คล็อปป์ ความอดทนเปลี่ยนเกมรับสุดย่ำแย่เป็นแข็งแกร่งดั่งภูผาหิน
Posted 22/08/2018 by siamsport
ลิเวอร์พูล เคยเกือบได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ภายในการกุมบังเหียนของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เมื่อซีซั่น 2013–14 พวกเขาเสีย 50 ประตูและเป็นทีมอันดับ 8 ที่มีสถิติเล่นเกมรับดีที่สุด โดยในเวลานั้นพวกเขาผู้เล่นเกมรับได้แก่ ซิมง มิโญเลต์, เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดเนี่ยล แอ็กเกอร์, มามาดู ซาโก้, จอน ฟลานาแกน และ โคโล ตูเร่
เมื่อหมดยุค ร็อดเจอร์ส มีหลายๆ อย่างที่ไม่ได้พัฒนาขึ้นเลยในทันทีภายใต้การคุมทัพของ เจอร์เก้น คล็อปป์ แต่ปัญหาได้ถูกค้นพบ และค่อยๆ ทำการแก้ไข โดยเขาทุ่มเงินซื้อ อลีสซง และ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ มาร่วมทีม ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่าเป็นการแก้ปัญหาถูกจุดเมื่อทีมไม่เสียประตูในเกมลีกสองแมตช์แรก (ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และ คริสตัล พาเลซ) หากเปรียบเทียบกับการเสีย 3 ประตูให้ วัตฟอร์ด ในเกมแรกของซีซั่นเมื่อปีก่อน และ 5 ประตูเกมโดนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยำในเดือนกันยายน
แม้ นายใหญ่เลือดด๊อยท์ช จะเป็นพวกที่ภูมิอกภูมิใจกับการเป็นโค้ชที่คลั่งเกมบุก อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญก็คือสมดุลระหว่างการยิงประตูและการหยุดเสียประตู ซึ่งแน่นอนว่านั่นเป็นเรื่องที่ดีเยี่ยมสำหรับ ลิเวอร์พูล ชุดปัจจุบันมากกว่าทีมชุดก่อนเมื่อหลายๆ ปีที่ผ่านมา จึงเป็นเหตุผลทีว่าทำไมพวกเขาถึงก้าวขึ้นลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยแรกหลังจากห่างหายมานานกว่า 28 ปี
สำหรับเครดิตทั้งหมดต้องยกให้กับ คล็อปป์ ที่ยอมอดทนในเรื่องตลาดซื้อขายนักเตะ ตั้งแต่การพยายามเซ็น ฟาน ไดค์ เมื่อซัมเมอร์ปี 2017 แต่แห้วรับประทาน และเขาก็ไม่ยอมใช้แผนบีแม้จะโดนกดดันอย่างหนักจากหลายๆ กระแสในการเซ็นสัญญากับนักเตะคนอื่นก็ตาม
6 เดือนแห่งการรอคอย และคว้าตัว ฟาน ไดค์ จากเซาธ์แฮมป์ตัน ด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์ (ราว 3,375 ล้านบาท) แม้จะเป็นสถิติโลกแต่ก็ถือว่าถูกกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ซื้อแข้งแนวรับแบบเหมารวมอย่าง เอริก ไบยี่, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ และ มาร์กอส โรโฮ ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่มีใครเล่นได้ดีเยี่ยมเหมือน กองหลังทีมชาติฮอลแลนด์ ที่เพิ่งคว้า แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมชนะ พาเลซ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
จากการพยายามแก้ปัญหาในเรื่องเกมรับ ตอนนี้ คล็อปป์ แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถจัดการจุดอ่อนของทีมในแต่ละตำแหน่งแผงหลังได้อย่างลงตัว แม้อาจจะมีการค่อนขอดว่านี่เพิ่งจะเปิดฤดูกาลเท่านั้น แต่จากแนวทางการเล่นของทีม แน่นอนว่า "หงส์แดง" ชุดนี้ มีสมดุลมากกว่าหลายๆ ชุดที่ผ่านมา
ผู้รักษาประตู
คล็อปป์ ตัดสินใจเมิน ซิมง มิโญเลต์ ออกจากทีม แต่เขาทำพลาดเมื่อเลือกโกล์คนใหม่ก็คือ ลอริส คาริอุส ซึ่งย้ายมาจาก ไมนซ์ ด้วยค่าตัว 5 ล้านปอนด์ (ราว 225 ล้านบาท) ทำหน้าที่มือ 1 "หงส์แดง" เขาต้องเจอกับฝันร้ายมากมาย โดยเฉพาะคว้าผิดพลาด 2 ครั้งที่มิอาจให้อภัยได้ในนัดชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เกมแพ้ เรอัล มาดริด เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ตอนแรกเริ่มเดิมที คล็อปป์ แสดงความสนใจอยากได้ผู้เล่นเกมรุกเหมือนกับ ซาดิโอ มาเน่ และ โม ซาลาห์ แต่สุดท้าย นายใหญ่ชาวเยอรมัน เปลี่ยนความสนใจของเขาไปที่ตำแหน่งผู้รักษาประตู และในที่สุดก็เลือกที่จะบอกบอร์ดบริหารให้ทุ่มเงินถึง 66 ล้านปอนด์ (ราว 2,970 ล้านบาท) คว้าตัว อลีสซง เบ็คเกอร์ มาจาก โรม่า
ต้องบอกว่าการย้ายมาของ นายด่านชาวบราซิเชียน ย้ ช่วยให้แนวรับของ ลิเวอร์พูล ดูมั่นคงยิ่งขึ้นโดย อลีสซง ไม่เพียงแค่ป้องกันจังหวะสำคัญๆ ได้อย่างสุดยอดเท่านั้น แต่เขายังสามารถใช้เท้าเปิดบอลได้อย่างแม่นยำ อย่างในเกมที่ชนะ คริสตัล พาเลซ เขามีสถิติการผ่านบอลสั้น-ยาวเข้าเป้าหมายถึง 21 จาก 23 หน
นอกจากนี้ในเกมกับ พาเลซ นายด่าน "เดอะ เร้ดส์" สามารถรักษาคลีนชีต และยังปัดจังหวะการยิงฟรีคิกของ ลูก้า มิลิโวเยวิช ได้อย่างสุดยอด รวมทั้งการจัดการจังหวะตั้งเตะซึ่ง "ดิ อีเกิ้ลส์" มีโอกาสเยอะมาก งานนี้ คล็อปป์ คงสบายใจไปเปราะนึงสำหรับตำแหน่งที่มีปัญหามานานหลายปี
แบ็กขวา
ร็อดเจอร์ส เซ็นสัญญากับ นาธาเนียล ไคลน์ เพื่อแทนที่ เกล็นน์ จอห์นสัน ในช่วงซัมเมอร์ก่อนจะโดนไล่ออกเพื่อหลีกทางให้ คล็อปป์ เข้ามากุมบังเหียนแทน โดย ไคลน์ เป็นกองหลังที่เหนียวแน่น แต่ คล็อปป์ โชคร้ายที่เขาต้องพลาดลงสนามเกือบทั้งฤดูกาลที่ผ่านมาเนื่องจากต้องเข้ารับการผ่าตัดหลัง แถมในเวลาเดียวกัน โจ โกเมซ ก็ดันมาเจ็บข้อเท้าอย่างหนักด้วย
เหมือนสวรรค์เปิดทางเพราะนั่นทำให้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ นักเตะดาวรุ่งท้องถิ่น ซึ่งเติบโตขึ้นมาจากการเป็นเด็กฝึกหัดในสนามเมลวู้ดของ "หงส์แดง" และผลลัพธ์ต้องบอกว่าเกินความคาดหมาย เมื่อไอ้หนูจอมพลัง พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นนักเตะสมัยใหม่ในตำแหน่งฟูลแบ็ก ทั้งรวดเร็ว, แข็งแกร่ง และครองบอลได้ดี เขายังมีจุดเด่นในเรื่องการเล่นจังหวะโอเพ่นเพลย์ (การเข้าทำโดยการสร้างสรรค์ของทีม) และลูกตั้งเตะ เหมือนกับ คีแรน ทริปเปียร์ ของ สเปอร์ส
ด้วยวัยเพียง 19 ปีเท่านั้น เขายิงประตูแรกให้กับทีมในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ด้วยจังหวะซัดฟรีคิกงามหยดในเกมพบ ฮอฟเฟ่นไฮม์ และได้ลงเล่นในชิงรายการนี้ด้วย รวมทั้งมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษ ในยุคที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต กุมบังเหียน "สิงโตคำราม"
คล็อปป์ เมินเฉย มามาดู ซาโก้ ก่อนจะขายเขาให้ คริสตัล พาเลซ ขณะที่ มาร์ติน สเคอร์เทล ย้ายไปเล่นในลีกตุรกี ปัญหาของ กุนซือเลือดเบียร์ ที่ยังไม่สามารถหาคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟที่ลงตัวแทนพวกเขาได้ เดยัน ลอฟเรน มักจะโดนตำหนิบ่อยๆ, โจเอล มาติป ต้องใช้เวลาในการปรับตัวกับการเล่นในพรีเมียร์ลีก อีกพักใหญ่ๆ
ปราการหลังตัวกลาง
อดีตกุนซือโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ รู้ดีว่า เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ คือคำตอบของทุกอย่างในตำแหน่งนี้ เขามีสัญชาตญาณในการเป็นผู้นำ เล่นลูกกลางอากาศได้ดีเยี่ยม และมีความนิ่งเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่แสนกดดัน ความพยายามในครั้งแรกเพื่อเซ็นสัญญาทำไม่ถูกต้อง และ ลิเวอร์พูล ต้องออกมาขอโทษในเรื่องนี้
ช่วงเวลานั้นแม้ทีมจะมีปัญหาเกมรับ แต่ คล็อปป์ ไม่ยอมเซ็นสัญญานักเตะคนไหนทั้งนั้น ทั้งๆ ที่ช่วงครึ่งฤดูกาลแรกของซีซั่นที่ผ่านมา พวกเขาเสีย 3 ประตูหรือมากกว่านั้นจากโอกาสทุกๆ 6 ครั้ง และในที่สุด ฟาน ไดค์ ก็ได้ย้ายสู่ถิ่นแอนฟิลด์ และทำผลงานได้อย่างโดดเด่น
ลิเวอร์พูล ทะลุรอบชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทั้ง 2 เกมเหย้า-เยือน โดยงานนี้ ดาวเตะเลือดดัตช์ ได้รับคำชื่นชมจากหลายๆ ฝ่ายสำหรับแนวทางที่เขาเล่น แถมทีมยังได้โบนัสก้อนโตแบบคาดไม่ถึงเมื่อ (โจ) โกเมซ ซึ่งต้องเจอฝันรายจากอาการบาดเจ็บ ฟิตสมบูรณ์กลับมาเล่นได้เข้าฟอร์มยามที่ยืนเป็นคู่หูแนวรับกับ ฟาน ไดค์
ต้องบอกเลยว่าในเวลานี้ โกเมซ ซึ่งเป็นอดีตดาวรุ่งชาร์ลตัน แอธเลติก ฟอร์มเข้าฝักจริงๆ ฉะนั้น เดยัน ลอฟเรน ที่ช่วย โครเอเชีย ทะลุชิงฟุตบอลโลก 2018 อาจจะต้องเจอเรื่องที่สุดหินในการที่จะเบียดแย่งตำแหน่งของเขากลับคืนมา
แบ็กซ้าย
นี่คือจุดอ่อนของ ลิเวอร์พูล มาเนินนานหลายปี แม้ทีมจะมีดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง จอน ฟลานาแกน ลงเล่นในตำแหน่งนี้แต่นักเตะโดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน ทำให้ไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้อีก โดยในปัจจุบันเจ้าตัวฟิตสมบูรณ์แล้ว และเลือกย้ายไปเล่นกับ เรนเจอร์ส ทีมดังในลีกสกอตต์ ซึ่งมี สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนาน ลิเวอร์พูล ทำหน้าที่กุมบังเหียน
ก่อนหน้านี้ ร็อดเจอร์ส เซ็นสัญญากับ อัลแบร์โต้ โมเรโน่ ฟูลแบ็กชาวสแปนิช แต่กลายเป็นนี่คือการเพิ่มปัญหาให้กับทีมมากกว่าแก้ปัญหาซะด้วยซ้ำ เพราะนักเตะเป็นพวกเล่นดีในเกมรุกแต่ห่วยแตกในเกมรับ โดยเฉพาะความผิดพลาดมหันต์ในเกมนัดชิง ยูโรปา ลีก ที่แพ้ เซบีย่า เมื่อซีซั่น 2015–16
คล็อปป์ ดวงเฮงสุดๆ ที่ได้นักเตะชั้นดีจากแข้งตกชั้นอย่าง ฮัลล์ ซิตี้ โดย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้ายทีมชาติสกอตแลนด์ ที่มีค่าตัวเพียง 8 ล้านปอนด์ (ราว 360 ล้านลาท) แถมตอนแรกไม่สามารถเบียดแย่งตำแหน่ง โมเรโน่ ได้ แต่ในที่สุดโอกาสก็มาถึง เมื่อนักเตะได้ลงสนามและทุ่มเทแบบวิ่งไม่หยุดจนทำให้ทีมมีออปชั่นในเกมบุกเพิ่มขึ้น แถมเกมรับยังไว้วางใจได้ด้วย
โรเบิร์ตสัน กลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของสาวก "เดอะ ค็อป" ไปเรียบร้อยแล้ว ฟอร์มการเล่นในลีกที่ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา เขามีสถิติเข้าสกัดได้อย่างแม่นยำ และแย่งบอลจาก ราฮีม สเตอร์ลิง อดีตแข้ง "หงส์แดง" ได้อย่างสุดยอด นั่นทำให้เขากลายเป็นฮีโร่ของทีม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
แข้งลิเวอร์พูลติดต่อเนื่อง!ทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกนัดที่สอง
พรีเมียร์ลีก นัดที่สอง เตะกันไปครบทุกทีมแล้ว นักเตะเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้น เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่เหมาสามประตูพาแมนฯซิตี้ ถล่ม ฮัดเดอร์สฟิลด์ 6-1 ส่วนแข้งรายอื่นจะมีใครที่โดดเด่นกันบ้าง ทีมงาน Siamsport ได้จัดทีมไว้ให้แฟนๆได้ชมเช่นเคยคริสตัล พาเลซ 0 - ลิเวอร์พูล 2
คริสตัล พาเลซ 0 - ลิเวอร์พูล 2
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
เพิ่งมาก็ไม่รอด! รูเบน อโมริม รับอาจโดนปลดหากแมนยูผลงานยังห่วย
ตามนั้น! วินิซิอุส หน้าบาน โรนัลโด้ เชิดชูแข้งเก่งสุดในโลก
วิเคราะห์บอล ทีมชาติฟิลิปปินส์ พบ ทีมชาติไทย วันศุกร์ที่ 27 ธ.ค. 67
แม้ชนะเกมแรกกุนซือเวียดนามไม่ประมาท เชื่อสิงคโปร์มีทีเด็ด
แฟนหงส์ว่าไง? เนมานยา วิดิช เผยเคยเกือบเซ็นสัญญากับ ลิเวอร์พูล
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
แม่เจ้าโว้ย! นักร้องสาวนุ่งบิกิน...
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
คลิปไฮไลท์