t

แฟนเจ้าบุญทุ่มถึงกับช็อกคา คัมป์ นู กันเลยทีเดียวหลังเห็นเล่นกันไม่เอาอ่าว หลัง เรอัล เบติส ร่ายฟอร์มโหดบุกมาถล่ม 4-3 ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี โดยเกมนี้ แม้ ลิโอเนล เมสซี่ จะยิงสองเม็ดแต่ไม่สามารถช่วยทีมได้หลังต้องเหลือแค่10คนเมื่อ อีวาน ราคิติช โดนไล่ออกช่วงท้ายเกม ส่งผลให้แชมป์เก่าพ่ายคาบ้านในรอบ 2 ปี นับแต่กลางเดือนกันยายนปี 2016 และเป็นการพ่ายเป็นนัดที่ 2 ของซีซั่น ทว่ายังรั้งจ่าฝูงนำ แอต.มาดริด และอลาเบสหนึ่งคะแนน
สนาม : คัมป์ นู

    บาร์เซโลน่า แชมป์เก่าและจ่าฝูงลา ลีกา เปิดรังต้อนรับเรอัล เบติส โดยเจ้าบ้านได้ ลิโอเนล เมสซี่ กลับมาลงสนามครั้งแรกเป็นตัวจริงเลยนับตั้งแต่เจ็บแขน ขณะที่ทีมเยือนฝากความหวังไว้ที่กัปตัน ฆัวกีน ซานเชซ และ โลเรน โมรอน

    เริ่มเกมบาร์ซ่าครองเกมบุก เบติสเน้นรับรอสวนแล้วได้ลุ้นก่อนจาก โจวานี่ โล เซลโซ่ ครอสเข้ากลางกะให้ ฆัวกีน เผด็จศึกแต่ยังมี มาร์ค-อันเดร แทร์ ชเตเก้น ออกมาปิดมุมจนยิงข้ามคานออกไป

    ทำไปทำมา บาร์ซ่าชักเนือยๆ จนโดนลงโทษ เบติสสวนกลับพลิกนำ 1-0 ในนาทีที่ 20 วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ จ่ายทะลุแนวรับให้ จูเนียร์ ฟีร์โป เบียดชนะ เซร์จี้ โรเบร์โต้ แต่งบอลเข้าขวายิงผ่านมือ แทร์ ชเตเก้น เสียบเสาแรกอย่างเด็ดขาด

    ถัดมาเพียง 5 นาที บาร์ซ่าเกือบตีเสมอจากฟรีคิกที่ เมสซี่ วางเข้ากลางให้ เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ เติมมาวอลเลย์เข้าข้อ ทว่า ปาอู โลเปซ เซฟออกหลังไปได้

    พอไม่ได้แล้วก็มาโดนอี่กลูกในนาที 34 คราวนี้ จูเนียร์ ฟีร์โป วางข้ามฟากจากซ้ายมาถึง กริสเตียน เตโย่ เด็กเก่าบาร์ซ่าตบคืนหลังให้ ฆัวกีน ชาร์จตุงตาข่ายแบบไม่ต้องจับ ทำให้หมดครึ่งแรก บาร์ซ่าตามหลังถึง 0-2

    ต่อครึ่งหลัง เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ กุนซือเจ้าถิ่นรีบแก้เกมส่ง อาร์ตูโร่ วีดาล ลงเล่นแทน อาร์ตูร์ เมโล่ สักพักก็ตามมาด้วย มัลคอม ถูกเปลี่ยนออกสวนทางกับ มูนีร์ เอล ฮัดดาดี้

    บาร์ซ่าพยายามอยู่นานจนมาได้ฟาวล์จุดโทษหลังเกมครบชั่วโมงเมื่อ เตโย่ เข้าบอลข้างหลัง ยอร์ดี้ อัลบา โดยก้ำกึ่งอยู่บนเส้นเขตโทษ แต่ภาพรีเพลย์ชี้ชัดกรรรมการ อันโตนิโอ มาเตว ตัดสินได้ถูกต้องแล้ว ก่อนที่ เมสซี่ รับอาสาสังหารไล่สกอร์มาเป็น 1-2

    สาวกกูเล่ดีใจไม่ทันไรก็ถูกทิ้งช่องว่าง 2 เม็ดเหมือนเดิม เตโย่ จ่ายให้ โล เซลโซ่ ยิงตรงตัว แทร์ ชเตเก้น แต่กลับรับไม่อยู่ปล่อยให้บลูกบอลปลิ้นข้ามหัวเข้าประตู เบติสทิ้งห่าง 3-1

    ท้ายเกมทวีความมันส์ บาร์ซ่าไล่มาอีกรอบ 2-3 ในนาที 79 เมสซี่ แทงคิลเลอร์พาสไปเข้าทาง มูนีร์ โชว์ใจกว้างจ่ายต่อให้ วีดาล ที่ยืนตำแหน่งดีกว่า จิ้มบอลเข้าไปโล่งๆ

    แต่แล้วไม่กี่นาทีถัดมา บาร์ซ่าต้องเหลือ 10 คนเมื่อ ราคิติช ที่ติดเหลืองตั้งแต่ท้ายครึ่งแรกไปทำฟาวล์ โล เซลโซ่ จนโดนใบที่ 2 ครบโควตาไล่ออกจากสนาม

    เบติสที่ได้เปรียบตัวผู้เล่นมายิงประตูที่ 4 จาก จูเนียร์ ฟีร์โป กระชากทางซ้ายจ่ายเข้ากลางให้ เซร์คิโอ กานาเลส ตัวสำรองเข้ามาชาร์จง่ายๆ ในระยะ 6 หลา

    ช่วงทดเจ็บ ทัพอาซูลกราน่าดิ้นอีกเฮือก จากบอลต่อกันสวย วีดาล เล่นกับ หลุยส์ ซัวเรซ มาจบที่ เมสซี่ ยิงลูกที่ 2 ของตัวเอง โดยเบติสประท้วงล้ำหน้า แต่ภาพจากวีเออาร์ยืนยันว่าเป็นสกอร์อย่างขาวสะอาด

    สุดท้ายได้แค่นั้น จบเกม บาร์เซโลน่าพลิกล็อกพ่าย 3-4 เป็นเกมปราชัยที่ 2 และครั้งแรกในถิ่นคัมป์ นู ฤดูกาลนี้ แต่ยังคงนำจ่าฝูงเหนือแอต.มาดริด และอลาเบสอยู่ 1 แต้ม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    บาร์เซโลน่า : มาร์ค-อันเดร แทร์ ชเตเก้น - เซร์จี้ โรเบร์โต้, เคราร์ด ปีเก้, เกลม็องต์ ล็องเล่ต์, ยอร์ดี้ อัลบา - อิวาน ราคิติช, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ (การ์เลส อเลนญ่า น.69), อาร์ตูร์ เมโล่ (อาร์ตูโร่ วีดาล น.46) - ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ, มัลคอม (มูนีร์ เอล ฮัดดาดี้ น.57)

    เรอัล เบติส : ปาอู โลเปซ - อาอีสซ่า ม็องดี้, มาร์ก บาร์ตร้า, ซิดเนย - กริสเตียน เตโย่, วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่, อันเดรส กวาร์ดาโด้, จูเนียร์ ฟีร์โป - โจวานี่ โล เซลโซ่ (ทากาชิ อินูอิ น.87) - ฆัวกีน ซานเชซ (เซร์คิโอ กานาเลส น.62), โลเรน โมรอน (เซร์คิโอ เลออน น.76)

    ผู้ตัดสิน : อันโตนิโอ มาเตว