ไม่มีพลิก! บราซิลตบเซอร์เบียร่วง คว้าแชมป์กลุ่มลิ่ว16ทีมชนเม็กซิโก
Posted 28/06/2018 by siamsport
บราซิล แชมป์โลก 5 สมัย ทะลุผ่านเข้าไปเล่นในรอบน็อคเอาท์ได้ตามคาด หลังไล่บดเอาชนะ เซอร์เบีย ไปอย่างสนุก 2-0 เปาลินโญ่ และติอาโก้ ซิลวา ช่วยกันยิง คว้าแชมป์กลุ่ม อี ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปพบ เม็กซิโก รองแชมป์กลุ่ม เอฟ ในเกมฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่ประเทศรัสเซีย เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
ฟุตบอลโลก 2018
(รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี นัดสุดท้าย)
วันพุธที่ 27 มิถุนายน 2561
เซอร์เบีย 0 บราซิล 2
สนาม : ออตครีทีฟ อารีน่า, มอสโก, ประเทศรัสเซีย
ตีเต้ จัดทรงทีมชุดเด็ดนำ เนย์มาร์ กับ กาเบรียล เชซุส ในแดนหน้า และมี ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ คอยปั้นเกมแดนกลาง ขณะที่ เซอร์เบีย ซึ่งต้องการชัยชนะเพื่อโอกาสผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ นำทัพโดย อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ ยอดกัปตันทีมจอมปั่นฟรี
คิก
บราซิล เป็นฝ่ายเริ่มเกมและเป็นไปตามคาดเมื่อพวกเขาครองเกมอย่างต่อเนื่อง โดย น. 2 เนย์มาร์ สร้างโอกาสให้กับทัพ "แซมบ้า" ครั้งแรกด้วยการลากเลื้อยบริเวณกรอบเขตโทษ ก่อนส่งให้ คูตินโญ่ ซัดเต็มข้อแต่บอลไปติด เชซุส
"เซเลเซา" ยังคงเดินเครื่องลีลาแซมบ้าอย่างต่อเนื่องและมีโอกาสทองฝังเพชรเมื่อ เชซุส หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดวลเดี่ยวกับ วลาดิเมียร์ สตอยโควิช แต่ นายด่านเซอร์เบีย บล็อกเอาไว้ได้ และบอลกระดอนเข้าทาง คูตินโญ่ ที่ซัดเต็มข้อแต่บอลได้ไปโดน เนย์มาร์ ในระยะ 2 หลาออกหน้าตาเฉย
น.10 เนย์มาร์ มีโอกาสโชว์ลีลาลากเลื้อยอีกครั้ง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ และ บราซิล ต้องมีการเปลี่ยนแผนแบบปัจจุบันทันด่วนเมื่อ มาร์เซโล่ มีอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ได้ และต้องส่ง เฟลิเป้ หลุยส์ ลงมาแทน อีกสองนาทีต่อมา เซอร์เบีย ได้ฟรีคิกและ โคลารอฟ เปิดบอลยาวเข้ามาในเขตโทษ แต่ อลิสซอน รู้ทันออกมาชกบอลออกข้างไปก่อน
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาทองของ เซอร์เบีย โดย น. 14 ฟิลิป คอสติช มีโอกาสซัดไกลบอลแฉแนวรับบราซิล ทำให้ทีมได้ลูกเตะมุม จากนั้น น. 16 วิลเลี่ยม ได้บอลจากจังหวะสวนกลับเร็ว แต่น่าเสียดายที่เปิดบอลแรงออกหลังไปไกลสุดกู่ ช่วงนี้ บราซิล พยายามต่อบอลไปเรื่อยๆ เพื่อหาช่องจนกระทั่ง น. 18 "คูตี้" ได้จังหวะชิพบอลให้ เปาลินโญ่ ที่หลุดกับดักล้ำหน้า แต่น่าเสียดายที่วิ่งไม่ทันและบอลเข้ามือ สตอยโควิช แบบสบายๆ
เซอร์เบีย พยายามต่อบอลสั้นเพื่อสู้กับ บราซิล และ น. 21 จากจังหวะการประสานงานอย่างสุดยอดทำให้ คอสติช หลุดทางฝั่งซ้ายแต่โดนฟ้ากเนอร์ เข้ามาสกัดได้ทัน จากจังหวะเตะมุม อลิสซอน โชว์ความแม่นยำในการชกบอลแต่บอลยังคงชุลมุนอยู่หน้าเขตโทษ บราซิล และสุดท้าย เชซุส จัดการเตะทิ้งออกไป
