หลังจากที่ทีมแชมป์เก่าอย่าง เยอรมัน เพิ่งพลาดท่าตกรอบแบ่งกลุ่มในศึก ฟุตบอลโลก 2018 ด้วยการพ่ายแพ้ต่อ เกาหลีใต้ ไปด้วยสกอร์ 0 ประตูต่อ 2 ทำให้จบอันดับสุดท้ายของกลุ่มเอฟ อดเข้าไปป้องกันแชมป์ชนิดช็อคแฟนบอลทั่วทุกมุมโลก

โดยวันนี้เรามาดูกันว่าในอดีตเคยมีทีมใดคว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก แล้วมาตกรอบแบ่งกลุ่มใน 4 ปีถัดมา เหมือนกับที่ เยอรมัน กำลังประสบพบเจออยู่ในเวลานี้กันบ้าง

ทีมชาติอิตาลี (แชมป์โลกปี1938 / ตกรอบแบ่งกลุ่มปี1950)

– เป็นทีมแรกที่ประเดิมสถิตินี้ เมื่อพลพรรค “อัซซูร์รี่” คว้าแชมป์โลกในปี 1938 แต่ด้วยปัญหาสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ต้องพักการแข่งขันไปนานถึง 12 ปี และกลับมาแข่งขันกันอีกครั้งในปี 1950 (เจ้าภาพ บราซิล) พวกเขากลับร่วงเพียงแค่รอบแบ่งกลุ่ม เนื่องจากสตาร์ดังที่พาทีมคว้าแชมป์โลกครั้งก่อน ต่างพากันแขวนสตั๊ดไปหมดแล้ว

ทีมชาติบราซิล (แชมป์โลกปี1962 / ตกรอบแบ่งกลุ่มปี1966)

– แม้กระทั่ง “แซมบ้า” ในยุคที่มีราชาลูกหนังอย่าง “ไข่มุกดำ” เปเล่ ก็เคยอกหักตกรอบแบ่งกลุ่มในฐานะแชมป์เก่ามาแล้ว หลังจากที่ปี 1962 เอาชนะ เช็คโกสโลวาเกีย ในรอบชิงชนะเลิศ 3-1 แต่ในอีก 4 ปีถัดมา (เจ้าภาพอังกฤษ) บราซิล ทำได้เพียงจอดป้ายในรอบแบ่งกลุ่ม ชนะ 1 นัดซึ่งเป็นเกมประเดิมสนามกับ บัลแกเรีย จากนั้นแพ้ ฮังการี,โปรตุเกส กระเด็นตกรอบไปแบบสุดช็อค

ทีมชาติฝรั่งเศส (แชมป์โลกปี1998 / ตกรอบแบ่งกลุ่มปี2002)

– หลังจากที่ “ตราไก่” ฉลองแชมป์ฟุตบอลโลกที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพในปี 1998 เอาชนะ บราซิล 3-0 แต่อีก 4 ปีให้หลัง (เกาหลีใต้,ญี่ปุ่น ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ) พวกเขากลับทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง ทั้งที่ได้อยู่ในสายที่ไม่แข็งมากหนัก มีทีมอย่าง เดนมาร์ก, เซเนกัล, อุรุกวัย แต่สุดท้าย ฝรั่งเศส กลับยิงไม่ได้แม้แต่ประตูเดียว พร้อมกับตกรอบในฐานะบ๊วยของกลุ่ม เก็บได้เพียง 1 คะแนนจากผลเสมอ อุรุกวัย 0-0

ทีมชาติอิตาลี (แชมป์โลกปี2006 / ตกรอบแบ่งกลุ่มปี2010)

– อิตาลี ถือเป็นทีมแรกทีมตกรอบแบ่งกลุ่ม ในฐานะแชมป์เก่า 2 ครั้ง โดยคราวนี้ได้แชมป์ในปี 2006 จากการดวลเป้าชนะจุดโทษ ฝรั่งเศส 5-3 (เสมอกันในเวลา 1-1) และมาตกรอบแบ่งกลุ่มในปี 2010 ที่ แอฟริกาใต้ เป็นเจ้าภาพ ซึ่งตอนนั้น “อัซซูร์รี่” อยู่สายเดียวกันกับ ปารากวัย, สโลวาเกีย, นิวซีแลนด์ ก่อนจะจบรอบแบ่งกลุ่มไปด้วยผลงาน เสมอ2 แพ้1 จบอันดับบ๊วยของตาราง

ทีมชาติสเปน (แชมป์โลกปี2010 / ตกรอบแบ่งกลุ่มปี2014)

– หลังจากที่ขุนพล “กระทิงดุ” ผงาดคว้าแชมป์โลกได้ที่ผืนแผ่นดิน แอฟริกาใต้ (เอาชนะ ฮอลแลนด์ ในรอบชิงชนะเลิศ 1-0 ช่วงต่อเวลาพิเศษ) แต่ใครจะเชื่อว่าอีก 4 ปีให้หลัง สเปน กลับมาจอดป้ายเพียงแค่รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อต้องมาอยู่ในสายเดียวกันกับ ฮอลแลนด์, ชิลี, ออสเตรเลีย และนัดแรกก็โดน “อัศวินสีส้ม” ถอนแค้นไปถึง 5-1 หลังจากนั้นมาโดน ชิลี เขี่ยตกรอบตั้งแต่เกมที่สองเมื่อแพ้ไปอีก 2-0 ส่งผลให้นัดสุดท้าย สเปน ทำได้เพียงระบายความแค้นใส่ ออสเตรเลีย เอาชนะไป 3-0 คว้า 3 แต้มเป็นของปลอบใจเท่านั้น

ทีมชาติเยอรมัน (แชมป์โลกปี2014 / ตกรอบแบ่งกลุ่มปี2018)

– “อินทรีเหล็ก” เดินทางมาลุยบอลโลกที่ รัสเซีย หนนี้ในฐานะ เต็งแชมป์ แต่กลับประเดิมสนามนัดแรกด้วยการโดน เม็กซิโก เชือดไป 1-0 จากนั้นเกมที่สองพลิกกลับมาชนะ สวีเดน 2-1 ได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากลูกฟรีคิกผีจับยัดของ โทนี่ โครส แต่เกมสุดท้ายดันมาแพ้ เกาหลีใต้ 0-2 จบอันดับบ๊วยกลุ่ม ส่งผลให้ เยอรมัน เป็นทีมแชมป์เก่าที่ตกรอบแบ่งกลุ่มเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันในศึก ฟุตบอลโลก