เปิดทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก วีค 5 - แข้งแมนยูคืนฟอร์มพาเหรดติดโผ
Posted 18/09/2018 by siamsport
เหล่าแข้งผีแดง มีชื่อติดอยู่ในทีมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ถึง 3 คน ขณะที่ลิเวอร์พูลตามมาติดๆหลังชนะสเปอร์สที่เวมบลี่ย์ ส่วนแข้งคนอื่นๆจะมีใครกันบ้างไปติดตามกันได้เลย
ผู้รักษาประตู - ดาบิด เด เคอา (แมนฯยูไนเต็ด)
บินปัดลูกโขกของคริสเตียน คาบาเซเล่ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ และเป็นลูกสำคัญที่ช่วยให้แมนฯยูไนเต็ดรักษาสกอร์ที่นำอยู่จนสุดท้ายเก็บสามแต้มอันล้ำค่าได้สำเร็จ
กองหลัง - คริส สมอลลิ่ง (แมนฯยูไนเต็ด)
ตั้งแต่พ่ายสเปอร์สคาถิ่น โชเซ่ มูรินโญ่ ก็พยายามแก้ไขแนวรับ โดยคริส สมอลลิ่ง ที่มาพร้อมกับทรงผมใหม่ ก็ก้าวขึ้นมาเป็นตัวจริงและยิงประตูได้ โดยสถิติที่น่าทึ่งคือ เมื่อใดที่เขายิงประตูได้ในลีก ปีศาจแดงจะจบลงด้วยชัยชนะทุกนัดซึ่งเกมนี้ เป็นเกมที่ 11 เข้าให้แล้ว
กองหลัง - เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ (ลิเวอร์พูล)
แฮร์รี่ เคน ต้องยอมสยบเมื่อต้องเจอกับแนวรับดัตช์รายนี้ โดยสถิติจากเกมนี้บอกว่า ไม่มีผู้เล่นคนไหนที่เวมบลี่ย์ เคลียร์บอลได้มากกว่าเขา คือจำนวน 5 ครั้ง
กองหลัง - แอรอน วาน-บิสซาก้า (คริสตัล พาเลซ)
การได้โอกาสจะรอย ฮ็อดจ์สัน ทำให้ ดาวรุ่งรายนี้ค่อยๆเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และเกมนี้ เขาก็โดดเด่นเอามากๆจนต้องติดทีมยอดเยี่ยมของเรา
กองกลาง - ไรอัน เฟรเซอร์ (บอร์นมัธ)
ผลงาน 2 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ และช่วยให้เดอะ เชอร์รี่ส์ เปิดบ้านถลุงเลสเตอร์ไป 4-2 เหมาะสมแล้วที่เขาจะติดทีม
กองกลาง - มารูยาน เฟลไลนี่ (แมนฯยูไนเต็ด)
มูรินโญ่ เลือกส่งเขาเป็นตัวจริงเพื่อจัดการลูกโด่งของวัตฟอร์ด โดยเขาเอาชนะลูกกลางอากาศได้ถึง 7 จาก 9 ครั้ง นอกจากนี้ยังเข้าปะทะบอลได้มากสุดในทีมร่วมกับอันโตนิโอ วาเลนเซีย ที่ 3 ครั้ง
กองกลาง - เอแด็น อาซาร์ (เชลซี)
ไม่ต้องบรรยายอะไรมาก กับแฮตทริคเดียวของพรีเมียร์ลีก สัปดาห์นี้ อาซาร์ ยิ่งเล่นยิ่งโดดเด่น โดยสามลูกที่เขายิงได้นั้นมาจากการยิงเข้ากรอบเพียง 3 ครั้งเท่านั้น
กองกลาง - อันเดร ยาร์โมเลนโก้ (เวสต์แฮม)
ทำสองประตูพาขุนค้อนคว้าชัยเกมแรกในปีนี้ได้ และสร้างสถิติเป็นแข้งยูเครนคนที่ 4 ที่ยิงได้ในพรีเมียร์ลีก แถมยังเป็นคนแรกในรอบ 10 ปี ที่ทำได้เพราะคนสุดท้ายคือ อันเดร โวโรนิน
กองหน้า - มาร์โก อาร์เนาโตวิช (เวสต์แฮม)
