หลังเกมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ใช่แค่ระบายสีฟ้าไปทั่วเมืองแมนเชสเตอร์ เท่านั้น แต่ยังเกิดสีแดงเตือนภัยไปยัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วย เพราะตลอดทั้งเกมทุกๆ สายตาทั่วโลกได้เห็นแล้วว่า "เรือใบสีฟ้า" สามารถผ่านบอลไปมาได้ตลอด และครองเกมแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

ในช่วงเวลานี้สิ่งสำคัญที่สาวก "เร้ด อาร์มี่" ต้องการมากที่สุดก็คือจุดเปลี่ยนของทีม และ มูรินโญ่ จำเป็นอย่างมากที่จะต้องรีบจัดการทำเรื่องนี้ให้เกิดขึ้นเป็นการด่วน แต่ด้วยขุมกำลังที่มีอยู่ดูเหมือนว่ามันยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอสำหรับ "เฮียมู" ที่จะพลิกสถานการณ์ของทีม

ฉะนั้นตอนนี้ได้เวลาที่ มูรินโญ่ ต้องวิเคราะห์ในแต่ละจุดที่จำเป็นหลังจากเห็นภาพจริงของทีมเมื่อต้องตกอยู่ภายใต้ร่มเงาเพื่อนบ้านน่ารำคาญ เพื่อที่จะทำการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เพราะหากปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้เรื้อรังไปเรื่อยๆ มีหวัง แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องพบกับฤดูกาลที่ไม่อยากจดจำแน่นอน
 
- เสริมผู้เล่นปีกที่มีคุณภาพ
ตลอดช่วงระยะเวลาหลายปีที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุมบังเหียนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขามักจะเน้นการเล่นทางกราบเป็นพิเศษ โดยใช้ปีกที่มีพรสวรรค์ในการโจมตีคู่แข่ง อย่างการมีเดวิด เบ็คแฮม, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, นานี่  และ ฟูลแบ็กที่เน้นเติมเกมบุกทางกราบทั้ง ปาทริซ เอวร่า, แกรี่ เนวิลล์ รวมไปถึง ราฟาเอล แน่นอนว่านักเตะเหล่านี้มีการเปิดบอลที่แม่นยำ

สำหรับในยุคที่ โชเซ่ มูรินโญ่ คุมทีมต้องบอกว่า "ผีแดง" ขาดประสิทธิภาพทางกราบไปเยอะ แม้ว่าในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาจะดึงตัว อเล็กซิส ซานเชซ มาเสริมทัพแต่นักเตะก็ไม่ดีพอที่จะแก้ปัญหาในจุดนี้ นอกจากนี้ "เฮียมู" ยังพยายามทดลองใช้ ฆวน มาต้า, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เจสซี่ ลินการ์ด ทำหน้าที่ในตำแหน่งนี้ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล

การมีหน้าเป้าอย่าง โรเมลู ลูกากู จะไม่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับทีมได้เลยหากไม่มีนักเตะที่เปิดบอลได้อย่างแม่นยำเข้าไปในบริเวณกรอบเขตโทษ ฉะนั้นในตอนนี้ทางแก้ที่ดีที่สุดก็คือ มูรินโญ่ ต้องสะกิดบอร์ดบริหารให้ทุ่มซื้อตัว อิวาน เปริซิช เพราะนี่คือผู้เล่นทางกราบที่มีคุณภาพและเหมาะกับสไตล์ของ มูรินโญ่ เป็นอย่างยิ่ง

- หาทางเลือกแทน ลูกากู  
กองหน้าทีมชาติเบลเยียม เป็นหัวหอกที่น่าเกรงขามอย่างในในพรีเมียร์ลีก ก่อนที่จะย้ายมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาลที่ผ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถิติในการถล่มประตูคู่แข่งของเขาสมัยที่สวมชุด "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาจริงๆ

