"ฝอยทอง" โปรตุเกส ขอเพียงผลเสมอก็จะการันตีเข้ารอบทันทีโดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ พร้อมลงยิงต่อ เกมพบ อิหร่าน ที่ผลชัยเท่านั้นจะส่งพวกเข้าเข้ารอบต่อไป ในศึกฟุตบอลโลก 2018 (รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี นัดสุดท้าย) คืนวันจันทร์ที่ 25 มิ.ย. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : TrueSport HD2 และ True4U, เวลา : 01.00 น.
ปรีวิวฟุตบอลโลก 2018
(รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี นัดสุดท้าย)
วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน 2561
อิหร่าน (3)   -   โปรตุเกส (2)
ถ่ายทอดสด : TrueSport HD2 และ True4U, เวลา : 01.00 น.

สนาม : มอร์โดเวีย อารีน่า (ซารานส์ค)
    อิหร่านของ คาร์ลอส เคยรอช ปราชัยต่อสเปนแบบหวุดหวิด 0-1 เก็บไปแล้ว 3 แต้มจาก 2 นัด

    เงื่อนไขในการที่จะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายคือพวกเขาต้องชนะสถานเดียวเพราะตามหลัง สเปนกับโปรตุเกส 1 แต้ม ถ้าทำสำเร็จจะเป็นการผ่านเข้าไปเล่นในรอบน็อกเอาต์ฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

    ความพร้อมล่าสุด ''สิงโตเปอร์เซีย'' น่าจะไม่มี เอห์ซาน ฮาจีซาฟี่ ที่เจ็บจนโดนถอดออกในเกมล่าสุด โดย มิลาด โมฮัมมาดี้ เตรียมเสียบแทนในตำแหน่งแบ็กซ้าย

    ส่วน รูซเบห์ เชช์มี่ ที่เจ็บกล้ามเนื้อระหว่างซ้อมวืดลงเล่นตั้งแต่เกมก่อนหน้านี้เรียบร้อยแล้ว

    อาลีเรซ่า เบรานวานด์ รับหน้าที่ผู้รักษาประตูตามปกติ แนวรับวางใจ มายิด ฮอสเซนี่ ยืนเซนเตอร์แบ็กคู่กับ มอร์เตซา ปูราลิกานจี แบ็กขวายังเป็น รามิน เรซาเยียน ส่วนฝั่งซ้ายเลือก มิลาด โมฮัมมาดี้

    แดนกลางวาง เซเอด เอซาโตลาฮี กลับมาผนึกกำลังกับ โอมิด อิบราฮิมี่ และ วาฮิด อามิรี่ เกมรุกริมเส้นน่าจะจัด เมห์ดี้ ตาเรมี่ กับ คาริม อันซาริฟาร์ด ต่อไป โดย อาลีเรซ่า จาฮานบัคช์ พร้อมเบียดตัวจริง ขณะที่ ซาร์ดาร์ อัซมูน ค้ำหน้าเป้าตามเดิม

    โปรตุเกสของ แฟร์นานโด ซานโตส เฉือนชนะโมร็อกโก 1-0 เก็บ 4 แต้มจาก 2 นัด เท่าสเปน แต่รั้งอันดับ 2 เพราะสถิติทุกอย่างเท่ากันหมด เป็นรองเรื่องสถิติแฟร์เพลย์จากการโดน 2 ใบเหลือง ส่วน ''กระทิงดุ'' โดนใบเดียว

    ''ฝอยทอง'' ต้องการอย่างน้อย 1 แต้มเพื่อการันตีตั๋วสู่รอบต่อไป และถ้าผลการแข่งขันดีกว่า สเปน พวกเขาจะคว้าแชมป์กลุ่ม

    สภาพทีมล่าสุด ชูเอา มูตินโญ่ กลับมาซ้อมตามปกติแล้วหลังป่วยจนไม่ได้ซ้อมตลอด 2 วันก่อนหน้านี้ น่าจะพร้อมประจำการตามปกติ

    นอกจากนี้ ราฟาแอล เกร์เรยโร่ ที่เจ็บกล้ามเนื้อติดตัวจากเกมล่าสุดกลับมาซ้อมแล้วเช่นกัน

    รุย ปาตริซิโอ เฝ้าเสาต่อไป แนวรับจากขวาไปซ้ายเป็น เซดริก โซอาเรส, เปเป้, โชเซ่ ฟอนเต้ และ ราฟาแอล เกร์เรยโร่

    แดนกลางวางใจ ชูเอา มูตินโญ่ กับ วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ เกมรุกริมเส้นฝาก แบร์นาร์โด้ ซิลวา กับ ชูเอา มาริโอ คู่หน้าเลือก กอนซาโล่ เกเดส จับคู่กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ต่อไป โดย อันเดร ซิลวา ลุ้นเบียดเป็นตัวจริง

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
    อิหร่าน (4-1-4-1) : อาลีเรซ่า เบรานวานด์ - รามิน เรซาเยียน, มอร์เตซ่า ปูราลิกานจี, มายิด ฮอสเซนี่, มิลาด โมฮัมมาดี้- เมห์ดี้ ตาเรมี่, โอมิด อิบราฮิมี่, เซเอด เอซาโตลาฮี, วาฮิด อามิรี่, คาริม อันซาริฟาร์ด - ซาร์ดาร์ อัซมูน

    โปรตุเกส (4-4-2) : รุย ปาตริซิโอ - เซดริก โซอาเรส, เปเป้, โชเซ่ ฟอนเต้, ราฟาแอล เกร์เรยโร่ - แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ชูเอา มูตินโญ่, วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่, ชูเอา มาริโอ - กอนซาโล่ เกเดส, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ข้อมูลน่าสนใจ
- คู่นี้เจอกันหนเดียวในบอลโลก 2016 ที่เยอรมัน แข้งฝอยทองเชือด 2-0 เมื่อ 17 มิ.ย. จาก เดโก้ และจุดโทษของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งเป็นลูกแรกสุดในเวิลด์ คัพ รอบสุดท้ายของเจ้าตัวด้วย
- อิหร่านกำลังลุ้นเข้ารอบน็อกเอาต์ฟุตบอลโลกครั้งแรกสุดในประวัติศาสตร์ หลังตกรอบแบ่งกลุ่มตลอด 4 หนก่อนหน้า ทั้ง 1978 ที่อาร์เจนตินา, 1998 ที่ฝรั่งเศส, 2006 ที่เยอรมัน และ 2014 ที่บราซิล
- อิหร่านเพิ่งแพ้หนแรกรอบ 20 เกมบอลโลกหลัง (รวมรอบคัดเลือก) หลังเสียท่าสเปน 0-1 ในเกมล่าสุด ตั้งแต่แพ้บอสเนียฯ 1-3 ในรอบแรกเวิลด์ คัพ 2014 เมื่อ 25 มิ.ย. 4 ปีก่อน (ชนะ 13 เสมอ 6)
- โปรตุเกสไร้พ่ายตลอด 5 เกมหลังรวมทุกรายการ (ชนะ 2 เสมอ 3) ตั้งแต่แพ้ฮอลแลนด์ 0-3 ในเกมอุ่นแข้ง เมื่อ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา
- นับเฉพาะเกมทางการโปรตุเกสไร้พ่ายตลอด 16 เกมหลังสุด (ชนะ 12 ชนะต่อเวลา 1 เสมอ 3) ตั้งแต่บุกแพ้สวิตเซอร์แลนด์ 0-2 ในบอลโลกรอบคัดเลือก เมื่อ 7 ก.ย. 2016