เหตุผลวงการบอลโครเอเชียไปได้สวยทั้งที่ประชากรน้อย
Posted 13/07/2018 by siamsport
เหตุผลสำคัญนำวงการฟุตบอลโครแอตยิ่งใหญ่ทั้งที่ประชากรน้อยนิด
หลังจากค่ำคืนเมื่อวันพุธที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา โลกลูกหนังได้เห็นหน้าประวัติศาสตร์ใหม่กับการที่ โครเอเชีย ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งเป็นครั้งแรกของพวกเขา โดยชาตินี้ถือเป็นประเทศที่เล็กที่สุดที่ได้มีโอกาสลุ้นความสำเร็จในมหกรรมลูกหนังแห่งมวลมนุษยชาติ
โครเอเชีย มีประชากรเพียงแค่ 4.29 ล้านคนเท่านั้นที่ได้เข้าชิงชนะเลิศ พวกเขาเอาชนะ อาร์เจนตินา (ประชากรราว 43 ล้านคน), อังกฤษ (ประชากรราว 53 ล้านคน) และ รัสเซีย เจ้าภาพ (ประชากรราว 144 ล้านคน) ความสำเร็จในครั้งนี้ถือว่าน่าสนใจมากๆ สำหรับชาติที่แตกออกมาจากยูโกสลาเวีย
เบื้องลึกเบื้องหลังที่ทำให้ "ตาหมากรุก" ไปได้ไกลขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน เพราะหากพิจารณาบรรดานักเตะในทีมชุดนี้ ส่วนใหญ่แล้วออกมาค้าแข้งต่างประเทศ แถมมีบางคนที่ต้องเผชิญกับเรื่องราวเลวร้ายในช่วงที่เกิดสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แล้วมีเหตุผลอะไรอีกที่ทำให้วงการฟุตบอลโครแอตยอดเยี่ยมทั้งๆ ที่มีประชากรเพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับชาติยักษ์ใหญ่ในวงการลูกหนังโลก
- สร้างชาติหลังสงครามประกาศเอกราช
ประชากรในประเทศโครเอเชีย - 4,292,095 คน
ประวัติศาสตร์ - โครเอเชีย เป็นส่วนหนึ่งของอดีตยูโกสลาเวีย ร่วมกับ เซอร์เบีย, บอสเนีย และเฮอร์เซโกวีน่า, มอนเตเนโกร, มาซิโดเนีย, สโลวีเนีย และ โคโซโว ตั้งแต่ปี 1918 จนกระทั่งมีการประกาศเอกราชในปี 1990 นอกจากนี้ในหน้าประวัติศาสตร์ดินแดนแห่งนี้เคยอยู่ในการปกครองของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ด้วยเหตุนี้ทำให้พวกเขามีศาสนาทั้งคาทอลิค, เซิร์บออร์โธด็อกซ์ และชาวบอสเนียที่นับถือมุสลิม
สโมสรฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศ - ดินาโม ซาเกร็บ กับ ไฮจ์ดุ๊ค สปลิท
กีฬายอดนิยม - ฟุตบอล ตามด้วย แฮนด์บอล, บาสเกตบอล และโปโลน้ำ
ทีมชาติโครเอเชีย เริ่มกลับมารวมตัวเพื่อลงเล่นฟุตบอลอีกครั้งในปี 1990 ด้วยการอุ่นเครื่องกับ สหรัฐอเมริกา โดยไม่ได้รับการยอมรับจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) อย่างไรก็ตามนี่คือหนึ่งในแนวทางที่สร้าง โครเอเชีย ขึ้นมาใหม่นับตั้งแต่แยกประเทศ
ประเทศนี้ประกาศอิสรภาพในปี 1991 แต่ก็ยังคงมีส่วนเกี่ยวพันกับสงครามในคาบสมุทรบอลข่านนับตั้งแต่ที่ ยูโกสลาเวีย ล่มสลาย ชาวโครแอตจำนวนมากใช้ชีวิตในประเทศโครเอเชีย โดยมีชนกลุ่มน้อยที่ยังคงอาศัยอยู่ที่เซอร์เบีย และบอสเนีย อะไรคือผลที่ตามมาจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และความเป็นอริราชศัตรูระหว่างชาติ ทั้งๆ ที่พวกเขาใช้ภาษาที่แทบจะเหมือนกัน และยังใช้ดินแดนเดียวกันมานานกว่าศตวรรษ ?