น. 25 บราซิล มีโอกาสทำประตูนำเมื่อ เชซุส ส่งบอล เนย์มาร์ หลุดเข้าไปยิงทางฝั่งซ้ายในระยะ 6 หลา แต่ สตอยโควิช โชว์ซูเปอร์เซฟปัดบอลออกไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เข้าสู่ น. 29 หัวหอกปารีส แซงต์-แชร์กแมง โชว์ทักษะการผ่านบอลสุดยอดให้ เชซุส เลี้ยงหลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่เจ้าตัวดันมัวแต่ล็อกบอลทำให้โดนแนวรับเซิร์บบล็อกได้
จากนั้นใน น. 33 แฟนบอลชาวบราซเลียนถึงกับร้องดังลั่นสนั่นโลก หลัง เนย์มาร์ โดน อเด็ม ลายิช เสียบอย่างรุนแรงจนล้มกลิ้งนอนหมุนหลายตลบ และ ลายิช ก็โดนใบเหลืองไปโดยปริยาย อีกนาทีต่อมา เซอร์เบีย มีลุ้นเหมือนกันเมื่อ ดูซาน ทาดิช โยนบอลเข้ามาที่บริเวณจุดโทษและ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช พยายามโอเวอร์เฮดคิก แต่บอลติดตัวไปหน่อยทำให้ยิงออกแบบไม่มีลุ้น
ในที่สุดความพยายามของ บราซิล ก็สำเร็จ ใน น. 36 เมื่อ คูตินโญ่ แสดงให้เห็นถึงการเป็นสุดยอดแอสซิสต์เมื่อโยนบอลข้ามแผงหลัง เซอร์เบีย และ เปาลินโญ่ วิ่งมาตามนัดก่อนจะกระดกบอลข้ามตัว สตอยโควิช ส่งให้ทีมขึ้นนำ 1-0
แม้จะโดนนำแต่ เซอร์เบีย ยังไม่ยอมแพ้พยายามเดินเครื่องหวังทำประตูตีเสมอให้ได้ แต่ยังไม่สามารถเจาะแนวรับแซมบ้าได้ และการรีบเร่งเล่นอย่างลนลานทำให้ทีมเสียบอลไปอย่างน่าเสียดาย เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 2 นาที บราซิล ยังขู่ด้วยการเล่นสวนกลับ และ ใน น.45+1 เนย์มาร์ ประสานงานกับ เฟลิเป้ หลุยส์ ก่อนที่ ดาวยิงค่าตัวแพงสุดในโลก จะบรรจงปั้นบอลงามหยด แต่น่าเสียดายที่บอลเลี้ยวไม่พอทำให้ออกข้างไป จากนั้นผู้ตัดสินเปาหมดครึ่งแรกไป
เข้าสู่ครึ่งหลัง ยังคงเป็น บราซิล ที่ได้ครองบอลและหวังทำประตูปิดบัญชีให้เร็วที่สุด น. 49 เนมานย่า มาติช โดนใบเหลืองหลังเสียบหนักใส่ เชซุส จนล้มหน้าคะมำ เข้าสู่ น. 51 วิลเลี่ยมได้บอลทางริมเส้นฝั่งขวา และเปิดบอลแรงเข้ากลาง แต่โดนแนวรับ เซอร์เบีย เคลียร์ทิ้งไปได้อย่างหวุดหวิด
น. 53 ลายิช ลากบอกเข้าไปในพื้นที่อันตรายของ บราซิล ก่อนส่งให้ ทาดิช วิ่งทะลุเข้าเขตโทษและตบบอลกลับมาแต่ดันย้อนหลัง ลายิช ไปอย่างน่าเสียดายทำให้พลาดโอกาสยิงประตู ผ่านมาสู่ น. 57 ลายิช มีโอกาสเปิดบอลเข้ามาให้เขตโทษ และ ชูเอา มิรันด้า สกัดผิดเหลี่ยมบอลเกือบเข้าประตูตัวเอง จากนั้นกี่ไม่กี่วินาที บราซิล โชว์การประสานงานก่อนจะส่งบอลให้ เนย์มาร์ หลุดเข้าไปซัดไม่ถึง 6 หลาแต่ติดตัว สตอยโควิช ออกหลังไป
น. 61 อันโตนิโอ รูคาวิน่า เปิดบอลเข้ามาในเขตโทษ อลิสซอน ปัดไม่ดีทำให้ มิโตรวิช ได้โหม่งโล่งระยะ 7 หลาแต่บอลไปโดนกองหลังบราซิล และบอลเข้าซอง อลิสซอน หลังจากนั้น เซอร์เบีย มีช่วงเวลาทองได้บุกเข้าไปป่วนเปี้ยนในเขตโทษ โดยทาดิช ส่งบอลให้ เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช ที่อยู่ในตำแหน่งพร้อมยิงประตูแต่ดันยิงพลาดไป
แข้งเซิร์บมีโอกาสอีกครั้ง ในน. 65 เมื่อ รูคาวิน่า เปิดบอลราวแม่นยำราวกับชั่งน้ำหนักมาเมื่อเช้าเข้าหัว มิโตรวิช แต่ครั้งนี้ อลิสซอน ไม่พลาดรับเข้าซองไม่มีกระฉอก อีกสามนาทีต่อมา บราซิล ซัดประตูขึ้นนำ 2-0 จากจังหวะเปิดมุมของ เนย์มาร์ และ ติอาโก้ ซิลวา กระโดดแซงหน้า นิโคล่า มิเลนโควิช โหม่งเต็มศีรษะบอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างงดงาม
