หลังจากที่ได้อันดับ 4 ในศึกฟุตบอลโลก 2018 ทีมชาติอังกฤษ ดูมีอนาคตที่สดใสไม่น้อยกับขุมกำลังนักเตะพลังหนุ่ม และด้วยการที่ทัพ "สิงโตคำราม" มีโปรแกรมลงเตะกับ สเปน (เกม ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เอ) และ สวิตเซอร์แลนด์ (เกมอุ่นเครื่อง) ในวันที่ 8 และ 11 กันยายนนี้ ถือว่าน่าจับตามองไม่น้อยทีเดียวว่า กุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต จะเปิดทางให้นักเตะดาวรุ่งคนไหนก้าวขึ้นมาติดทีมเป็นครั้งแรกบ้าง และนี่คือ 5 แข้งอนาคตไกลสัญชาติผู้ดีที่ เซาธ์เกต อาจมอบโอกาสนั้นให้

- ไรอัน แซสเซอญง (ปีก ฟูแล่ม, อายุ 18 ปี)

แซสเซอญง ถือเป็นแข้งดาวรุ่งระดับท็อปของอังกฤษ และอาจจะในยุโรปด้วยซ้ำ หลังจากที่ช่วย ฟูแล่ม เลื่อนชั้นขึ้นมาวาดลวดลายในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ โดยฤดูกาลที่แล้วเจ้าตัวกระทุ้งไปถึง 16 ประตู จากการลงเล่นรวมทุกรายการ 52 นัด จนไม่แปลกใจที่เจ้าตัวเหมาทั้งรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีและดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ

ด้วยการที่สามารถลงไปเล่นเป็นแบ็กซ้ายได้ด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งออปชั่นเด่นของ แซสเซอญง ที่น่าจะสร้างความสนใจให้กับ เซาธ์เกต ไม่น้อย แต่หากต้องการเค้นศักยภาพที่แท้จริงของ ดาวเตะวัย 18 ปี รายนี้ออกมาให้หมด ปีกซ้าย คือตำแหน่งที่ใช่ที่สุดแล้ว

- จาดอน ซานโช (ปีก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ , อายุ 18 ปี)

ซานโช ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปร่วมก๊วน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในเวที บุนเดสลีกา เยอรมัน เมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว ด้วยค่าตัวราว 8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 360 ล้านบาท) พร้อมกับได้สวมเสื้อเบอร์ 7 ซึ่งช่วงแรกถือว่าโชคร้ายไม่น้อยสำหรับเจ้าตัว เพราะเจอปัญหาบาดเจ็บเล่นงาน แต่เจ้าตัวก็กลับมาได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2017/18 และได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง

บางที ซานโช อาจจะเป็นนักเตะในสไตล์ที่ อังกฤษ ยังไม่มี ณ เวลานี้ เพราะทีมที่ลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ก็มี ราฮีม สเตอร์ลิง เพียงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นปีกโดยธรรมชาติ ดังนั้น ดาวเตะจากค่าย "เสือเหลือง" รายนี้น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับ เซาธ์เกต และอาจจะเป็นนักเตะที่ค้าแข้งนอกอังกฤษคนแรกที่ถูกเรียกติดทีม นับตั้งแต่ โจ ฮาร์ท สมัยเฝ้าเสาให้ โตริโน่ ในฤดูกาล 2016/17

  - ฟิล โฟเด้น (มิดฟิลด์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, อายุ 18 ปี)

ถือเป็นดาวรุ่งที่พุ่งขึ้นมาท่ามกลางบรรดาแข้งระดับซูเปอร์สตาร์ในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ถึงแม้ โฟเด้น ยังมีชั่วโมงบินไม่มากในเกม พรีเมียร์ลีก แต่กุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เชื่อมั่นในฝีเท้าของเด็กคนนี้ไม่น้อย และหวังที่จะใช้เป็นกำลังเสริมแบบยาวๆ ตลอดทั้งฤดูกาลนี้

หลายๆ คนมองว่า อังกฤษ ยังมีจุดอ่อนในแดนกลาง โดยเฉพาะในเรื่องความคล่องตัว ซึ่งจุดนี้ โฟเด้น มีให้ได้ ส่วนดีกรีของเด็กคนนี้ก็ไม่ธรรมดา เพราะเขาคือกัปตันทีมชาติอังกฤษ ชุดคว้าแชมป์โลก ยู-17 เมื่อปีที่แล้ว แถมยังได้รับเลือกให้คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์อีกด้วย

- เจมส์ แมดดิสัน (มิดฟิลด์ เลสเตอร์ ซิตี้, อายุ 21 ปี)

แมดดิสัน เพิ่งย้ายจาก นอริช ซิตี้ มาร่วมทัพ "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ด้วยค่าตัวสูงถึง 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 900 ล้านบาท) หลังจากที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นสุดๆ กับ "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" ในเวที เดอะ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

แข้งวัย 21 ปีรายนี้ถือเป็นนักตะที่น่าจับตามองอย่างมาก เพราะเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกที่มีความสามารถสูง โดดเด่นทั้งเรื่องแอสซิสต์และทำประตู ซึ่งถือเป็นจุดที่ทีมชาติอังกฤษชุดปัจจุบันยังไม่ค่อยมี หลังจากที่พวกเขาเล่นแบบขาดความคิดสร้างสรรค์อย่างชัดเจนในเกมรอบรองฯ ที่พบกับ โครเอเชีย และนั่นทำให้ เซาธ์เกต อาจจะให้โอกาส แมดดิสัน มาช่วยแก้ไขจุดอ่อนตรงนี้ เพื่อเตรียมตัวไว้สู้ศึก ยูโร 2020

- เบน ชิลเวลล์ (แบ็กซ้าย เลสเตอร์ ซิตี้, อายุ 21 ปี)

ในลิสต์นี้ไม่มีนักเตะคนไหนมีประสบการณ์ในเกม พรีเมียร์ลีก มากกว่า ชิลเวลล์ โดยตลอดสองฤดูกาลที่ผ่านมา เจ้าตัวได้รับโอกาสเป็นตัวจริงบ้างสำรองบ้าง โดยเฉพาะการเป็นตัวแบ็กอัพให้กับ คริสเตียน ฟุคส์ แบ็กซ้ายจอมเก๋าชาวออสเตรีย

อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลนี้ ชิลเวลล์ กลับกลายเป็นขาประจำในทีมตัวจริงของ เลสเตอร์ เพราะ ฟุคส์ ยืนยันแล้วว่า นี่คือฤดูกาลสุดท้ายของเขาในถิ่น คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม จึงไม่แปลกใจที่ ชิลเวลล์ ถูกปั้นให้ขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีม ซึ่งนั่นส่งผลดีกับทีมชาติอังกฤษด้วย นอกจากนี้ ชิลเวลล์ ก็เคยมีประสบการณ์ในการเล่นเป็นวิงแบ็กเช่นกัน ดังนั้นเจ้าตัวจึงอาจจะเป็นนักเตะที่ เซาธ์เกต หมายตาเอาไว้ หากต้องการยึดแผนการเล่นที่ใช้วิงแบ็กสองข้างเป็นหลัก