สตาร์ลูกหนังอย่าง ลูก้า โมดริช ซึ่งเกิดในปี 1985 ต้องใช้ชีวิตในวัยเด็กด้วยความหวาดกลัวจากหลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาต้องหลบลี้หลีจากจากดินแดนเกิดเนื่องจากต้องเจอกับความขัดแย้งที่รุนแรงในวัยเพียงแค่ 6 ปี พ่อของเขาเข้าร่วมกับกองทัพชาวโครเอเชียน ส่วนคุณปู่ของเขาถูกยิงตายเคียงข้างกับบรรดาพลเรือนสูงวัยคนอื่นๆ โดยน้ำมือของผู้ก่อกบฏชาวเซิร์บ-โครเอเชียน ขณะที่บ้านของเขาโดนเผาวอดวาย
"นั่นคือช่วงเวลาที่แสนยากลำบากและเลวร้ายที่สุด" เพลย์เมกเกอร์ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ย้อนความหลังแสนขมขื่น "ผมยังคงจดจำเรื่องราวเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน แต่มันไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องไปคิดเกี่ยวกับเรื่องพวกนั้น สงครามทำให้ผมเข้มแข็ง"
นักเตะชาวโครแอตรุ่นนี้ได้รับผลกระทบจากสงครามโดยตรงมากมาย ทั้ง มาริโอ มานด์ซูคิช ที่เติบโตในเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลก่อนจะกลับไป โครเอเชีย ตอนอายุ 10 ขวบ ขณะ อิวาน ราคิติช เกิด และเติบโตในสวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนที่เขาเริ่มต้นอาชีพพ่อค้าแข้งกับ บาเซิ่ล ด้าน เวดราน ชอร์ลูก้า เกิดในบอสเนีย แต่อพยพไปที่ โครเอเชีย ในปี 1992 ช่วงระหว่างที่เกิดสงครามกลางเมือง
ส่วนบรรดานักเตะดาวรุ่งน้อยนักที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แต่ความทรงจำ และตำนานเล่าขานเรื่องของสงครายังคงมีความสำคัญภายในทีม ยกตัวอย่าง เดยันลอฟเรน เพราะเกิดเรื่องโต้เถียงอย่างรุนแรงจากการที่เขาโพสต์วีดิโอที่ตัวเองร้องเพลงชาตินิยมที่สืบทอดมาจากสโลแกนของลัทธิฟาสซิสต์
สำหรับความทรงจำเหล่านี้อาจจะแปรเปลี่ยนเป็นแรงกระตุ้นชั้นดี และนำไปสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกันในทีมชาติโครเอเชียก็ได้
- 1998 และทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้น
มันยังเร็วเกินไปสำหรับ โครเอเชีย ที่จะทำผลงานได้ดี เพราะหลังจากที่พวกเขาเอาแต่อุ่นเครื่องมากมาย ในที่สุดทัพ "ตาหมากรุก" มีโอกาสได้ร่วมแข่งขันระดับชาติครั้งแรกตอนที่มีการจัดโปรแกรมเมื่อปี 1994 และได้ผ่านเข้ารอบคัดเลือกศึกยูโร 96 โดยสามารถคว้าแชมป์กลุ่มเหนือ อิตาลี จากนั้นก็เดินทางไปเล่นในทัวร์นาเมนต์ที่อังกฤษ พร้อมกับผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ ก่อนจะตกรอบก่อนรองชนะเลิศด้วยน้ำมือของ เยอรมนี แชมป์ในครั้งนั้น ซึ่งเพียงแค่ 5 ปีหลังจากที่สร้างชาติของพวกเขาขึ้นมา
บรรดานักเตะในชุดนั้นได้แก่ สลาเวน บิลิช, ซโวนิเมียร์ โบบัน และ ดาวอร์ ซูเคอร์ กลายเป็นที่รู้จักกันในนาม "ยุคทองโครเอเชีย" และพวกเขาได้สร้างเรื่องราวที่สุดยิ่งใหญ่ในอีก 2 ปีต่อมาในศึก "ฟร็องซ์ 98" ประเทศฝรั่งเศส พวกเขาได้นำธงตาหมากรุกสีขาว-แดง โบกสะบัดอย่างน่าเกรงขามด้วยฟอร์มในรอบแบ่งกลุ่มที่ชนะ จาเมกา และญี่ปุ่น แต่แพ้ อาร์เจนตินา ยุคของกาเบรียล บาติสตูต้า