อย่างก็ตามภาพจำทั้งหมดตอนนี้ไม่เหลืออีกแล้วเมื่ออยู่ในเครื่องแบบ "ปีศาจแดง" ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่านักเตะโดนแรงกดดันอย่างหนักจากการคาดหวังของสาวก "เร้ด อาร์มี่" แม้ว่า ลูกากู จะทำได้ดีในระดับหนึ่งกับฤดูกาลเปิดตัวในฐานะแข้ง แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ซีซั่นนี้ผลงานของเขาธรรมดาสามัญชนมากๆ

ยิ่งไม่ค่อยได้ยิงประตูความมั่นใจยิ่งขาดหายไปเรื่อยๆ และยังมาโดนสื่อกดดันจากทั่วทุกสารทิศ งานนี้ ลูกากู ต้องเจอกับงานสุดหินในการเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมา

การที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขาดหน้าเป้าที่มีคุณภาพก็เหมือนการที่ทีมโยนเงินก้อนโตทิ้งไปกับลูกากู และด้วยเหตุนี้ทำให้เขาต้องโดนดร็อปเป็นตัวสำรองทั้งมาจากเหตุผลมีปัญหาบาดเจ็บ และเรื่องการไม่ยิงประตูคู่แข่งมาแล้วหลายต่อหลายนัด

ฉะนั้นนี่น่าจะเป็นเหตุผลที่เพียงพอที่จะทำให้ มูรินโญ่ ต้องกระโดดเข้าสู่ตลาดซื้อขายนักเตะช่วงเดือนมกราคมนี้ เพื่อดึงหัวหอกฝีเท้าดีมาแข่งแย่งตำแหน่งกับ ลูกากู และการทำแบบนี้น่าจะช่วยให้นักเตะดึงฟอร์มเก่งกลับคืนมาอีกครั้ง และมีประโยชน์กับทีมในระยะยาว

- หาเซนเตอร์แบ็กที่ไว้วางใจได้
ปราการหลังตัวกลางน่าจะเป็นเป้าหมายแรกของ มูรินโญ่ ในช่วงตลาดพ่อค้าแข้งรอบ 2 เปิดฤดูหนาวนี้ สำหรับตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในสโมสรที่มีสถิติเกมรับย่ำแย่ที่สุดในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ โดยพวกเขาเก็บคลีนชีทได้แค่ 1 แมตช์จาก 12 เกมลีก

ตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีสถิติคลีนชีทเหนือกว่า ฟูแล่ม ทีมบ๊วยของตารางลีก โดย "ปีศาจแดง" เสียประตูไปแล้ว 21 ลูกในลีก ทั้งๆ ที่เมื่อฤดูกาลที่แล้วพวกเขาต้องเล่นไปถึง 25 เกมถึงจะเสียประตูขนาดนี้ แน่นอนว่านี่คือสิ่งสำคัญที่ กุนซือชาวโปรตุกีส ต้องรีบหาทางแก้เป็นการด่วน

สำหรับตัวเลือกในเกมรับเวลานี้ต้องยอมรับว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มีผู้เล่นที่มีคุณภาพมากนัก อย่าง เอริก ไบยี่ ซึ่งเปิดตัวสวยหรูในซีซั่นแรกกับแต่ก็ต้องเจอกับความยากลำบากในการแย่งตำแหน่งตัวจริง ส่วน วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ยังต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการปรับสภาพร่างกายให้เข้ากับเกมพรีเมียร์ลีก

ส่วนกองหลังคนอื่นๆ อย่าง คริส สมอลลิ่ง, ฟิล โจนส์ และ มาร์กอส โรโฮ ยังไม่ดีพอที่จะทำให้ มูรินโญ่ ไว้วางใจ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ "เฮียมู" จะอยากได้กองหลังตัวกลางเพิ่มตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ อย่าง แฮร์รี่ แม็คไกวร์, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ และ เยอร์รี่ มีนา แต่สุดท้ายก็กินแห้ว และนั่นก็เลยส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นของทีมในเวลานี้

ฉะนั้นนี่เป็นช่วงเวลาสำคัญที่บอร์ดบริหาร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องหนุนหลัง มูรินโญ่ พร้อมกับทุ่มเงินให้กับเขาในการหาซื้อเซนเตอร์แบ็กคุณภาพมาเสริมทัพเดือนมกราคมนี้

