ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » เฟคีร์จากเด็กไร้อนาคตสู่จอมทัพโอลิมปิกลียง

เฟคีร์จากเด็กไร้อนาคตสู่จอมทัพโอลิมปิกลียง

Posted 01/08/2018 by siamsport

เส้นทางชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกันใครจะไปคิดว่า นาบิล เฟคีร์ เพลย์เมกเกอร์ดาวรุ่ง เคยเกือบไม่ได้เป็นนักเตะอาชีพเนื่องจาก โอลิมปิก ลียง ต้นสังกัดปัจจุบัน ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับทักษะ และความสามารถของเขา แถมยังเคยป่วยเป็นโรคออสกู้ด-ชแลตเตอร์ หรือ โรคกระดูกหัวเข่าปูด แต่ท้ายที่สุดเขาสามารถเอาชนะอุปสรรคและก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นที่ได้รับความสนใจจากสโมสรยักษ์ใหญ่มากมาย

เฟคีร์ เป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับการจับตามองอย่างมากในปัจจุบัน แต่เมื่อย้อนไปตอนวัย 14 ปี เขาโดนตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องความสามารถในเชิงลูกหนัง โดยในเวลานั้นโค้ชของเขามองว่ารูปร่างของ ดาวเตะเลือดเฟร้นช์ ไม่น่าจะแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับเกมฟุตบอลระดับอาชีพได้

ยิ่งแย่ไปกว่านั้น เฟคีร์ ดันมีปัญหาเป็นโรคออสกู้ด-ชแลตเตอร์ ซึ่งดูเหมือนว่าหัวเข่าของเขาจะไม่สามารถรับมือกับการเล่นในระดับอาชีพได้ อย่างไรก็ตามเขาสามารถเอาชนะอุปสรรคในร่างกายของตัวเองได้จนได้รับโอกาสกลับมาเล่นให้ โอลิมปิก ลียง และในที่สุดก็ได้เป็นกัปตันทีม

 เฟคีร์ ซึ่งเป็นพี่คนโตในจำนวนพี่น้อง 4 คน โดยเขาเกิดมาจากพ่อแม่ที่ย้ายจาก แอลจีเรีย มาตั้งรกรากใน ฝรั่งเศส เมื่อปี 1990 พวกเขาอาศัยอยู่ในย่านจาค โมนอด ทางตอนเหนือของเมืองลียง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีครอบครัวชาวแอลจีเรียอาศัยอยู่ โดยตั้งแต่ช่วงเยาว์วัย เขามักจะเลี้ยงบอลไปไหนมาไหนตลอด พ่อของเขามักจะสอนเรื่องทักษะในการเลี้ยงบอลบริเวณระเบียงบ้านอยู่เสมอ

 สิ่งนั้นช่วยให้ เฟคีร์ พัฒนาทักษะ แม้บางครั้งการทำแบบนี้จะทำลายข้าวของในบ้านก็ตาม "ตอนอยู่บ้าน ผมไม่เคยอยู่ห่างจากลูกบอลเลย ผมจะมีบอลลูกเล็กๆ ติดตัวเสมอ เวลาที่อยู่กับพี่น้องของผม เรามักจะเตะบอลจนโคมไฟ, แจกัน และทุกๆ อย่างภายในบ้านแตกหมด" เฟคีร์ กล่าว

เฟคีร์ เติบโตขึ้นมาโดยมีนักเตะในดวงใจก็คือ ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา ซึ่งเขามีรากเหง้าความเป็นชาวแอฟริกันทางตอนเหนือเช่นกัน และตอนที่อายุ 5 ขวบเขามักจะเตะบอลเล่นร่วมกับพ่อที่สวนสาธารณะประจำเมืองลียง หลังจากนั้นเจ้าตัวก็มีโอกาสได้เล่นฟุตบอลในระดับทีมเยาวชนโดยเป็นกลายเป็นดาวเด่นให้กับหลายๆ สโมสรรุ่นเด็ก จนกระทั่งได้รับโอกาสไปฝึกปรือฝีเท้ากับ ลียง ตอนอายุ 12 ขวบ

