ANALYSIS: วิธีตามเชียร์ทีมชาติไทยไม่ให้หัวร้อน ใน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018
Posted 21/11/2018 by goal.com
ถ้าทีมของคุณยิงคู่แข่งได้เกินสิบลูกในสองเกม เสียไปแค่สองลูก ชนะรวด โดยหนึ่งในนั้นเป็นทีมรองแชมป์จากครั้งก่อน แล้วยังรู้สึกหงุดหงิดกับผลงาน - เชิญอ่าน
ทีมชาติไทยเข้าสู่เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ในฐานะแชมป์ 5 สมัย มากที่สุดในรายการ, แชมป์เก่า 2 สมัยติด(มีเพียงไทยและสิงคโปร์ที่ทำได้) แต่ก็มีข้อสงสัยในหมู่ชาติอาเซียน ว่าช้างศึกเชือกนี้จะยังแกร่งเหมือนเก่าหรือไม่ เมื่อ 4 คีย์แมนจากปี 2016 ไม่ได้มาร่วมทัพเนื่องจากติดภารกิจกับต้นสังกัดในยุโรปและญี่ปุ่น รวมไปถึงการเปลี่ยนตัวกุนซือ จาก เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง มาเป็น มิโลวาน ราเยวัช
แค่เพียงเกมแรกของรอบแบ่งกลุ่ม อดิศักดิ์ ไกรษร ก็ยิงคนเดียวเท่ากับที่ ธีรศิลป์ แดงดา ยิงได้ทั้งทัวร์นาเมนต์ในปี 2016 ไทยเปิดรังขยี้ติมอร์ เลสเต 7-0 ไม่มีใครพูดถึง 4 สตาร์ที่ติดภารกิจในต่างแดนอีกแล้ว ไทยยังคงน่ากลัวสำหรับทุกชาติอาเซียน มีเพียงอาวุธเดียวที่พวกเห็นว่าช้างศึกยังขาดไป - ฟุตบอลแบบ Tik-Tok เข้าทำประตูด้วยการจ่ายบอลจังหวะเดียวรัว ๆ ที่เป็นภาพจำคู่กับโค้ชซิโก้
เข้าสู่นัดที่สอง วัดจากหน้าเสื่อแล้วเกมนี้อาจเป็นงานหนักที่สุดของแชมป์เก่า เมื่ออินโดนีเซียบุกมารีแมตช์นัดชิงที่ราชมังฯ ไทยยังคงยิงระเบิดเถิดเทิง เอาชนะไปด้วยสกอร์ 4-2 แต่แฟนบอลก็ยังมีความกังวลว่าทำไมเสียง่ายจังทั้งสองประตู รวมไปถึงสไตล์การเล่นที่ไม่ค่อยจะ ‘เดินหน้าฆ่ามัน’ เท่าที่น่าจะเป็น
ผ่านไปสองเกม ไทยนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มบี ประตูได้เสียนำลิ่ว ตำแหน่งดาวซัลโวแทบจะอยู่ในมือ อดิศักดิ์ ไกรษร ไปแล้วครึ่งตัว - แต่ก็ยังมีแฟนบอลบางส่วนไม่สบายใจกับผลงานทัพช้างศึกอยู่ดี
ถึงตรงนี้ผู้เขียนเชื่อว่า บางทีปัญหาอาจไม่ได้อยู่ที่ผลงานของทีมเสียแล้ว จึงมีคำแนะนำการปรับตัวปรับใจมาฝาก เพื่อการชมและเชียร์อย่างสบายใจ
1.ไทยเป็นทีมที่เหนือกว่า
แม้ ‘สอบไล่’ ของมิโลวาน ราเยวัช จะอยู่ที่เอเชียนคัพ 2019 แต่เขาและทีมงานไม่สามารถตั้งเป้าหมายอื่นใดต่ำกว่าตำแหน่งแชมป์ เพราะความคาดหวังของแฟนบอลที่ค้ำคออยู่ - แล้วความคาดหวังนี้มาจากไหน?