- แท็กติคมูรินโญ่

หลายคนมองว่า มูรินโญ่ พยายามสร้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้มีเกมรับที่แข็งแกร่งเพื่อเป็นรากฐานสำคัญในการนำทีมสู่ความสำเร็จ เหมือนที่เขาเคยทำได้กับ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี และ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน อย่างไรก็ตามกรณีของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เหมือนกับ เรอัล มาดริด ทั้งสองสโมสรไม่ได้มีการสร้างลานจอดรถบัส อย่างที่เขาต้องการ

มีบางครั้งที่แผนของ "เฮียมู" ประสบความสำเร็จยกตัวอย่างที่เห็นชัดเจนในเกมกับ ยูเวนตุส พวกเขาเล่นตามแท็กติคที่ นายใหญ่ฝอยทอง วางเอาไว้คือการเล่นรัดกุม และรอจังหวะทีเด็ดทีขาดในการเล่นลูกตั้งเตะ อย่างไรก็ตามหากมองจากความจริง ระบบดังกล่าวอาจจะไม่ได้ผลหากในแมตช์นั้น "ม้าลาย" มีความเด็ดขาด และไม่ติดประมาทจนเกินไป

กระนั้นแผนรถบัสของ มูรินโญ่ มาโป๊ะแตกในเกมกับ แมนฯ ซิตี้ เพราะนั่นแสดงให้เห็นแล้วว่าแท็กติคเน้นรับของเขา ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์เมื่อเจอการเล่นที่เน้นเกมบุก และครองเกมแบบเด็ดเสร็จเด็ดขาด ที่สำคัญแนวรุก "เรือใบสีฟ้า" แสดงให้ทุกๆ ทีมได้เห็นว่า หากมีความเฉียบคมก็ไม่ยากที่จะฉีกเกมรับสไตล์มู

สำหรับตอนนี้ มูรินโญ่ ต้องกลับมาหวนนึกถึงดีเอ็นเอสไตล์แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะหากเทียบคุณภาพของผู้เล่นที่มีอยู่ในตอนนี้พวกเขาสามารถถีบตัวเองขึ้นมาอยู่ในกลุ่มหัวตารางตั้งนานแล้ว แต่การยึดมั่นถือมั่นในเกมรับมากเกินไป ทำให้ทีมต้องเจอสถานการณ์เช่นนี้

- เสริมกองกลาง

ตอนนี้หากมองเรื่องคุณภาพของกองกลาง คงต้องบอกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องพึ่งพา ปอล ป็อกบา แม้ว่านักเตะอาจจะเล่นออกแนวติดแอ็กไปบ้าง แต่ก็ถือเป็นผู้เล่นที่สร้างสรรค์เกมบุกให้กับทีมมากที่สุด ไม่เชื่อดูได้จากเกมแพ้ยับ แมนฯ ซิตี้ การขาดหายของ มิดฟิลด์เลือดเฟร้นช์ ทีมขาดประสิทธิภาพไปเยอะ

ครั้นการพึ่งพา อันเดร์ เอร์เรร่า กับ เฟร็ด เกมไหนเล่นดีก็ดีใจหาย เกมหายเล่นหลุดฟอร์มแฟน "ผีแดง" ก็ลุ้นใจหายเหมือนกัน ส่วน มาต้า ดูเหมือนตอนนี้ มูรินโญ่ จะมอง ดาวเตะเลือดสแปนิช เป็นเพียงซูเปอร์ซับเอาไว้แก้สถานการณ์ให้กับทีม 

ฉะนั้น มูรินโญ่ ควรต้องรีบหามิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกมเพื่อมาประสานงานกับ ป็อกบา ไม่งั้นแล้วการต้องพึ่ง ดาวเตะแชมป์ (ทรงผม)โลก คงไม่เพียงพอที่จะทำให้สถานการณ์ของทีมกลับมาดีขึ้นแน่นอน