 มันเหมือนฝันเป็นจริงสำหรับ เฟคีร์ แต่ในช่วงแรกๆ กับ "โอแอล" ไม่ได้โสภาสถาพรอย่างที่คาดหวัง โดยเพียงแค่ 2 ปี ต้นสังกัดก็หมดศรัทธาในฝีเท้าของเขา เมื่อมองว่านักเตะคนนี้ไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะพัฒนาฝีเท้าขึ้นไปอีกระดับ ที่สำคัญพัฒนาการของ เฟคีร์ ต้องหยุดชะงักจากโรคออสกู้ด-ชแลตเตอร์ โดยจะมีอาการบวมบริเวณพื้นที่รอบๆ ด้านล่างหัวเข่าซึ่งมีเส้นเอ็นจากกระดูกสะบ้ายึดติดกับกระดูกหน้าแข้ง

ในเวลานั้น เฟคีร์ ต้องกล้ำกลืนฝืนทนต่อปัญหาแต่ท้ายที่สุดเขาก็ไม่สามารถทนต่อสภาพดังกล่าวได้นานมานัก ในที่สุดเจ้าตัวก็ย้ายกลับไปเล่นให้ เวอซอง เวอแล็ง หนึ่งในต้นสังกัดของเขา เพื่อจะได้โอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ  เฟคีร์ เล่นอยู่ในระดับท้องถิ่นจนกระทั่งอายุ 17 ปี ก็ย้ายไปเล่นให้ แซงต์-ปริสท์ สโมสรสมัครเล่นในปี 2010

  เพชรที่แสนขรุขระเริ่มเข้าสู่กระบวนการเจียระไน แต่ก็ยังต้องทำงานหนักเพื่อที่จะประสบความสำเร็จ โดยในเวลานั้น โรแบร์ โค้ชของทีมรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี กล่าวว่า "เขาย้ายมาจาก  เวอซอง เวอแล็ง ที่ๆ ผมได้เจอกับเขา และตอนที่เขาย้ายมาอยู่ในทีมของผม ผมบอกกับตัวเองว่า -เราทำทุกอย่างสำเร็จแล้ว-"

"ทุกอย่างค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ผมได้เห็นพัฒนาการของเขา เขาแข็งแกร่งขึ้น และตั้งแต่เดือนธันวาคมหรือประมาณเดือนมกราคม เขาเริ่มทำผลงานได้อย่างสุดยอด สร้างความปั่นป่วนให้กับบรรดาคู่แข่งของเขา  ผมจับเขาไปเล่นปีกซ้าย และฟูลแบ็ก ซึ่งทำให้เขาต้องเจอกับเรื่องที่สุดแสนยากลำบาก"

หลังจากนั้น เฟคีร์ ก็กลายเป็นเพชรที่ได้รับการเจียระไนอย่างงดงาม ต่อจากนั้น แซงต์-เอเตียน พยายามที่จะแย่งตัวนักเตะรายนี้แข่งกับ ลียง ซึ่งพยายามอย่างเต็มที่ๆ จะดึงนักเตะกลับมาหลังเคยปล่อยทิ้งไปเมื่อ 3 ปีก่อน ในที่สุด "โอแอล" ก็ได้ เฟคีร์ กลับมาเสริมแกร่ง และได้ขึ้นมาเล่นชุดใหญ่อย่างต่อตลอดเวลา  2 ปีที่ได้เซ็นสัญญากลับมาร่วมทีมอีกครั้ง

"ผมมีโอกาสได้ลงเล่นกับหลายๆ สโมสร ได้เล่นร่วมกับนักเตะที่แตกต่างกัน ในระดับที่ต่างกัน ผมไม่เคยเปลี่ยนแปลงการเดินทางของผมไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม" เฟคีร์ กล่าว โดยเขาเกือบได้ย้ายไปเล่นให้ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 66 ล้านปอนด์ (ราว 2,970 ล้านบาท) แต่ไม่ผ่านการตรวจร่างกาย

สำหรับตอนนี้อนาคตของ เฟคีร์ ยังไม่แน่ชัดว่าจะอยู่กับ ลียง ต่อไป หรือย้ายไปหาความท้าทายใหม่ แต่หากนักเตะเลือกที่จะมาเล่นในพรีเมียร์ลีก สิ่งหนึ่งที่จะต้องจำให้ขึ้นใจว่านี่คือลีกที่เน้นเรื่องสภาพร่างกายเป็นหลัก และมีโอกาสสูงมากที่ จอมทัพแชมป์โลก จะโดนอัดจนเดี้ยงอีกครั้ง !!

เฟคีร์จากเด็กไร้อนาคตสู่จอมทัพโอลิมปิกลียง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »