แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ทำให้แฟนบอล "สิงโตคำราม" เกิดประกายความหวังกับความสำเร็จระดับชาติ หลังนำทีมคนหนุ่มบุกชนะ สเปน 3-2 ที่ เอสตาดิโอ เบนีโต บียามาริน ในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เอ กลุ่มสี่ นัดสาม เมื่อวันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา

ต้องยอมรับว่าแมตช์นี้ทำให้หลายๆ คนต้องช็อก เพราะใครจะไปคาดคิดว่า อังกฤษ ที่เต็มไปด้วยผู้เล่นคนหนุ่ม สามารถบุกยิงนำทัพ "กระทิงดุ" 3-0 แม้ว่าบทสรุปสุดท้ายจบลงด้วยชัยชนะของ "ทรีไลอ้อนส์" ด้วยสกอร์ 3-2 ก็ตาม แต่ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับ อังกฤษ ในชุดที่ว่ากันว่าอายุน้อยที่สุดในรอบ 59 ปีของพวกเขาเลยทีเดียว

1.  เซาธ์เกต แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาทีม

อย่างไรก็ตาม เซาธ์เกต เลือกที่จะก้าวไปข้างหน้า โดยมองไปถึงอนาคต และเชื่อมั่นว่าการทำแบบนี้จะทำให้ทีมมีโอกาสประสบความสำเร็จในอีกหลายๆ ปีที่จะมาถึงนี้ นั่นหมายความว่า เซาธ์เกต กล้าที่จะเปลี่ยนจากระบบกองหลัง 3 ตัว เพื่อกลับมาเล่นระบบ 4-3-3 พร้อมกับแนวคิดที่เลือกให้ อังกฤษ มีนักเตะตัวพิเศษอยู่ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง เพื่อที่จะคอยควบคุมเกม และสร้างโอกาสให้กับ ราฮีม สเตอร์ลิง

ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับทีมตัวจริงของอังกฤษ มีนักเตะที่อายุเกิน 25 ปีเพียงคนเดียวเท่านั้นนั่นก็คือ คีแรน ทริปเปียร์  (28 ปี) ดาวเตะตัวเก่ง "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์  โดยนี่อาจจะเป็นทีมชาติอังกฤษที่อายุน้อยที่สุดในศตวรรษที่ 21 เลยก็ว่าได้

2. ราฮีม สเตอร์ลิง กลับมาระเบิดฟอร์ม

สเตอร์ลิง ยิงประตูไม่ได้เลยในช่วงระหว่างศึกฟุตบอลโลก 2018 แต่ ดาวเตะแมนเชสเตอร์ วิตี้ ยังคงได้รับโอกาสจาก เซาธ์เกต อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความเร็วของเขาไม่ว่าจะตอนที่มีบอล หรือไมมีบอล ซึ่งสามารถสร้างประโยชน์ให้กับทัพ "ทรี ไลอ้อนส์" ได้เสมอ

อดีตเด็กปั้น "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้ดีมากๆ กับการเล่นให้ยอดทีมแห่งถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม โดยในฤดูกาลนี้เขาซัดไปแล้ว 4 ประตู กับ 2 แอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีก ขณะที่เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาเจ้าตัวซัดไปเบาะๆ 18 ประตู และ 15 แอสซิสต์

สำหรับภายใต้สีเสื้อทีมชาติอังกฤษ สเตอร์ลิง ฟอร์มไม่ฮอตตั้งแต่ปี 2015 อย่างไรก็ตาม เซาธ์เกต ยังคงเชื่อมั่นในตัวของลูกทีมคนนี้เสมอ เกมที่เมืองเซบีย่านั้น ดาวเตะ "เรือใบสีฟ้า" ระเบิดฟอร์มสุดยอดออกมาเหมือนกับที่เขาทำได้ตอนเล่นให้ แมนฯ ซิตี้ แน่นอนว่าแฟนบอลอังกฤษ หวังว่า ดาวเตะวัย 23 ปี จะรักษาฟอร์มสุดยอดแบบนี้่ต่อไป

 3 . ความเฉียบคมของ  อัลกาเซร์

ปาโก้ อัลกาเซร์ ต้องเจอกับช่วงเวลาที่ย่ำแย่ตอนเล่นให้ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า หลังจากที่คิดผิดย้ายจาก บาเลนเซีย ไปเล่นในถิ่นคัมป์ นู โดยเขาเสียเวลาไป 2 ปีเพราะเป็นได้เพียงแค่ยางอะไหล่ของ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าจอมถล่มประตูทีมชาติอุรุกวัย

