แม้สิงโตคำรามจะผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปได้ด้วยฟอร์มอันสุดหรู แต่มีนักเตะคนหนึ่งที่ถูกแฟนๆวิจารณ์ฟอร์มการเล่นอย่างหนัก นั่นคือ "ราฮีม สเตอร์ลิ่ง" มีกระแสเรียกร้องให้เขาถูกดรอปในนัดต่อไป อย่างไรก็ตามมันมีเหตุผลสำคัญที่เขาจะไม่มีวันถูกดรอปเป็นตัวสำรอง เรามาดูกันว่าทำไมเขาได้รับความไว้วางใจจาก แกเร็ธ เซาธ์เกต
สเตอร์ลิ่ง กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้

    แนวรุกวัย 23 ปี ภายใต้แผนการของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มักออกสตาร์ทตัวจริงในตำแหน่งตัวรุกฝั่งซ้ายหรือฝั่งขวา โดยในฤดูกาลนี้เขาทำได้มากถึง 18 ประตูและ 11 แอสซิสต์ จากการออกสตาร์ทตัวจริงทั้งหมด 29 นัด เขาจะใช้ความเร็วและความคล่องตัวโจมตีจากด้านข้าง และมักจะหาตำแหน่งในกรอบเขตโทษเพื่อทำประตู

สเตอร์ลิ่ง กับทีมชาติอังกฤษ

    การทำประตูของเขาในทีมชาติค่อนข้างแย่ เขารับใช้อังกฤษมาทั้งหมด 41 นัดเพิ่งจะยิงได้แค่ 2 ประตู ประตูสุดท้ายที่เขาทำได้ต้องย้อนกลับไปในนเดือนตุลาคมเมื่อ 3 ปีที่แล้ว แต่ทว่าเมื่อมองจากแผน 3-5-2 ที่เขาถูกจับไปเล่นหน้าคู่กับ แฮร์รี่ เคน แล้ว เขาถือว่าเป็นหัวใจในแนวรุกก็ว่าได้

    สเตอร์ลิ่ง มีหน้าที่สร้างเกมรุก และสร้างพื้นที่ให้ผู้เล่นอังกฤษคนอื่นสอดขึ้นไปทำประตู บางครั้งเขาจะลงไปล้วงบอลจากคู่เซนเตอร์ เพื่อดึงตัวประกบที่เป็นผู้เล่นมิดฟิลด์ของคู่แข่งให้ตามเขาขึ้นมา ทำให้คู่แข่งทิ้งพื้นที่แดนกลางและแดนหลังมากขึ้น ระหว่างนั้นเจสซี่ ลินการ์ดหรือ เดเล่ อัลลี่ ก็จะดันตัวเองขึ้นไปในพื้นที่นั้น หรือไม่ก็เพื่อให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน มีพื้นที่ในการจ่ายบอลแดนกลางมากขึ้น หรือบางครั้งการล้วงบอลของเขายังทำให้ตัวประกบที่เป็นผู้เล่นแนวรุกของคู่แข่งวิ่งตาม ทำให้เกิดพื้นที่ให้วิงแบ็คเติมขึ้นได้มากขึ้น

    นอกจากนี้สเตอร์ลิ่งยังสามารถใช้ความเร็วพลิกตัวและพาบอลขึ้นไปด้านหน้าเอง พร้อมกับดันผู้เล่นแนวรุกทีมชาติอังกฤษคนอื่นขึ้นไปหาพื้นที่ทำประตู และขณะที่เมื่อสเตอร์ลิ่งไม่ได้ครอบครองบอล เขามักจะถ่างตัวเองออกไปด้านข้างรับบอลจากเพื่อนร่วมทีมเพื่อโอกาสในการโยนหรือทำชิ่งกับแนวรุกคนอื่น

    ตัวอย่างมีให้เห็นได้จากเกมที่เจอกับปานามา เมื่อเขาวิ่งจากด้านหน้าถ่างไปรับด้านข้างเพื่อรับบอลจากลินการ์ด สร้างพื้นที่บริเวณหัวกะโหลก และจ่ายบอลตรงพื้นที่นั้นให้ลินการ์ดได้ยิงประตูสุดสวย

ถ้าไม่ใช่ราฮีม สเตอร์ลิ่ง จะเป็นใครแทน?

    ผู้เล่นสำรองในแนวรุกมีทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด, เจมี่ วาร์ดี้ และแดนนี่ เวลเบ็ค แต่นักเตะเหล่านี้เมื่อพิจารณากับแผนด้านบนแล้ว ราฮีม สเตอร์ลิ่งเป็นตัวเลือกเหมาะสมที่สุด เพราะตำแหน่งนี้ต้องการตัวทำเกมรุก ไม่ใช่กองหน้าที่จบสกอร์ ดังนั้นแกเร็ธ เซาธ์เกต จึงเลือกราฮีม สเตอร์ลิ่ง ลงทุกนัด แม้เขาจะถูกวิจารณ์ถึงเรื่องการจบสกอร์มากแค่ไหนก็ตาม