และแล้วก็มาถึงนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018 ฝรั่งเศสเตรียมพร้อมล่าแชมป์สมัยที่ 2 ของพวกเขา แต่ต้องผ่านด่านสุดแกร่งอย่างโครเอเชียไปให้ได้เสียก่อน ทั้งสองทีมถือได้ว่าเป็นระดับท็อปของยุโรป ดังนั้นการันตีความมันส์แน่นอน แต่ก่อนจะไปดูเกม มาเรียกน้ำย่อยกับ 5 ประเด็นร้อนกันก่อนเลย
1.เวทีของเอ็มปัปเป้

    หนึ่งในนักเตะที่ฟอร์มแรงที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้ เขาเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับสองในทัวร์นาเมนต์ด้วยวัยเพียง 19 ปี กับอีก 6 เดือน แต่ความสามารถและศักยภาพของเขาเกินอายุไปมากแล้ว จากที่คว้าแชมป์ฟุตบอลยูโรกับฝรั่งเศสรุ่น U19 ในปี 2016 ผ่านการเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูในเกมแชมเปียนส์ลีก จนมาสู่การระเบิดฟอร์มอันจัดจ้านในฟุตบอลโลกครั้งนี้ซึ่งเป็นครั้งแรกของเขา มันจะเป็นการสมบูรณ์แบบมากขึ้นไปอีกถ้าเขาพาตราไก่คว้าแชมป์สมัยที่ 2 ได้สำเร็จเหมือนกับที่เปเล่เคยทำได้ด้วยวัยเพียง 17 ปี
   
2.ม้ามืดผู้แข็งแกร่ง

    ด้วยประชากรเพียงแค่ 4.2 ล้านคนเท่านั้น โครเอเชียจึงเป็นประเทศที่เล็กที่สุดที่เข้าชิงชนะเลิศนับตั้งแต่อุรุกวัยในปี 1950 (ปีที่มีรอบชิงชนะเลิศแบบเก็บแต้ม 4 ทีม) พวกเขาเคยมาไกลที่สุดเพียงอับดับสามในฟุตบอลโลกปี 1998 ซึ่งเป็นปีที่ฝรั่งเศสได้แชมป์ด้วย ดังนั้นนัดชิงชนะเลิศวันนี้จะเป็นครั้งแรกของพวกเขา แม้จะถูกมองว่าเป็นรองเนื่องจากทุกรอบที่ผ่านพวกเขาเข้ามาอย่างยากลำบาก แต่นั่นก็แสดงให้เห็นจิตใจนักสู้ และเกมวันนี้พวกเขาพร้อมจะจารึกประวัติศาตร์หน้าใหม่ให้ได้

3.โมดริช vs ก็องเต้

    กัปตันทีมโครเอเชีย สร้างชื่อในฟุตบอลโลกครั้งนี้ จนถึงขนาดถูกยกย่องให้มีลุ้นบัลลงดอร์ในปีนี้เลยก็ว่าได้ เขาเป็นคนขับเคลื่อนแดนกลางของตาหมากรุก ขณะที่เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ผู้ปิดทองหลังพระให้ฝรั่งเศสผ่านเข้ามาชิงชนะเลิศ เขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถหยุดเกมรุกที่จัดจ้านได้แบบอยู่หมัดโดยเฉพาะในเกมรอบรองฯกับเบลเยี่ยม เกมแดนกลางวันนี้จะเป็นการดวลกันของสองนักเตะที่วิ่งเยอะที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้ก็ว่าได้ (โมดริชื วิ่ง 63 กม. / ก็องเต้ วิ่ง 62.9 กม.) เตรียมมันส์กันได้เลย

4.ถึงฎีกาตราไก่จะไหวมั้ยถามใจเธอดู

    เส้นทางในรอบน็อคเอาท์ของโครเอเชียเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่ก็แลกมาด้วยประสบการณ์ในการเล่นเต็มเวลาถึง 120 นาทีรวม 3 เกม พร้อมดวลจุดโทษชนะมาแล้วถึง 2 ครั้ง พวกเขาเป็นทีมที่สองเท่านั้นที่สามารถชนะการดวลจุดโทษได้ติดต่อกันในฟุตบอลโลก ขณะที่ฝรั่งเศสชุดนี้ผ่านรอบน็อคเอาท์มาแบบชนะใน 90 นาทีตลอด เอาจริงๆฝรั่งเศสยังไม่เคยยิงจุดโทษเลยนับตั้งแต่ปี 2006 ที่พวกเขาพ่ายอิตาลีในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก ตราไก่ดูจะเลี่ยงการดวลฎีกาทุกครั้ง แต่ถ้านัดชิงวันนี้หาผู้ชนะ 120 นาทีไม่ได้ ฝรั่งเศสก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาจะไม่เกิประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

   
5.สถิติฝรั่งเศสข่มมิด

    แฟนตราไก่มีสถิติที่พวกเขายิ้มได้เมื่อเจอกับโครเอเชีย ก่อนหน้านี้ทั้งสองทีมเจอกันมาแล้วทั้งหมด 5 ครั้ง เป็นฝรั่งเศสที่ชนะ 3 นัด (1998,1999 และ 2000) และอีกสองจบลงด้วยผลเสมอ  (2004 และ 2011) เรียกได้ว่ายังไม่เคยแพ้ตาหมากรุกสักครั้งเดียว แต่สำหรับวันนี้เจอกันในสถานการณ์ที่แตกต่างจากเมื่อก่อน มันจึงเป็นเกมที่ตราไก่ไม่ง่ายแน่นอน แต่ที่น่าสนใจคือ 3 ครั้งหลังสุดของฟุตบอลโลกไม่สามารถหาผู้ชนะใน 90 นาทีได้เลย ต้องลากกันไปถึงช่วงต่อเวลา คืนนี้จะมีผู้ชนะในเวลาหรือไม่รอดูกัน