"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยังทำไม่แพ้ทีมใด แม้เกมนี้จะเล่นไม่ดุดันแต่ยังดีพอบุกไปคว้าชัยเหนือ ฮัดเดอร์สฟิลด์ 1-0 จากประตูชัยของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หัวหอกตัวเก่งที่ซัดประตูที่ 4 ในลีก แถมยังทำสถิติซัดครบ 50 ประตูในลีกผู้ดี พร้อมพาทีมซิวสามแต้มสำคัญมี 23 คะแนนเท่ากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ลูกได้เสีย "เรือใบ" ดีกว่านำเป็นจ่าฝูง ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา

    ฮัดเดอร์สฟิลด์ เปิด เดอะ จอห์น สมิธส์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เจ้าถิ่นที่มี เดวิด ว้ากเนอร์ คุมทัพพาทีมสตาร์ต 8 เกมแรกยังไม่ชนะใครเป็นการเสมอ 3 แพ้ 5 ฟอร์มล่าสุดก่อนเกมทีมชาติพวกเขาบุกไปเสมอกับเบิร์นลี่ย์ได้ 1-1

    ขณะที่  เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ''หงส์แดง'' ทีมอันดับ 3 ซีซั่นนี้ในลีก 8 นัดยังไม่แพ้ใคร พวกเขาชนะ 6 เสมอ 2 โดยฟอร์มนัดล่าสุดเจ๊ากับ แมนฯ ซิตี้ 0-0 ที่แอนฟิลด์

    โดยเกมนี้เจ้าถิ่นวางสูตรอัดแน่นแดนกลาง แนวรุกจัด  อเล็กซ์ พริตชาร์ด ยืนหน้าต่ำ หน้าเป้าเป็น โลร็องต์ เดปัวร์ต ด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม "หงส์แดง" ขาด นาบี เกอิต้า กับ ซาดิโอ มาเน่ ที่เจ็บ แนวรุกปรับส่ง  แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ กับ เซอร์ดาน ชากิรี่ ลงตัวจริง ส่วนแดนกลาง อดัม ลัลลาน่า ได้ลงตัวจริงเช่นกัน

    เปิดฉากมารูปเกมสูสีทันกันมากและแทบหาโอกาสลุ้นประตูไม่ได้ โดย หงส์แดง ได้ลุ้นจากจังหวะส่อของ เซอร์ดาน ชากิรี่ แต่ติดบล็อกน่าเสียดาย

    นาที 24 แฟนบอลเจ้าบ้านเงียบกริบทั้งสนามเมื่อโดน ลิเวอร์พูล บุกส่องนำ 1-0 เซอร์ดาน ชากิรี่ พลิกบอลสวยแล้วแทเรียดเข้าเขตโทษให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สปีดไปยิงด้วยขวาสวน โยนาส ลอสเซิ่ล ตุงตาข่าย

    ผ่านครึ่งชั่วโมงนาทีเดียว ฮัดเดอร์สฟิลด์ น่าตีเสมอได้ โจนาธาน ฮ็อกก์ ตั้งป้อมซัดไกลบอลพุ่งเป็นจรวดไปชนเสาน่าเสียดาย ทั้งที่ อลีสซง เบ็คเกอร์ พุ่งไม่ถึงแล้ว

    ก่อนจบครึ่งแรก 3 นาที เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกหน อเล็กซ์ พริตชาร์ด เก็บบอลซัดในเขตโทษบอลโด่งข้ามคาน จบครึ่งแรก ฮัดเดอร์สฟิลด์ ตามหลัง ลิเวอร์พูล 0-1

    ช่วงพักครึ่ง เจอร์เก้น คล็อปป์ ปรับทัพถอด จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่มีปัญหาบาดเจ็บออก และส่ง จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ลงแทน

    เริ่มครึ่งหลัง 2 นาทีทีมเยือนทักทายก่อน อดัม ลัลลาน่า จ่ายให้ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ โยกหาช่องยิงบอลในเขตโทษด้วยซ้ายโด่งข้ามคาน

    อีก 8 นาทีต่อมา ฮัดเดอร์สฟิลด์ หวิดทวงคืนได้ โฟลเรนท์ ฮาแดร์โยนาจ เติมเกมบุกขึ้นมาตักบอลเข้าเขตโทษ  โลร็องต์ เดปัวร์ต เทกขึ้นโหม่งย้อนศรถูก อลีสซง เบ็คเกอร์ พุ่งไปรับคว้าเอาไว้ติดมือ

    เกือบเป็น ลิเวอร์พูล ได้ประตูนำห่าง แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ดีดบอลไวมาพื้นที่ว่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พักอกเอาบอลแล้วกดด้วยซ้ายหลุดถากเสาไปนิดเดียว

    ช่วงท้ายเกมเจ้าบ้านบุกกดดันหนัก ไอซัค เอ็มเบนซ่า ตัวสำรอง เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาเข้ามา เดยัน ลอฟเรน สกัดไม่ดีกลายเป็นตั้งให้ สตีฟ มูนิเย่ ตัวสำรองอีกคน กลับตัวยิงโด่งข้ามคาน

    จนแล้วจนรอดแม้เจ้าบ้านจะบุกหนักแค่ไหนแต่สุดท้ายทีมเยือนสามารถยันเอาไวได้หมด จบเกม ลิเวอร์พูล ได้สามแต้มล้ำค่าด้วยการบุกเฉือนชนะ ฮัดเดอร์สฟิลด์ 1-0 ทำสถิติยังไม่แพ้ทีมใด พร้อมเก็บสามคะแนนมีเพิ่มเป็น 23 แต้มเท่ากับ แมนฯซิตี้ แต่ "เรือใบ" เป็นจ่าฝูงด้วยผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่า

    รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

    ฮัดเดอร์สฟิลด์  : โยนาส ลอสเซิ่ล,  เอริก ดวร์ม, มาเทียส ยอร์เกนเซ่น, คริสโตเฟอร์ ชินด์เลอร์, คริส เลอเว่, โฟลเรนท์ ฮาแดร์โยนาจ ( ไอซัค เอ็มเบนซ่า น.69), ฟิลิป บิลลิ่ง (สตีฟ มูนิเย่  น.70), โจนาธาน ฮ็อกก์, อารอน มอย, อเล็กซ์ พริตชาร์ด,  โลร็องต์ เดปัวร์ต

    ลิเวอร์พูล  : อลีสซง เบ็คเกอร์, โจ โกเมซ, เดยัน ลอฟเรน, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน , เจมส์ มิลเนอร์ (โรแบร์โต ฟีร์มีโน่ น.77), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม น.46), อดัม ลัลลาน่า (ฟาบินโญ่ น.69), โมฮาเหม็ด ซาลาห์, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, เซอร์ดาน ชากิรี่

    ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์