ไม่รู้ว่าเป็นเกมชี้ชะตากุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ มากน้อยแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จำเป็นต้องเอาชนะ บาเลนเซีย อย่างมีสไตล์ให้ได้ สำหรับเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช นัดสอง ณ สังเวียนแข้ง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด วันอังคารที่ 2 ตุลาคมนี้ เพื่อเรียกศรัทธากลับมาจากแฟนบอลบ้าง หลังพ่าย เวสต์แฮม ยูไนเต็ด หมดสภาพ 1-3 ในเกมลีกนัดล่าสุด แถมยังโดน ดาร์บี้ เขี่ยตกรอบสามในถ้วย คาราบาว คัพ มาก่อนหน้านี้

    อย่างไรก็ตาม คงเป็นอีกหนึ่งเกมหินของ "ปีศาจแดง" เช่นกัน ถึงแม้ "ไอ้ค้างคาว" เพิ่งเก็บชัยชนะในลีกได้เป็นครั้งแรกของฤดูกาลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (บุกเชือด เรอัล โซเซียดาด 1-0) และก่อนที่เราจะไปลุ้นกัน มาดูปรีวิวสำหรับเกมนี้กันก่อนดีกว่า

    สถิติน่าสนใจ

    - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้แค่หนเดียวเท่านั้นในการดวลกับ บาเลนเซีย 8 ครั้งที่ผ่านมา (รวมทุกถ้วย โดยชนะ 2, เสมอ 5) และหากนับเฉพาะการเจอกันในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก 6 ครั้ง "ปีศาจแดง" ไม่เคยแพ้ บาเลนเซีย เลย (ชนะ 2, เสมอ 4) โดยการเจอกันครั้งล่าสุดในถ้วยนี้เกิดขึ้นที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ช่วงเดือนธันวาคม ปี 2010 ซึ่งจบลงด้วยการเจ๊า 1-1

-  หากนับเฉพาะในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก บาเลนเซีย ถือเป็นคู่แข่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เจอมากที่สุดโดยที่ปราศจากความพ่ายแพ้ (6 ครั้งเท่ากับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น และ ซีเอสเคเอ มอสโก)

 - บาเลนเซีย ไม่ค่อยชอบการเยือนสโมสรอังกฤษ โดยพวกเขาเก็บชัยชนะได้แค่ครั้งเดียว จากการออกไปเยือนสโมสรเมืองผู้ดี 10 ครั้งในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งครั้งเดียวที่ชนะคือการบุกไปเชือด ลิเวอร์พูล 1-0 ที่ แอนฟิลด์ เมื่อช่วงเดือนตุลาตม ปี 2002

 - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่เคยแพ้เกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ในบ้านสองนัดติด นับตั้งแต่สมัย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คุมทีมช่วงเดือนมีนาคม ปี 2013

   - หากนับเฉพาะในรอบแบ่งกลุ่ม แชมเปี้ยนส์ ลีก แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้คารัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แค่ครั้งเดียวเท่านั้น จาก 18 เกมหลังสุด (ชนะ 12, เสมอ 5) โดยเกมที่ปราชัยคือแมตช์ที่พ่าย ซีเอฟอาร์ ครูช 0-1 ช่วงเดือนธันวาคม ปี 2012 และนับจากนั้น 9 นัด พวกเขาเก็บชัยชนะได้ถึง 8 ครั้ง

 - บาเลนเซีย แพ้รวด 4 เกมหลังสุดในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยที่ผ่านมามีสโมสรจากสเปนที่มีสถิติเลวร้ายกว่าแค่สองรายเท่านั้น คือ เรอัล โซเซียดาด 5 นัดติด และ บียาร์เรอัล 7 นัดติด

  - 17 เกมหลังสุดในรอบแบ่งกลุ่ม แชมเปี้ยนส์ ลีก ของ บาเลนเซีย มีแค่หนเดียวเท่านั้นที่จบลงด้วยการเสมอ ซึ่งเกิดขึ้นในเกมที่เจ๊า บาเยิร์น มิวนิค 1-1 เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2012

  - ปอล ป็อกบา กองกลางซุปตาร์ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำสองประตูในเกมแรกที่บุกไปถล่ม ยัง บอยส์ 3-0 ซึ่งถือเป็นจำนวนประตูเดียวกับที่เจ้าตัวทำได้จาก 37 เกมก่อนหน้านี้ในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก

 - ตัวสำคัญของทีม! ป็อกบา มีส่วนร่วมโดยตรง 4 จาก 6 ประตูหลังสุดในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ของ "ปีศาจแดง" (2 ประตู, 2 แอสซิสต์) ซึ่งก็รวมถึงทั้ง 3 ประตูในเกมกับ ยัง บอยส์ (ทำ 2 ตุง, 1 แอสซิสต์)

 เช็คสภาพทีม

    - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เกมนี้จะไม่มี แอชลีย์ ยัง, อันเดร์ เอร์เรร่า, เจสซี่ ลินการ์ด และ มาร์กอส โรโฮ เพราะมีปัญหาบาดเจ็บกันทั้งหมด 

- บาเลนเซีย : โฆเซ่ กาย่า กลับมาซ้อมได้แล้ว หลังพลาดลงเล่นในเกมเมื่อสุดสัปดาห์ แต่ ซานติ มีน่า และ เฟร์ราน ตอร์เรส ยังไม่พร้อม โดยเกมนี้คาดกันว่า เควิน กาเมโร่ กับ มิชี่ บาตชูอายี่ น่าจะได้ลงเป็นหัวหอกคู่กัน

 *** ชาร์ลี นิโคลัส ตำนานหัวหอก อาร์เซน่อล และกูรูแห่ง Sky Sports ฟันธง : เสมอ 1-1    

    "ปัญหาใหญ่ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตอนนี้คือ ไม่มีใครรู้ว่าใครคือผู้นำ โชเซ่ มูรินโญ่ พยายามเป็น แต่เขาไม่มีความน่าเชื่้อถือ ขณะที่ ปอล ป็อกบา ก็มีกลุ่มกองหนุนเป็นของตัวเอง ซึ่งคอยต่อต้านผู้จัดการทีม ถือเป็นฤดูกาลแรกของ มูรินโญ่ เลยนะ ที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร หรือจะนำทีมลงเล่นอย่างไร เขาไม่เคยสงสัยในตัวเองแบบนี้มาก่อน แม้กระทั่งตอนที่มีผลงานไม่ดีกับ เชลซี" 

"ถ้าผมเป็นเขา ผมจะดร็อป ป็อกบา, อองโตนี่ มาร์กซิยาล และ อเล็กซิส ซานเชซ พร้อมกับบอกให้พวกเขานอนเล่นอยู่ที่บ้าน แต่เขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เขาไม่มีตัวเลือกที่จะลงเล่นแทนนักเตะเหล่านี้ ดังนั้นเขาจะต้องพยายามและรับมือกับสถานการณ์นี้ให้ได้ เรื่องแย่ๆ แบบนี้มันส่งผลกระทบทุกอย่างต่อสโมสร การเจอกับ บาเลนเซีย พวกเขาจำเป็นต้องออกสตาร์ตให้ดีในการเล่นที่บ้าน เพราะแฟนๆ จะหัวเสียทันที หากผ่านไป 20 นาทีแล้วเล่นไม่ได้เรื่อง" วาทะจาก นิโคลัส