมชาติคอสตาริกา ที่พร้อมลุยฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเช่นกัน ในศึกฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ คืนวันจันทร์ที่ 11 มิ.ย. นี้ เวลา : 01.45บราซิล 3-0 ออสเตรีย
เนย์มาร์ ฉลองการกลับมาเป็นตัวจริงนัดแรกให้ทีมชาติตั้งแต่เจ็บไปเมื่อเดือน ก.พ. ด้วยการโชว์ทักษะคลึงบอลขั้นเทพ หลุดเข้าไปซัดประตูย้ำชัยให้ บราซิล บุกเผาเครื่อง ออสเตรีย 3-0 ในเกมกระชับมิตรเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มิ.ย.61 ก่อนลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ รัสเซีย ต่อไป
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ห้ามทำตาม! อดีตแข้งอินเตอร์ เมาหยำเป,มีเซ็กซ์ไม่ป้องกัน
ทางการ! เอฟเอลงโทษแบนยาว เบนตานกูร์ เหยียด ซน ฮึง มิน
ดีทั้งปัจจุบันและอนาคต!เด ลา ฟวนเต้ ลั่นวงการบอล สเปน กำลังอยู่ในช่วงรุ่ง
อดเซิ้งบอลโลก 2026 ! ฟีฟ่า, ยูฟ่า มติแบน รัสเซีย ต่อไป
ผลงาน 5 ดาว!แฟน ฟิออเรนติน่า โหวต เด เคอา แข้งยอดเยี่ยมตุลาคม
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์