บราซิล ยังไม่หยุดแค่นั้น น. 70 เนย์มาร์ ลากบอลไปถึงเส้นหลังก่อนตบให้ คูตินโญ่ ที่ซัดบอลไม่ถนัดทำให้บอลออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย จากนั้น อีกนาทีต่อมา เฟลิเป้ หลุยส์ ซึ่งเล่นดีมากๆ มีโอกาสเติมเกมและได้ส่องไกลระยะ 30 หลา บอลพุ่งแหวกอากาศราวกับจรวดไปทางมุมล่างซ้าย แต่ สตอยโควิช ยังว่องไวพุ่งปัดออกไปได้
ตอนนี้ได้เวลาโชว์ลีลาแซมบ้า เมื่อ บราซิล เคาะบอลไปมาตามสไตล์ทีมที่ได้เปรียบ และค่อยๆ เสาะหาช่องว่างเพื่อทำประตูเพิ่ม เวลาผ่านเข้าไปสู่ น. 77 ทัพ "เซเลเซา" โชว์ให้เห็นว่าเหนือชั้นกว่าเมื่อครองบอลได้กว่า 2-3 นาทีโดยที่ เซอร์เบีย ไม่ได้สัมผัสบอลเลย
เซอร์เบีย ไม่ยอมแพ้ยังพยายามเจาะตาข่ายให้ได้ โดย น. 79 อันดริยา ซิฟโควิช เปิดบอลให้ มาติช มีโอกาสจับบอลในเขตโทษและหมุนตัวก่อนซัดบอลลอยละลิ่วปลิวไสวข้ามคาน จากนั้นใน น. 83 จากจังหวะโยนยาวอย่างแม่นยำกว่าครึ่งสนามให้ วิลเลี่ยม ที่จับบอลนิ่งเชื่องเท้าก่อนเปิดเข้ามาในเขตโทษ ให้ เนย์มาร์ ที่ซัดโล่งๆ แต่คานข้ามไป
น. 86 บราซิล มีโอกาสอีกครั้งเมื่อ แฟร์นานดินโญ่ ชิพบอลเข้าไปในเขตโทษ เนย์มาร์ วิ่งสอดมาตามนัดและกระดกบอลอย่างเหนือชั้นแต่ สตอยโควิช มือไวทายาดปัดได้อย่างหวุดหวิด น. 89 เนย์มาร์ มีโอกาสอีกครั้งแต่เจ้าตัวพยายามจะทำประตูด้วยตัวเองสุดท้ายก็โดนสกัดทิ้งไป
ตอนนี้เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ 3 นาที เนย์มาร์ เกือบบวกประตูเพิ่มเมื่อได้จังหวะหลุดจากการส่งบอลของ เชซุส และ ดาวเตะจอมลีลา พยายามที่จะกระชากบอลหนี สตอยโควิช แต่สุดท้ายก็ยิงไปติดตัว หลังจากนั้น อาลีเรซ่า ฟากาห์นี่ ท่านเปาชาวอิหร่านก็เป่านกหวีดยาวจบเกมเรียบร้อย บราซิล ชนะ เซอร์เบีย 2-0 เก็บสามแต้มสำคัญ มีทั้งหมด 7 คะแนนจากสามนัด ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการเป็นทีมอันดับหนึ่งของกลุ่ม อี จะเข้าไปพบกับ เม็กซิโก ที่สนามซามาร่า อารีน่า เมืองซามาร่า ในวันจันทร์ที่ 2กรกฏาคม นี้
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เซอร์เบีย: วลาดิเมียร์ สตอยโควิช - อันโตนิโอ รูคาวิน่า, นิโคล่า มิเลนโควิช, มิลอส เวลจ์โควิช, อเล็คซานดาร์ โคลารอฟ (กัปตันทีม) - เนมานย่า มาติช, เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช - ดูซาน ทาดิช, อาเด็ม ลายิช (อันดริย่า ซิพโควิช น.75), ฟิลิป คอสติช
(เนมานย่า ราดอนยิช น.82) - อเล็คซานดาร์ มิโตรวิช
บราซิล: อาลีสซง - ฟ้ากเนอร์, ติอาโก้ ซิลวา, ชูเอา มีรันด้า (กัปตันทีม), มาร์เชโล่ วิเอยร่า (ฟีลีเป้ ลุยส์ กาสมีร์กี้ น.10) - เปาลินโญ่ (แฟร์นานดินโญ่ น.66), คาเซมีโร่ - วิลเลี่ยน, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (เรนาโต้ ออกุสโต้ น.80), เนย์มาร์ - กาเบรียล เชซุส
ผู้ตัดสิน: อาลีเรซ่า ฟากาห์นี่ (อิหร่าน)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
เกาหลีใต้ 2-0 เยอรมัน
เกาหลีใต้ 2-0 เยอรมันเม็กซิโก 0-3 สวีเดน
เม็กซิโก 0-3 สวีเดน
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์