สุดท้ายนักเตะย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ พร้อมกับออปชั่นเซ็นถาวรค่าตัว 23 ล้านปอนด์ (ราว 1,035 ล้านบาท) และกับการเล่นให้ "เสือเหลือง" เจ้าตัวงัดฟอร์มเก่งออกมาได้สำเร็จ ด้วยเหตุนี้ทำให้เขาได้ติดทีมชาติสเปน ในช่วงที่ผ่านมา

สำหรับตอนนี้ อัลกาเซร์ ซึ่งตะบันให้กับทัพ "กระทิงดุ" ไปแล้ว 3 ประตูในช่วงสัปดาห์นี้ กระทุ้งไปแล้วถึง 10 ประตู จากการลงเล่นให้ทีมชาติสเปน และ ดอร์ทมุนด์ รวมกันแค่ 6 นัดเท่านั้น และ 7 จาก 10 ประตูที่ทำได้มาจากหลังลงสนามในฐานะตัวสำรองด้วย

 4. โจ โกเมซ ฟอร์มสุดแกร่ง
 

เจอร์เก้น คล็อปป์ ชื่นชอบ โกเมซ มากๆ เช่นเดียวกับ แกเร็ธ เซาธ์เกต และตอนนี้นักเตะได้แสดงให้เห็นแล้วว่าทำไมสองผู้จัดการทีมถึงประทับใจผลงานของเขามากขนาดนี้

กองหลังดาวรุ่งวัย 21 ปี เคยต้องพบกับช่วงเวลาที่ยากลำบากมาแล้ว เนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บ อย่างไรก็ตามตอนนี้ โกเมซ กลับมาแข็งแกร่งแล้ว และสามารถยึดตำแหน่งตัวจริงของเขาทั้งกับการเล่นให้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล และทีมชาติอังกฤษ

การได้คู่หูเกมรับอย่าง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ทำให้เขาเป็นผู้เล่นสำคัญของ "เดอะ เร้ดส์" แม้ว่าเขาจะเป็นเซนเตอร์แบ็กที่อายุน้อย แต่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เฉกเช่นกับทีมชาติอังกฤษ เพราะดูเหมือนว่า โกเมซ มีโอกาสที่จะยืนเป็นแนวรับตัวหลักให้กับบ้านเกิดไปอีกนานหลายปี
 
5. ตัวจริงอายุน้อยสุดนับตั้งแต่ปี 1959 
 

แกเร็ธ เซาธ์เกต เลือกผู้เล่นตัวจริงทีมชาติอังกฤษที่อายุน้อยสุดในรอบ 59 ปีเลยทีเดียว นักเตะอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด อายุ 20 ปี, โจ โกเมซ อายุ 21 ปี และเบน ชิลเวลล์ อายุ 21 ปี ทำให้ค่าเฉลี่ยทัพ "สิงโตคำราม" ชุดตัวจริงในเกมล่าสุดอายุไม่เกิน 23 ปีด้วยซ้ำ

มีเพียงแค่ คีแรน ทริปเปียร์ เท่านั้นที่อายุ 28 ปีซึ่งเป็นผู้เล่น 11 ตัวจริงของทีมที่อายุเกิน 25 ปี ขณะที่ ราฮีม สเตอร์ลิง ถือเป็นนักเตะที่มีประสบการณ์มากที่สุดในทีมชาติอังกฤษชุดนี้ เนื่องจากเจ้าตัวติดธง "สิงโตสามตัว" มาแล้ว 46 แมตช์

6. รามอส กองหลังจอมยิงประตู  
 

เซร์คิโอ รามอส กัปตันทีมชาติสเปน ติดธงบ้านเกิดมาแล้ว 160 เกม โดย ปราการหลัง "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด เป็นเจ้าของสถิติที่สุดยอดจริงๆ และไม่พลาดลงสนามให้กับ สเปน เลยตลอดช่วงเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา รามอสช่วยยิงประตูให้กับทีมในแมตช์แพ้ อังกฤษ 2-3 ทำให้เขาซัดประตูไปแล้วทั้งในนามทีมชาติ และสโมสรรวมเบ็ดเสร็จ 95 ประตู .....ไม่เลวเลยสำหรับนักเตะกองหลัง (ต้องบอกว่าโคตรมากกว่า)