วันนี้มาต่อกันที่กลุ่มเอฟ ที่มีอีกหนึ่งเต็งแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งนี้รวมอยู่ด้วย ขณะที่ทีมอื่นมีชื่อชั้นและประสบการณ์โชกโชนในฟุตบอลโลกกันทั้งนั้น เชื่อว่าจะเป็นสายที่สนุกอีกสาย มาดูกันว่าทีมใดมีโอกาสเข้ารอบกันบ้าง

1.เยอรมัน

หลังจากสี่ปีที่แล้วสร้างความยิ่งใหญ่ด้วยการเป็นแชมป์เมื่อปีที่ผ่านมาฟุตบอลโลก  ฟุตบอลครั้งนี้นักเตะทั้งฟิลิปป์ ลาห์ม, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, ลูคัส โพโดลสกี้, มิโรสลาฟ โคลเซ่ และแพร์ แมร์เตซัคเกอร์ ต่างรีไทร์จากทีมชาติเป็นที่เรียบร้อย  ทีมอินทรีเหล็กก็ได้ลองทีมใหม่ๆใน คอนเฟดเดอเรชัน คัพ แถมคว้าแชมป์ได้อีกด้วย แม้ช่วงเดือนที่ผ่านมาฟอร์มอุ่นเครื่องจะย่ำแย่แพ้ไป 2 นัดและเสมออีก 1 นัด แต่ยังเชื่อว่าเมื่อทัวร์นาเมนต์จริงเริ่มขึ้น โยอาคิม เลิฟจะอาศัยประสบการณ์พาเยอรมันคว้าแชมป์กลุ่มได้แน่นอน

โอกาสเข้ารอบ : 80%

คีย์แมน : โทนี่ โครส ผู้พาเรอัล มาดริดคว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกได้ในฤดูกาลนี้ ส่วนแนวรุกเตรียมฝากความหวังไว้กับ ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าจากไลป์ซิก ยิง 7 ประตูจากการลงเล่น 10 นัดใมนทีมชาติ
 
2.เม็กซิโก

แม้จะยังไม่เคยประสบความสำเร็จในฟุตบอลโลกแต่พวกเขาก็เป็นเจ้าแห่งโซนคอนคาเคฟอยู่ตลอด เม็กซิโกผ่านเข้ามาบอลโลกรอบสุดท้ายด้วยการเป็นแชมป์ในโซนคอนคาเคฟ โดยในรอบคัดเลือกรอบสุดท้าย พวกเขาแพ้แค่เกมเดียวจาก 10 นัด ทำแต้มได้ถึง 21 แต้ม ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอาจจะอยู่ในสายเดียวกับเต็งแชมป์อย่างเยอรมัน แต่พวกเขาถูกยกให้เป็นเต็งสองของสาย เชื่อว่าพวกเขาใช้ความเด็ดขาดคว้าอันดับ 2 มาได้

โอกาสเข้ารอบ : 60%

คีย์แมน :  ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ กองหน้าเวสต์แฮม ยูไนเต็ด เป็นดาวซัลโวตลอดกาลของเม็กซิโก ด้วยการยิง 49 ประตู ในการเล่น 100 นัด และต้องการอีกสองประตูในฟุตบอลโลกหนนี้เพื่อเป็นผู้เล่นเม็กซิกันที่ยิงในบอลโลกมากที่สุด

3.สวีเดน

 พวกเขาคือเหตุผลว่าทำไมอิตาลีตกขบวนรถไฟฟุตบอลโลกในครั้งนี้ สวีเดนเข้ามาฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายด้วยการเป็นที่สองในรอบคัดเลือกก่อนจะมาปราบอัซซูรี่ในรอบเพลย์ออฟ ซึ่งเป็นการเข้ามาฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2006 แต่คราวนี้ แยนน์ แอนเดอร์สสัน เทรนเนอร์ของทีมเลือกที่จะทิ้งซลาตัน อิบราฮิโมวิช ไม่หนีบไปบอลโลกเนื่องจากไม่มีส่วนร่วมในรอบคัดเลือก การจับมาอยู่สายนี้อาจจะทำให้ลุ้นที่หนึ่งยากไป แต่เชื่อว่าอันดับสองยังพอลุ้นกับเม็กซิโกได้อยู่
 
โอกาสเข้ารอบ :  40%

คีย์แมน : วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ปราการหลังจากแมนฯยูไนเต็ดที่เล่นในทีมชาติได้เป็นอย่างดี ทำให้ทีมเสียแค่ 9 ประตูในรอบคัดเลือก ขณะที่แนวรุก เอมิล ฟรอซเบิร์ก มิดฟิลด์จากไลป์ซิก เป็นคนที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง

4.เกาหลีใต้

 “โสมขาว” จบอันดับในรอบคัดเลือกตามหลังทีมชาติอิหร่าน แม้ปีนี้ฟอร์มอาจจะกระท่อนกระแท่นแต่พวกเขาก็ยังผ่านเข้ามาฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้เหมือนเดิม นักเตะที่ค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก คี ซุง-ยองและ ซน ฮึง-มิน ยังน่าจับตามองเสมอ แต่เมื่อเข้ามารอบสุดท้ายกลับมาเจอสายที่ค่อนข้างเคี่ยว เพราะอกีสามทีมค่อนข้างมีประสิทธิภาพมากกว่า จึงถูกองว่าเป็นเต็งบ๊วยของกลุ่ม

โอกาสเข้ารอบ :  30%

คีย์แมน : ซน ฮึง-มิน แนวรุกสุดจี๊ดจากสเปอร์ส เป็นนักเตะเอเชียที่ยิงในพรีเมียร์ลีกเยอะที่สุด