แชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าสามแต้มเหนือ นิวคาสเซิ่ล ได้แบบหวุดหวิด 2-1 จากประตูชัยของ ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่ตะบันไกลสุดเฉียบพาทีมไม่แพ้ทีมใดรั้งอันดับ 3 มี 10 คะแนน ไล่ตาม ลิเวอร์พูล จ่าฝูงและเชลซีที่มีแต้มเท่ากันแค่ 2 คะแนน ขณะที่ "สาลิกาดง" ฟอร์มสุดแย่ไม่ชนะทีมใดมีแต้มเดียวจมอยู่ท้ายตาราง เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 1 กันยายน 2561
แมนฯ ซิตี้  2 -  นิวคาสเซิ่ล 1

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พาทีมคว้าชัย 2 นัด และล่าสุดสะดุดเสมอกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-1 เมื่อสัปดาห์ก่อน เกมนี้แนวรุกวาง เซร์คิโอ อเกวโร่ จับคู่แดนหน้ากับ กาเบรียล เชซุส ส่วนแดนกลางอัด ริยาด มาห์เรซ, แฟร์นันดินโญ่, ดาบิด ซิลบา และราฮีม
สเตอร์ลิง

ส่วนทางฝั่ง นิวคาสเซิ่ล 3 นัดล่าสุดไม่ชนะทีมใดเลย เกมนี้ ราฟาเอล เบนิเตซ อัดแนวรับ 5 คน จามาล ลาสเซลล์ส กัปตันทีมกลับมาบัญชาเกมรับร่วมกับ เคียแรน คล้าร์ก และเฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ ส่วนหน้าเป้าทิ้ง ซาโลมอน รอนดอน

เพียง 4 นาทีแรก เจ้าถิ่นได้ลุ้นขึ้นนำก่อนเลย แฟร์นันดินโญ่ แทงบอลออกขวาถึง มาร์เรซ โยกตัดเข้ากลางในกรอบก่อนสับด้วยซ้ายบอลเลียดเฉียดเสาแรกออกไป

ทว่านาทีที่ 8 แชมป์เก่าได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ทันที ลาสเซลล์ส แนวรับสาลิกาจ่ายบอลพลาด เมนดี้ ตัดบอลได้แล้วจ่ายต่อให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ทางด้านซ้ายลากตัดเข้ากรอบก่อนตะบันด้วยขวาบอลพุ่งเสาสองหนีมือ ดูบรฟก้า เข้าไปอย่างเด็ดขาด เป็น
ประตูที่สองในพรีเมียร์ลีกของปีกสิงโตคำราม

นาที 16 "กุน" อเกวโร่ ได้โอกาสยิงนอกกรอบบ้างแต่บอลพุ่งหลุดเสาออกไปไกล อีกสองนาทีต่อมา "เรือใบ" น่าจะได้ประตูนำห่างอีกเม็ด หลัง อเกวโร่ จ่ายให้ กาเบรียล เชซุส หลุดเข้าไปก่อนล็อกบอลหนีแนวรับสาลิกาแล้วอัดด้วยซ้าย แต่บอลเบา
ไปเข้ามือนายด่านทีมเยือน

เกมผ่านไปครึ่งชั่วโมง นาที 30 กลายเป็น "สาลิกา" ที่มีจังหวะเข้าทำหนแรกแล้วเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ทันที จากการต่อบอลอันยอดเยี่ยม อโยเซ่ เปเรซ วางบอลถึง เคเนดี้ พักบอลแล้วแทงออกซ้ายให้ รอนดอน ดึงจังหวะแล้วจ่ายเลียดลอดขา
สโตนส์ ไปเสาสองถึง เดอันเดร เยดลิน ที่เติมขึ้นมายิงโล่งๆเข้าไป

จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังเสมอกับ นิวคาสเซิ่ล 1-1

เปิดฉากมาครึ่งหลัง นาที 52 แมนฯซิตี้ พังประตูขึ้นนำ 2-1 อีกรอบ จากจังหวะที่ อเกวโร่ จ่ายบอลออกขวาให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ แบ็กขวาเติมขึ้นมาก่อนตะบันซัดกว่า 25 หลา บอลพุ่งเป็นจรวดเสียบมุมอย่างสวยงาม

นาที 57 กุน อเกวโร่ ตีลังกาไปเสาสองในกรอบ 6 หลาให้ กาเบรียล เชซุส ส่งบอลเข้าก้นตาข่าย แต่ไลน์แมนยกธงว่าเป็นลูกล้ำหน้าไปแล้ว ไม่ได้ประตู และก็เป็นชอตสุดท้ายก่อนที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะเปลี่ยนเอา แบร์นาโด้ ซิลวา ลงไปเล่นแทน

นาที 64 ดูบราฟก้า นายด่านของสาลิกาต้องออกแรงเหนื่อยช่วยทีม หลังเซฟลูกยิงจะๆของ แฟร์นันดินโญ่ ก่อนบอลจะมาเข้าทางของ ซิลบา สองหนติดๆ แต่มือกาวชาวสโลวักก็ยังช่วยป้องกันไว้ได้

"สาลิกาดง" นานได้บุกทีและมีความเสียวให้เห็น นาที 84 ยาค็อบ เมอร์ฟี่ย์ ครอสบอลทางซ้ายมาบอลจะถึง โฆเซลู ที่รอเสาแรกอยู่แล้วแต่ จอห์น สโตน ยังมาตัดบอลได้แบบหวุดหวิด

นาที 88 อีกครั้งที่ นิวคาสเซิ่ล ได้ลุ้นตีเสมอคราวนี้แนวรับเจ้าถิ่นสกัดบอลกันไม่ขาด บอลมาถึง โฆเซลู ได้หวดในกรอบแต่บอลเบาไปเข้ามือ อันแดรซอน

ช่วงเวลาที่เหลือ ไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เบียดคว้าชัยเหนือ นิวคาสเซิ่ล 2-1 เก็บสามคะแนนมีเพิ่มเป็น 10 คะแนน รั้งอันดับ 3 ตามหลัง ลิเวอร์พูล จ่าฝูงและเชลซีที่มีแต้มเท่ากันแค่ 2 คะแนน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แมนฯซิตี้ (4-4-2) : อันแดรซอน โมราเอส - ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์, เบนฌาแม็ง เมนดี้ - ริยาด มาห์เรซ (อิลคาย กุนโดกัน น.76), แฟร์นันดินโญ่, ดาบิด ซิลบา (แว็งซ็องต์ ก็อมปานี น.89), ราฮีม สเตอร์ลิง - เซร์คิโอ อเกวโร่, กาเบรียล เชซุส (แบร์นาร์โด้ ซิลวา น.58)

ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

นิวคาสเซิ่ล (5-4-1) : มาร์ติน ดูบราฟก้า - เดอันเดร เยดลิน, จามาล ลาสเซลล์ส (กัปตันทีม), เฟเดรีโก้ เฟร์นานเดซ, เคียแรน คล้าร์ก (ยาค็อบ เมอร์ฟี่ น.81), พอล ดัมเม็ตต์ - เคเนดี้ (คริสเตียน อัตซู น.54), คี ซุง-ยอง, โมฮาเหม็ด ดิยาเม่, อโยเซ่ เปเรซ - ซาโลมอน รอนดอน (โฆเซลู น.73) 

ผู้จัดการทีม : ราฟาเอล เบนิเตซ
ผู้ตัดสิน : เควิน เฟรนด์