จากนั้นก็ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ไปพบกับ โรมาเนีย และเอาชนะได้อย่างหวุดหวิดจากจุดโทษของ ซูเคอร์ ทัพโครแอตต้องดวลกับ เยอรมนี ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย และพวกเขาก็จัดการล้างแค้นได้อย่างสะใจด้วยสกอร์ 3-0 ในรอบตัดเชือกถือเป็นงานสุดหินเมื่อต้องเจอกับเจ้าภาพ ฝรั่งเศส ที่มีทั้ง ซีเนดีน ซีดาน, ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ (เทรนเนอร์ฝรั่งเศสคนปัจจุบัน) และ เธียร์รี่ อองรี
แมตช์นั้น ฝรั่งเศส ซึ่งแชมป์โลกในครั้งนั้น ชนะ 2-1 ทั้งๆ ที่ โครเอเชีย นำไปก่อน แต่พวกเขาได้ซูเปอร์ฮีโร่นาม ลิลิยอง ตูราม กองหลังที่ซัดคนเดียวสองประตู โดยตอนนี้เหตุการณ์เมื่อ 20 ปีก่อนได้หวนกลับมาอีกครั้ง แต่เกิดขึ้นในนัดชิงชนะเลิศ วันอาทิตย์ที่ 15 ก.ค.นี้
- ฟุตบอลกับการเมือง
สองเหตุผลที่ทำให้ โครเอเชีย เป็นทีมที่ดี เพราะมาจากความยากลำบากที่เกิดจากสงคราม และการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยที่พวกเขามีหัวจิตหัวใจที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามยังมีเหตุผลที่่สำคัญอีกอย่าง นั่นก็คือเรื่องของการเมือง เพราะรัฐบาลโครเอเชียที่หนุนทีมชาติอย่างเต็มที่
หนึ่งในเหตุผลที่ โครเอเชีย แซงหน้าชาติอื่นๆ ในโลกนี้ ก็คือผู้คนในประเทศนี้เน้นเรื่องการคิดมากกว่าแค่ "พูด" เหมือนกับพวก สโลวาเกีย หรือ เบลารุสซึ่งประเทศหลังไม่เคยได้ผ่านเข้าไปลุยในเวทีฟุตบอลโลกเลย อีกเรื่องที่่น่าสนใจก็คือความเป็นชาตินิยม มันอาจฟังดูไม่ค่อยน่าอภิรมณ์สำหรับชาติตะวันตกที่นิยมระบอบประชาธิปไตย โดยรัฐบาลนำโดยพรรคประชาธิปไตยแห่งโครเอเชีย (เอชดีแซด) โดนกล่าวหาว่าพยายามเอาเปรียบเพื่อให้ทีมชาติประสบความสำเร็จด้วยการใช้ถ้อยคำแบบพวกชาตินิยมเวลาที่แข่งในบ้าน และบรรยากาศด้านการเมืองแบบนั้นมีผลให้เจ้าบ้านมีปัญหากับฟีฟ่า
ด้วยเหตุนี้จึงนำไปสู่การแบนนักเตะที่เปร่งวาจาคนคลั่งชาติในสนาม และโค้ชก็โดนไล่ออก รวมไปถึงการโดนสั่งให้ลงแข่งขันแบบสนามปิด (ห้ามแฟนบอลเข้าชม) หลายเกม จากการที่แฟนบอลนำสัญลักษณ์สวัสดิกะเข้ามาในสนาม รวมทั้งการร้องตะโกนเหยียดเชื้อชาติ และธงของลัทธิฟาสซิสต์
การที่ประเทศต้องเจอกับผลกระทบที่เลวร้ายดูเหมือนจะเป็นโอกาสที่ทำให้ทีมชาติเกิดแรงกระตุ้นมากยิ่งขึ้นในการที่จะต้องต่อสู้ด้วยตัวเอง แต่อย่างน้อยๆ เรื่องนั้นก็การันตีให้พวกเขาสามารถยกระดับตัวเองขึ้นมาตลอดช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมา
- ประเทศแห่งฟุตบอล
