อดีตกองหลังทีมชาติเยอรมันเห็นว่าการพบกันของเรอัล มาดริด และ บาร์เซโลนา กลายเป็นเรื่องน่าเบื่อเมื่อผู้เล่นวุ่นวายอยู่กับการแกล้งเจ็บและฟ้องกรรมการ โรเบิร์ต ฮุธ อดีตกองหลังทีมชาติเยอรมัน เผยว่าปัจจุบันไม่ได้ตื่นเต้นไปกับ 'เอล กลาซิโก้' การพบกันระหว่างบาร์เซโลนา - เรอัล มาดริด สองยักษ์แห่งลา ลีกา สเปน อีกแล้ว

สุดสัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคม บาร์ซาแชมป์เก่าที่ไม่มีลิโอเนล เมสซี จากอาการบาดเจ็บ จะเปิดบ้านต้อนรับราชันชุดขาว แชมป์ยุโรปผู้กำลังกระเสือกกระสนกับสภาวะปืนฝืดหลังคริสเตียโน โรนัลโด้ อำลาทีมไปอยู่กับยูเวนตุส และ ฆูเลน โลเปเตกี กุนซือของทีม กำลังเก้าอี้ร้อนสุด ๆ

แม้แฟนบอลทั่วโลกจะตั้งตารอ แต่อดีตเซ็นเตอร์ฮาล์ฟของเชลซี, เลสเตอร์ ซิตี้ รู้สึกเบื่อหน่ายกับบรรยากาศการเอาชนะกันด้วยการหาจังหวะแกล้งล้มแกล้งเจ็บแล้วกดดันกรรมการของผู้เล่นทั้งสองทีมในช่วงหลังเต็มที

"ผมไม่ได้ดูบาร์ซา - มาดริด แล้วด้วยซ้ำ แม่*อย่างกาก" กองหลังฟรีเอเยนต์วัย 34 ให้สัมภาษณ์กับ Sunday Times

"คน 20 คนมาล้อมผู้ตัดสิน บางคนเอามือกุมหน้าอยู่ เอล กลาซิโก้? ไม่ล่ะ"

ฮุธยังให้ความเห็นพาดพิงไปถึงแกรี เนวิลล์ อดีตกองหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เคยให้ความเห็นว่าผู้เล่นมีสิทธิ์จะล้มลงไปได้เมื่อถูกสัมผัสตัว ว่าเป็นเรื่องน่าเศร้า

"ที่ผมไม่เข้าใจเลย คือคุณจะสู้หน้าคนได้ยังไง" ฮุธว่าต่อ

"ในฐานะคน ๆ หนึ่ง ผมเห็นว่าปัญหาทั้งหมดนี้มันเป็นเรื่องน่าอาย พุ่งนี่ผมเข้าใจได้ พุ่งก็ไม่ได้ต่างกับเวลาผมดึงเสื้อคู่แข่ง แต่การแกล้งเจ็บคือคุณกำลังบิดเบือนกติกา - มันผิดกติกาทุกกีฬานั่นแหละ

"ไอ้ความป้อแป้นี่มันชวนหงุดหงิดมาก ผมคิดไม่ออกจริง ๆ ว่ามีกีฬาไหนที่ยอมรับมันได้บ้าง

"คุณฟังดูสิ แกรี เนวิลล์ กับ(กูรู)คนโน้นคนนี้ พูดเหมือนกันหมด 'เขามีสิทธิ์ล้มนะ' ไม่ครับ ไม่มีสิทธิ์ล้ม เราเสียเวลา 15-16 ปีไปกับการบำรุงร่างกาย เข้ายิม สร้างนักฟุตบอลให้แข็งแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วจะมาบอกว่าโดนแตะตัวนิดนึงก็ล้มได้เนี่ยนะ?"

แนวรับดีกรีแชมป์พรีเมียร์ลีกสามสมัยตัดสินใจแยกทางกับเลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อจบฤดูกาล 2017-18 หลังโอกาสลงสนามถดถอยเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บรบกวนบ่อยครั้ง และปัจจุบันยังเป็นผู้เล่นไร้สังกัด

บาร์เซโลนา - เรอัล มาดริด จะแข่งขันกันในคืนวันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม ซึ่งจะเป็น เอล กลาซิโก้ ครั้งแรกในรอบ 11 ปี ที่ไม่มีทั้งคริสเตียโน โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี ลงสนาม