คู่หูของยาร์โมเลนโก้ รายนี้ เปรียบดั่งศิลปินที่บรรเลงเสกเกมรุกให้เวสต์แฮม ซึ่งนับตั้งแต่เริ่มปี 2018 มีเพียงโมฮาเหม็ด ซาลาห์(23) เท่านั้นที่มีส่วนร่วมกับประตูมากกว่าเขาเท่านั้น โดยอาร์เนาโตวิช ทำได้ 16 ลูกแบ่งเป็น 9 ประตู และ 7แอสซิสต์
กองหน้า - โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (ลิเวอร์พูล)
แม้ประตูที่ทำได้จะไม่ใช่ประตูที่สวยงามอะไร แต่อิทธิพลต่อเกมรุกหงส์แดง นับว่าฟีร์มีโน่ คือผู้อยู่เบื้องหลังอย่างแท้จริง ประจากประตูในเกมนี้ ทำให้เขามีส่วนร่วมกับประตูในลีกของลิเวอร์พูลในยุคเจอร์เก้น คล็อปป์ ไปแล้ว 61 ลูกแบ่งเป็น 38 ประตู และ 23 แอสซิสต์
กองหน้า - วิลฟรีด ซาฮา (คริสตัล พาเลซ)
นี่คือทุกสิ่งทุกอย่างของพาเลซจริงๆ สถิติบอกว่ายามใดที่ทีมมีซาฮา อยู่ในสนาม จะมีแต้มเฉลี่ย 1.5 แต้มต่อเกม ขณะที่สถิติที่ไม่มีเขาอยู่ในสนาม ดิ อีเกิ้ลส์ กลับไม่สามารถคว้าชัยชนะได้เลย (10 นัด)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
มีแววอำลา!สัญญาไม่คืบแมนซิตี้ไม่พร้อมจ่ายค่าเหนื่อยราฮีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตกเป็นข่าวมาถึงทางตันในการเจรจาสัญญาใหม่ ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกตัวเก่งของทีม หลังนักเตะเรียกร้องค่าเหนื่อยจำนวนมหาศาล แต่สโมสรไม่พร้อมที่จะจ่ายให้ขนาดนั้นเลิกหวังได้เลย!ริโอชี้สาเหตุแมนยูไม่มีทางคว้าถ้วยชปล.ซีซั่นนี้
ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตปราการหลังคนดัง ประกาศชัด แมนฯ ยูไนเต็ด เลิกหวังเกี่ยวกับการได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นนี้ได้เลย เพราะเกมรับของพวกเขามีสภาพแย่สุดๆ ชี้ สาเหตุที่หลายฤดูกาลก่อนหน้านี้ "ปีศาจแดง" เสียประตูน้อยเป็นเพราะ ดาบิด เด เคอา โชว์ฟอร์มเซฟได้ยอดเยี่ยมคล็อปป์เผยวิธีเตรียมรับมือเนย์มาร์ เกมชปล.
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ระบุเอง ในเกมที่เจอกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง นั้น ทีมของตนจะไม่ใช้แผนไล่ทำร้ายร่างกาย เนย์มาร์ หัวหอก "เปแอสเช" แน่นอน พร้อมยกย่อง เนย์มาร์ ว่าเป็นแข้งที่เก่งสุดๆบิ๊กแมตช์!ลิเวอร์พูลฟัดเปแอสเช, 'ซาลาห์' ดวลคม 'เนย์มาร์' ศึก ชปล.
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล จ่าฝูงลีกผู้ดี เตรียมเปิดบ้านรับแข้ง "เปแอสเช" ปารีส แซงต์-แชร์กแมง จ่าฝูงลีกเมืองน้ำหอม เกมนี้อาจเป็นการดวลความคมในการปิดสกอร์ของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ เนย์มาร์ ก็เป็นได้ ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2018/19 (รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ซี) คืนวันอังคารที่ 18 ก.ย., เวลา : 02.00 น.
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์