ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » วิเคราะห์ 4 ทีมพรีเมียร์ลีกกับรอบแบ่งกลุ่ม ชปล.

วิเคราะห์ 4 ทีมพรีเมียร์ลีกกับรอบแบ่งกลุ่ม ชปล.

Posted 31/08/2018 by siamsport

หลังจากที่หลายคนเฝ้ารอดูกันอย่างใจจดใจจ่อ ในที่สุดมันก็มีการจับฉลากรอบแบ่งกลุ่มของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2018-19 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งมันก็มีบางกลุ่มที่โหด และบางกลุ่มที่ไม่แข็งมากนัก
    ทั้งนี้ ด้วยความที่หลายคนให้ความสนใจทีมจาก พรีเมียร์ลีก กันอย่างมาก วันนี้เราจึงจะมาวิเคราะห์กลุ่มของแต่ละทีมกันว่าทั้ง 4 ทีมจะเจองานยากลำบากมากแค่ไหน

    - ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (กลุ่ม บี ร่วมกับ บาร์เซโลน่า, พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น และ อินเตอร์ มิลาน)

   ฤดูกาลก่อน สเปอร์ส สร้างผลงานชิ้นเอกจากการที่ไม่แพ้ใครเลยในรอบแบ่งกลุ่ม แถมยังชนะ เรอัล มาดริด 3-1 ได้ด้วย ก่อนที่สุดท้ายจะตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยฝีมือของ ยูเวนตุส ซึ่งแฟนบอลหลายคนของพวกเขาก็คาดหวังว่าทีมจะไปได้ไกลขึ้นในฤดูกาลนี้

    อย่างไรก็ตาม ต้องถือว่ากลุ่มของ สเปอร์ส หินพอตัว แน่นอนว่า บาร์เซโลน่า คือคู่แข่งที่หินที่สุดของกลุ่มนี้ และพวกเขาก็อาจจะไม่มีแต้มติดมือเลยจากการเล่นกับ "อาซูลกราน่า" ทั้งสองนัดก็ได้ นั่นทำให้เกมกับ พีเอสวี และ อินเตอร์ มีความสำคัญมากๆ

    ถ้าวัดจากคุณภาพของทีมโดยรวมแล้วนั้น พีเอสวี ไม่น่าเป็นปัญหากับทีมของกุนซือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มากนัก และพวกเขาก็ควรจะเก็บให้ได้ทั้ง 6 แต้มเต็มไปเลย สิ่งที่น่าสนใจมากกว่าคือเกมกับ อินเตอร์ แน่นอนว่ามองเผินๆ แล้ว สเปอร์ส ดูมีคุณภาพดีกว่า แต่พวกเขาจะประมาทไม่ได้เป็นอันขาด เพราะทีมดังจากอิตาลีมีแนวรุกที่เฉียบขาดมากๆ โดยเฉพาะ เมาโร อีการ์ดี้ หัวหอกชาวอาร์เจนไตน์ ซึ่งถ้าเกิดเก็บได้สัก 4 แต้มในการเจอกับ อินเตอร์ แล้วนั้น พวกเขาก็น่าจะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้

    - ลิเวอร์พูล (กลุ่ม ซี ร่วมกับ นาโปลี, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ เซอร์เวน่า ซเวซด้า)


   หลังจากฤดูกาลก่อนอกหักจากการที่แพ้ เรอัล มาดริด 1-3 ในนัดชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล ก็หมายมั่นปั้นมือที่จะแก้ตัวให้ได้ และพวกเขาก็เสริมทัพได้ดีพอตัวเพื่อภารกิจนั้น อย่างไรก็ตาม พอผลการแบ่งกลุ่มออกมาแล้วก็ต้องบอกเลยว่า "เดอะ ค็อป" หลายคนเครียดพอตัว

    แน่นอนว่าเกมรุกของ ปารีสฯ เป็นที่หวาดกลัวของคู่แข่งแทบทุกทีม จากการที่พวกเขามีทั้ง เนย์มาร์, คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ และ เอดินสัน คาวานี่ คอยล่าตาข่าย ส่วนในตำแหน่งอื่นๆ ก็มีคนที่เก่งๆ หลายคน อย่างเช่น จานลุยจิ บุฟฟ่อน มือกาวชาวอิตาเลียน และ มาร์โก แวร์รัตติ กองกลางฝีเท้าดี เป็นต้น แต่มันก็ไม่ใช่ว่พวกเขาจะไร้เทียมทาน เพราะการเปลี่ยนกุนซือมาเป็น โธมัส ทูเคิ่ล มันอาจจะทำให้รูปเกมของ "เปแอสเช" ต้องใช้เวลาพอตัวกว่าที่จะมีความมั่นคง และโปรแกรมมันก็เข้าทาง ลิเวอร์พูล พอตัว เพราะพวกเขาจะเจอกับ ปารีสฯ ตั้งแต่นัดแรกในวันที่ 18 กันยายนนี้เลย ซึ่งตอนนั้นทีมของ ทูเคิ่ล อาจจะยังจูนเครื่องกันไม่ติดเท่าไหร่

    ขณะที่ นาโปลี นั้น ถึงแม้จะทำผลงานได้ดีมากๆ เมื่อซีซั่นก่อน จนถึงขนาดเกือบได้แชมป์ลีก แต่การเสียทั้ง จอร์จินโญ่ กองกลางฝีเท้าดี และ เมาริซิโอ ซาร์รี่ เทรนเนอร์คนเก่งไปให้ เชลซี มันก็ทำให้พวกเขาต้องใช้เวลาปรับทีมกันพอตัว ถึงกระนั้น "หงส์แดง" ก็จะตายใจไม่ได้ เพราะกุนซืออย่าง คาร์โล อันเชล็อตติ มีดีอยู่แล้ว ส่วนนักเตะคนอื่นๆ ของ นาโปลี ก็ฝีเท้าดีเหมือนกัน

    สำหรับรายของ เซอร์เวน่า ซเวซด้า หรือที่คนอังกฤษเรียกกันว่า เร้ด สตาร์ เบลเกรด จนติดหูไปแล้วนั้น น่าจะเป็นเพียงทีมแจกแต้มของกลุ่ม และไม่น่าจะเป็นปัญหาของ ลิเวอร์พูล ด้วย

    - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (กลุ่ม เอฟ ร่วมกับ โอลิมปิก ลียง, ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค และ ฮอฟเฟ่นไฮม์)


   นับเป็นทีมจากอังกฤษที่ได้อยู่ในกลุ่มที่สบายที่สุด และจะบอกว่าเป็นทีมจากโถ 1 ที่ได้อยู่ในกลุ่มเบาที่สุดก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะเทียบจากชื่อชั้น, ขุมกำลัง, ตัวกุนซือ หรือความสำเร็จแล้วนั้น แมนฯ ซิตี้ ก็เหนือกว่าเพื่อนร่วมกลุ่มอีก 3 ทีมบานเบอะ

    ถ้ามองจากตอนนี้นั้น ทีมที่อาจจะสร้างปัญหาให้ "เรือใบสีฟ้า" ได้มากที่สุดคงจะเป็น ชัคตาร์ หลังจากซีซั่นก่อนทีมจากยูเครนก็เคยยัดเยียดความปราชัยให้ แมนฯ ซิตี้ ไปแล้ว แต่เกมนั้นมันก็ไม่ได้มีความหมายกับทีมของกุนซือ โจเซป กวาร์ดิโอล่า อยู่แล้ว จากการที่พวกเขาเข้ารอบไปเรียบร้อย

    - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (กลุ่ม เอช ร่วมกับ ยูเวนตุส, บาเลนเซีย และ ยัง บอยส์)


   ด้วยสถานการณ์ความวุ่นวายภายในทีมในตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ดูมีโอกาสแพ้ได้ทุกทีมอยู่แล้ว และผลการจับฉลากของศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก มันก็ออกมาแบบไม่เป็นใจกับพวกเขาเท่าไหร่นัก

    แน่นอน ยูเวนตุส จะเป็นทีมที่หินที่สุดที่ขุนพล "ปีศาจแดง" ต้องรับมือในกลุ่มนี้ เพราะเดิมที "เบียงโคเนรี่" ก็มีศักยภาพที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว แถมฤดูกาลนี้พวกเขายังได้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาร่วมทีมอีก ซึ่งถ้าเกิด แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเรียกฟอร์มเก่งกลับมาไม่ได้แล้วล่ะก็ พวกเขาก็ถึงขั้นมีโอกาสที่จะไม่ได้แต้มติดมือจาก 2 นัดที่เจอกับ ยูเวนตุสด้วย

    สำหรับ บาเลนเซีย นั้น ดูเป็นคู่แข่งที่เบากว่า ยูเวนตุส พอประมาณ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทีมของกุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ จะเคี้ยวได้ง่ายๆ การที่ "ไอ้ค้างคาว" ได้ที่ 4 ในลีกเมื่อซีซั่นก่อนถือเป็นเครื่องการันตีคุณภาพของพวกเขาได้ในระดับหนึ่ง ส่วนรายของ ยัง บอยส์ ถือเป็นทีมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องคว้า 6 แต้มเต็มให้ได้สถานเดียว ถ้าหากพวกเขาไม่อยากจอดป้ายตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • มีอนาคต!ลิเวอร์พูลจับเคลเลเฮอร์เซ็นสัญญาใหม่
    ควีวีน เคลเลเฮอร์ นายทวารดาวโรจน์ ลิเวอร์พูล จัดการเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับต้นสังกัดเรียบร้อย พร้อมระบุเป็นการตัดสินใจที่ง่ายมาก ยันจะพยายามทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างหนัก
  • 4นักเตะลิเวอร์พูลที่คล็อปป์เปลี่ยนตำแหน่งจนได้ดี
    ลิเวอร์พูล มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งครั้งใหญ่ภายใต้การกุมบังเหียนของ เจอร์เก้น คล็อปป์ แต่ก่อนที่จะถึงช่วงซัมเมอร์นี้ เขาไม่ได้ลงทุนมากนักในการเสริมทัพ โดยตอนนั้น กุนซือชาวเยอรมัน พาทีมเข้ารอบชิงฟุตบอลถ้วย 2 รายการกับซีซั่นเปิดตัวของเขาทั้งๆ ที่ขุมกำลังก็ไม่ได้ดีมากนัก
  • จบยาก!ส.บอลอียิปต์สวนซาลาห์ไม่มีใครใหญ่กว่าทีม
    สมาคมฟุตบอลอียิปต์ออกมาตอบโต้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ว่าเขาไม่ได้ใหญ่ไปกว่าทีมหรือกว่าเกมฟุตบอล พร้อมระบุ เจ้าตัวไม่ควรได้รับการปฏิบัติพิเศษไปกว่านักเตะคนอื่นๆ ในทีมชาติอียิปต์
  • มาเน่มั่นใจลิเวอร์พูลไปโลดแน่นอนในชปล.ซีซั่นนี้
    ซาดิโอ มาเน่ หัวหอกตัวเก่ง ลิเวอร์พูล มั่นใจต้นสังกัดสามารถทำผลงานได้ดีอีกครั้งในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ หลังทะลุถึงรอบชิงเมื่อฤดูกาลที่แล้ว บอก "หงส์แดง" ได้เรียนรู้อะไรมากมาย และมีคุณภาพพอที่จะประสบความสำเร็จในรายกานี้

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »