เป็นที่พูดถึงแบบไม่ต้องถกเถียงในคืนที่ผ่านมา หลังราฮีม สเตอร์ลิ่ง สะดุดล้มลงเองในกรอบเขตโทษในเกมปะทะชัคตาร์ โดเนตส์ค แต่กรรมการดันเป่าให้แมนฯซิตี้ได้จุดโทษซะงั้น

   "เรือใบสีฟ้า" จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก เปิดบ้านถล่ม ชัคตาร์ โดเนตส์ค ยอดทีมจากยูเครนไปขาดลอย 6-0 ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ คืนวันพุธที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามดูเหมือนจังหวะที่ผู้ตัดสิน วิคตอร์ คาสไซ ตัดสินผิดพลาดจะเป็นที่สนใจมากกว่าผลการแข่งขัน โดยที่ในนาทีที่ 24 สเตอร์ลิ่งเลี้ยงบอลเข้าไปในเขตโทษแล้วสะดุดยอดหญ้าล้มลง แต่ผู้ตัดสินจากฮังการีเห็นว่า มีโกล่า มาตวิเยนโก้ ทำฟาวล์ เลยชี้ไปที่จุดโทษ ในแบบที่ว่า สเตอร์ลิ่งเองยังงง แม้ว่าเจ้าตัวจะยืนกรานไปว่าไม่มีการปะทะกันเกิดขึ้น แต่ก็ไม่อาจทำให้วิดตอร์ คาสไซเปลี่ยนคำตัดสินได้

    "เรารู้ทันทีว่ามันไม่สมควรเป็นลูกจุดโทษ จริงอยู่ว่าเขาสามารถทำอย่างนั้นได้ (ไปบอกกับกรรมการว่ามันไม่สมควรเป็นลูกจุดโทษ) แต่ถ้าอย่างนั้นฤดูกลก่อน (กองกลาง ลิเวอร์พูล เจมส์) มิลเนอร์ ก็ควรจะบอกกับกรรมการเหมือนกันว่าการผ่านบอลในจังหวะที่เราน่าจะได้ลูกที่สองในนาทีที่ 44 มันเป็นการเล่นที่ถูกต้องตามกฎ (หมายถึงในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง ของซีซั่นที่แล้ว) วันนั้น (กรรมการ อันโตนิโอ มิเกล) มาเตว ลาออซ ไม่อยากยอมรับว่าเขาทำพลาด มันเลยเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น"

    "เราไม่อยากทำประตูได้เพราะเรื่องแบบนี้ แต่เขา (สเตอร์ลิง) ไม่รู้ว่าตัวเขาล้มลงไปเอง ขณะที่กรรมการน่ะรู้ดี ในสถานการณ์นั้นเขา (สเตอร์ลิง) ไม่รู้เลยว่าตัวเขาล้มลงไปเอง เพราะเขาอยากชิพบอล, สะดุดหญ้า แล้วก็ล้มลงไป มันไม่สมควรเป็นลูกจุดโทษ"

    อดีตนายใหญ่ บาร์เซโลน่า และ บาเยิร์น มิวนิค เสริมว่านี่เป็นอีกครั้งที่แสดงให้เห็นว่าระบบเทคโนโลยีวิดีโอช่วยผู้ตัดสิน (วีเออาร์) มันจำเป็นมากแค่ไหน "วีเออาร์ อยู่ไหนกัน ? บรรดากรรมการพูดมานานแล้วว่ามันต้องมีการช่วยเหลือกันบ้าง เพราะพวกเขาอยากตัดสินให้ดี พวกเขาไม่อยากทำพลาด แต่ทุกวันนี้เกมมันเล่นกันเร็วมาก บางครั้งนักเตะก็มีทักษะที่เก่งกว่าบางอย่าง ท้ายที่สุดแล้วมันก็ต้องมีการช่วยเหลือกรรมการ มันจะใช้เวลาแค่ 3 วินาที, 4 วินาที หรือ 10 วินาทีเท่านั้นที่จะตัดสินว่าจังหวะนี้ไม่ควรเป็นลูกจุดโทษ และให้เล่นกันต่อไป"

    ทั้งนี้ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) เคยประกาศแล้วว่า วีเออาร์ จะถูกนำมาใช้ในเกมระดับ แชมเปี้ยนส์ ลีก ตั้งแต่ฤดูกาล 2019-20 เป็นต้นไป
 
ในขณะที่กุนซือของชัคตาร์ โดเนตส์ค อย่าง เปาโล ฟอนเซก้า ก็ออกมาระบุว่า "มันก็ยากที่จะพูดถึงจังหวะจุดโทษเวลาที่ผลการแข่งขันมันออกมาแบบนี้ แต่ก็มันก็น่าหงุดหงิดมาก ทุกคนก็เห็น แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่ได้แพ้เพราะจุดโทษนั้น"

    เหตุการณ์ในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี 1997 เมื่อร็อบบี้ ฟาวเลอร์ นักเตะดาวดังของลิเวอร์พูล ได้จุดโทษจากจังหวะที่เขากระโดดข้ามเดวิด ซีแมน แล้วล้มลง ในเกมพบกับ"ปืนใหญ่" และเขาก็ได้แสดงออกให้ผู้ตัดสินเห็นเลยว่า มันไม่เป็นการฟาวล์เขาไม่ได้โดนซีแมนรวบขาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ผู้ตัดสินยืนยันไม่เปลี่ยนคำตัดสิน ให้ลิเวอร์พูลได้จุดโทษไปตามระเบียบ