รากฐานสำคัญของ โครเอเชีย ก็คือเป็นประเทศแห่งฟุตบอล เหมือนกับ บราซิล, อาร์เจนตินา, สเปน, อิตาลี และแม้แต่ อังกฤษ ประเทศเหล่านี้คลั่งฟุตบอลมากๆ นี่คือกีฬาที่ผู้คนแทบทั้งประเทศเล่น เป็นกีฬาที่ผู้คนเฝ้าดู กีฬาที่เด็กๆ ให้ความสนใจมากๆ และเป็นกีฬาที่เป็นส่วนหนึ่งของแฟนบอลที่พร้อมหนุนหลังทีมชาติในศึกฟุตบอลโลก ครั้งนี้
ดินาโม ซาเกร็บ และ ไฮจ์ดุ๊ก สปลิท เป็นสองใน "สี่บิ๊กโฟร์" ของยูโกสลาเวีย เคียงข้าง ปาร์ติซาน และ เรด สตาร์ เบลเกรด โดยชาวโครแอต มีนักเตะที่เก่งมากมายที่เคยเล่นให้กับอดีตทีมจากยูโกสลาฟ นอกจากนี้ โครเอเชีย มีการลงทุนเรื่องกีฬาอย่างมาก ทั้งเรื่องสนาม และศูนย์เยาวชนกีฬาต่างๆ (โมดริช ก็เป็นหนึ่งในนั้น)
นักเตะเหล่านี้เป็นผลผลิตมาจากลีกในประเทศที่มีคุณภาพมากพอที่จะช่วยพัฒนาพวกเขา แต่พวกเขายังมีนักเตะชั้นนำที่ได้โอกาสไปเล่นในลีกระดับท็อปของยุโรป ทั้ง โมดริช, มานด์ซูคิช และ โควาซิช ที่เคยผ่านการเล่นให้ ดินาโม ซาเกร็บ ขณะที่ ซูบาซิช กับ เซอร์น่า เคยเล่นให้ ไฮจ์ดุ๊ก สปลิท เป็นต้น
สำหรับขุมกำลังโครเอเชีย ชุดลุยฟุตบอลโลก 2018 มี 6 คนที่เล่นในอิตาลี, 4 คนเล่นในสเปน, 3 คนเล่นในเยอรมนี, 2 คนเล่นในโครเอเชีย และมีอย่างละคนที่เล่นที่อังกฤษ, รัสเซีย, ฝรั่งเศส, ยูเครน กับ ตุรกี รวมทั้งประเทศอื่นๆ อีก ด้วยเหตุนี้ทำให้ทีมชุดนี้เต็มไปด้วยผู้เล่นที่มีประสบการณ์ และสไตล์การเล่นที่ยอดเยี่ยม แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือชาวโครแอตสามารถปรับตัว และสร้างผลงานน่าประทับใจกับทุกๆ ลีกในโลกนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ป็อกบาชูกรีซมันน์จ่อขึ้นชั้นตำนานฝรั่งเศส
ปอล ป็อกบา มิดฟิลด์จอมลีลาทีมชาติฝรั่งเศส ชู อองตวน กรีซมันน์ เตรียมขึ้นแท่นเป็นตำนานทัพ "ตราไก่" พร้อมเร้าเพื่อนๆ ห้ามประมาท โครเอเชีย คู่แข่งในเกมรอบชิงฯ บอลโลก วันอาทิตย์นี้เปริซิชเดี้ยงลุ้นหนักช่วยโครเอเชียดวลฝรั่งเศส
แฟนบอลทีมชาติโครเอเชีย ตอนนี้ต้องลุ้นกันหนัก หลัง อิวาน เปริซิช ปีกฟอร์มระเบิดมีปัญหาบาดเจ็บต้นขา โดยตอนนี้นักเตะได้เข้ารับการรักษาที่โรงหมอแล้ว และตอนลุ้นหนักว่าจะฟิตทันช่วย "ตาหมากรุก" ปะทะ ฝรั่งเศส ในนัดชิงบอลโลก 2018 วันอาทิตย์นี้หรือไม่ป็อกบาฝันเขียนประวัติศาสตร์นำฝรั่งเศสแชมป์โลก
ปอล ป็อกบา มิดฟิลด์เจ้าพ่อทรงผม ยืนยันตนอยากจะเขียนหน้าประวัติศาสตร์ของตัวเองร่วมกับ ฝรั่งเศส หลังบ้านเกิดได้เข้าชิง ฟุตบอลโลก 2018 พร้อมระบุ "ตราไก่" ไม่ใช่ทีมเต็งแชมป์ และยกย่อง โครเอเชีย แกร่งทั่วแผ่นขนาดตามหลัง อังกฤษ ยังฟื้นคืนชีพได้อนาคตสดใสแน่! มูรินโญ่ แนะนำ อังกฤษ รั้ง เซาธ์เกต คุมทีมต่อจนทัวร์นาเม้นท์หน้า
โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แนะนำให้ อังกฤษ รั้งตัวกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต เอาไว้ให้ได้จนถึงทัวร์นาเม้นท์หน้า เชื่อมีโอกาสประสบความสำเร็จแน่นอน
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์