"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล พลาดท่าปราชัยเป็นครั้งแรกของฤดูกาลเรียบร้อย จากการพลิกพ่าย เชลซี คา แอนฟิลด์ 1-2 พร้อมกระเด็นตกรอบสามในศึก คาราบาว คัพ เมื่อคืนวันพุธที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็มีโอกาสได้แก้แค้นทันที เพราะจะต้องดวลกับ "สิงห์บลูส์" อีกครั้งในเกม พรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 29 กันยายนนี้ แต่ครั้งนี้ต้องไปเยือน สแตมฟอร์ด บริดจ์
    ต้องยอมรับว่า เกมการเล่นของ เชลซี ในยุค เมาริซิโอ ซาร์รี่ น่ากลัวมาก แถมยังสามารถเค้นศักยภาพของดาวเด่นประจำทีมอย่าง เอแด็น อาซาร์ และ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ออกมาได้อย่างเต็มที่อีกด้วย แม้จะเป็นภารกิจสุดหินของ "หงส์แดง" แต่ก็ถือเป็นบททดสอบที่พวกเขาต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ หากคิดจะก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก และนี่คือ 11 ตัวจริงจากการคาดการณ์ (ระบบ 4-3-3) หลังจากที่ชุดผสมทำได้ไม่ดีพอในช่วงกลางสัปดาห์

    - อลิสซง (ผู้รักษาประตู)

         ถึงแม้นายประตูสำรองอย่าง ซิมง มิโญเล่ต์ ทำผลงานดีใช้ได้ในเกมเมื่อวันพุธ แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า อลิสซง จะได้กลับมาเฝ้าเสาเป็นตัวจริงในวันเสาร์นี้ และจะเป็นอีกเกมที่น่าจะทดสอบคุณภาพของ นายทวารทีมชาติบราซิล ได้เป็นอย่างดี

    - เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลต์ (แบ็กขวา)

        เป็นอีกคนที่จะได้คืนทีมตัวจริงแบบไร้ข้อโต้แย้ง เพราะนอกจากเกมรับที่ดีแล้ว การเติมเกมรุกและลูกเซตพีซของเขาถือเป็นสิ่งที่จำเป็นไม่น้อย

    - โฌแอล มาติป (เซนเตอร์แบ็ก)

        ถ้าหาก เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ฟิตไม่ทัน มาติป คือตัวเลือกที่ดีที่สุดในการลงเล่นแทน หลังจากที่มีการพัฒนาที่ดีในเรื่องของเกมอ่านเกมและการยืนตำแหน่ง

    - โจ โกเมซ (เซนเตอร์แบ็ก)

        มีฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อในช่วงต้นฤดูกาลนี้ และไม่ต้องสงสัยเลยว่า โกเมซ จะได้สตาร์ตเป็นตัวจริงในเกมวันเสาร์

    - แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (แบ็กซ้าย)

        นี่ก็แทบไม่ต้องคิดอีกคน โรเบิร์ตสัน จะได้ลงตัวจริงแน่นอน เพราะการเล่นเกมรับที่ยอดเยี่ยม บวกกับการครอสบอลเข้ากลางที่แม่นยำของเขาถือเป็นทีเด็ดของทีม หลังจากที่ปล่อยให้ อัลเบร์โต้ โมเรโน่ ลงสนามและกลายเป็นจุดอ่อนของทีมเมื่อคืนวันพุธ

    - นาบี เกอิต้า (มิดฟิลด์ตัวกลางฝั่งซ้าย)

        เกอิต้า เล่นใช้ได้และเกือบทำประตูได้ด้วยในเกมเมื่อวันพุธ เขามีจุดเด่นอยู่ที่การเชื่อมเกมระหว่างรับและรุก ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการเจอกับ เชลซี ดังนั้นเขาจึงน่าจะเป็นตัวเลือกแรก เหนือ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

    -  จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม (มิดฟิลด์ตัวกลาง)

        โชว์ฟอร์มดีมากในฤดูกาลนี้ มีอิทธิพลสูงในแดนกลางของ "หงส์แดง" ดังนั้น ไวจ์นัลดุม จึงสมควรที่จะได้คืนสนามเป็นตัวจริงในเกมวันเสาร์นี้ หลังได้พักเต็มๆ ในเกม คาราบาว คัพ  

    - เจมส์ มิลเนอร์ (มิดฟิลด์ตัวกลางฝั่งขวา)

        ความขยันและความทุ่มเทของ มิลเนอร์ จำเป็นอย่างมากในการสู้กับแดนกลางของ เชลซี แม้ทำได้ไม่ค่อยดีนักในเกมเมื่อวันพุธ แต่เขาจะได้สตาร์ตเป็นตัวจริงแน่นอน

    - โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ปีกขวา)

        แม้ฟอร์มการเล่นโดยรวมยังไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับฤดูกาลที่แล้ว แต่ความเร็วและความกระหายในการเข้าทำประตูของ ซาลาห์ เป็นสิ่งที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่มองข้ามแน่นอน

    - ซาดิโอ มาเน่ (ปีกซ้าย)

        ระยะหลังทำประตูไม่ค่อยได้ แถมใช้โอกาสเปลือง แต่ก็เหมือนกับ ซาลาห์ นั่นแหละ มาเน่ เป็นผู้เล่นที่ขาดไม่ได้ในแนวรุกของ ลิเวอร์พูล คล็อปป์ คงไม่ดร็อปเป็นตัวสำรองแน่

    - โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (กองหน้าตัวเป้า)

        ออกสตาร์ตฤดูกาลนี้แบบฝืดๆ แต่เพื่อความเข้าขากับ มาเน่ และ ซาลาห์ เขาทำได้ดีกว่า แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ แน่นอน ดังนั้น ฟีร์มีโน่ น่าจะเป็นคนที่ได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริง แม้ สเตอร์ริดจ์ มีสกอร์ในเกมเมื่อวันพุธก็ตาม