นอกจากความรู้สึกว่าไม่อาจยอมให้ผลงานทีมชาติไทยถอยหลังลงมาได้ แน่นอนว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะทุกคนต่างรู้แก่ใจว่า ฟุตบอลไทยในวันเวลานี้ อยู่เหนือเพื่อนร่วมภูมิภาคย่อยในแทบทุกมิติ ไทยลีกเป็นลีกอันดับหนึ่งของอาเซียนอย่างไม่มีใครเถียง ผู้เล่นไทยในลีกก็ควรจะมีคุณภาพเหนือกว่าชาติอาเซียนอื่น ๆ ไปด้วย
เมื่อบวกกับผลงานของผู้เล่นระดับดาวดังของหลายชาติอาเซียนที่มาเล่นในไทยลีกแล้วส่วนใหญ่แทบไม่ได้สร้างความโดดเด่นเหนือผู้เล่นไทย ยิ่งสร้างมาตรวัดความต่างให้ชัดเจน
2. ไทยเล่นอย่างทีมที่เหนือกว่า
แฟนบอลไทยอาจคุ้นเคยกับสไตล์การเล่นแบบ ‘ขอให้ข้าได้สู้’ ที่ช้างศึกทำมาตลอดหลายปี ภาพนักเตะวิ่งลืมหายใจ ไล่ทุกจังหวะ เปิดหน้าบุกแหลกเพื่อหาโอกาสทำประตูให้มากที่สุด ที่เราต้องปรบมือให้แม้จะลงเอยด้วยพาดหัว ‘สุดต้าน’ ‘เต็มที่แล้ว’ ‘สู้ขาดใจ’ ‘ไล่ไม่ทัน’ ฯลฯ อาจจะยังติดตา
แน่นอนว่าวิธีการเล่นแบบนี้ไม่ได้ออกแบบมาให้ได้ใจแฟนเฉย ๆ แต่นั่นคือวิธีเล่นของทีมที่มีศักยภาพเป็นรอง แท็คติกเป็นรอง ทักษะผู้เล่นเป็นรอง ก็ต้องใส่อย่างอื่นลงไปทดแทนเพื่อสร้างโอกาสชนะให้ตัวเอง
ตัดภาพมาที่ราชมังคลากีฬาสถาน ขณะที่ทีมชาติไทยออกนำติมอร์ เลสเต ไปสุดกู่ 6-0 มากกว่าสกอร์ที่ยิงขาด รูปเกมที่เอาอยู่ทุกกระบวน คือ ‘ภาษากาย’ ของช้างศึก ถ้าใครจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นช้างศึกนำคู่แข่งขาดลอยในครึ่งหลังโดยไม่เหนื่อยหอบ เสื้อไม่เลอะ ชายเสื้อยังอยู่ในกางเกงเรียบร้อยดี ก็อยากให้เล่าให้ผู้เขียนฟังบ้างเพราะจำไม่ได้จริง ๆ
มิโลวาน ราเยวัช ไม่มีเวทย์มนตร์อะไรมาจากยุโรปตะวันออก เขาเพียงสอนให้ทีมชาติไทยที่ศักยภาพตัวต่อตัวไม่ได้แพ้ใครในภูมิภาค รู้จักการเอาชนะด้วยการยืนตำแหน่ง(positioning) - ในสนามมีบอล 1 ลูก ครอบครองได้ทีละคน แต่เกมการยืนตำแหน่งนั้น ทั้ง 22 คนเล่นอยู่ตลอดเวลา แพ้ชนะกันอยู่ตลอดเวลา
เมื่อยืนถูก เคลื่อนที่ถูก ก็จะไม่มีพื้นที่ให้คู่แข่งเข้าทำ ทำได้เพียงครองบอลอยู่ในพื้นที่ที่อีกฝ่าย ‘ยอม’ ให้อยู่เท่านั้น ก่อนจะลงเอยด้วยการยิงไกลเอาดาบหน้า ลงเอยด้วยทีมที่พ่ายแพ้มีสถิติครองบอลเหนือกว่า สร้างโอกาสยิงมากกว่า สับไกยิงมากกว่า - ให้นักข่าวเอาไปเขียนหลังเกมว่า ‘ถึงแพ้แต่สู้ได้!’ อะไรทำนองนี้
ซึ่งในระดับอาเซียน ถ้าแพ้มาแล้วบอกว่าสู้ได้ดีแล้วนะ แฟนบอลไทยคงไม่รับฟังอีกแล้ว - เขาก็เลยเล่นเพื่อชนะ เท่านั้นเอง
3. ไทยเล่นเพื่อเป็นแชมป์
นอกจากภาษากายของนักเตะ ทุกครั้งที่ทีมชาติไทยทำประตูติมอร์ เลสเต ได้ ทีมถ่ายทอดสดก็จะตัดภาพมาที่มิโลวาน ราเยวัช - และต้องเขินจนตัดภาพหนีไป ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะกุนซือเลือดเซิร์บไม่ได้แสดงอาการดีใจ พอใจ ไม่พอใจ ฯลฯ อะไร สีหน้ายังไม่เปลี่ยนด้วยซ้ำ รอยยิ้มของเขามีให้อดิศักดิ์ ไกรษร เมื่อถูกเปลี่ยนตัวออกหลังยิงคนเดียวหกลูกเท่านั้น - เหมือนกับว่ากำลังคุมซ้อมมากกว่าคุมแข่ง
ทีมชาติไทยยังคงเล่นคุมโซนต่ำไม่ดันสูง ไม่บีบพื้นที่ต่อไปในเกมเอาชนะอินโดนีเซีย 4-2 เรายังไม่ได้เห็นการไล่บดบี้พื้นที่เล่นของคู่แข่งอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่ต้องไปพูดถึงการเซ็ตเกมรุกจ่ายบอลจังหวะเดียวรัว ๆ เคลื่อนตัวขึ้นไปด้วยกันเป็นแผง และทีมชาติไทยยังคงจบแมตช์แบบไม่หอบเป็นนัดที่สอง ผลงานเข้าเป้าทั้งสองนัด
ถึงจุดนี้หลายคนอาจจะพอมองออกแล้วว่าราเยวัชต้องการรักษาสภาพความฟิตของผู้เล่นในระยะยาว เพราะทีมของเขามีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องเป็นแชมป์ แผนที่ใช้จะต้องออกแบบเพื่อเล่น 4 นัดรอบแบ่งกลุ่ม
ตามด้วย 2 นัดรอบรองชนะเลิศ และ 2 นัดรอบชิงชนะเลิศ ความฟิตของผู้เล่นไม่ใช่สภาพจิตใจที่กระตุ้นจุดประกายเอาได้ แต่เป็นทรัพยากรที่มีจำกัด ต้องจัดสรร คำว่า ‘ทำวันนี้ให้ดีที่สุด’ นับว่าไร้เดียงสา เมื่อวันพรุ่งนี้จะมีแต่ยากขึ้นเรื่อย ๆ
การส่งทรัพยากรผู้เล่นลงไปวิ่งตีนแตกให้แฟน ๆ ประทับใจ จึงไม่ใช่ทางเลือกสำหรับทีมที่มีเป้าหมายจะเล่นจนครบ 8 นัดแล้วชูถ้วยแชมป์
โยฮัน ครัฟฟ์ เคยกล่าวกับผู้บริหารของบาร์เซโลนาเมื่อครั้งกลับมาปฎิวัติทีมสู่ความยิ่งใหญ่ ว่า สโมสรต้องเลิกมองตัวเองเป็น ‘เหยื่อ’ หรือผู้ถูกกระทำ หากหวังจะก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ ความเป็นเหยื่อขัดแย้งกับความเป็นแชมป์ เป็นผู้ชนะสูงสุด
บางทีเราเองในฐานะคนดูก็ต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับสถานะ ‘ทีมที่เหนือกว่า’ บ้าง อะไรที่เคยทำอาจจะไม่ทำแล้ว อะไรที่เคยดี อาจจะไม่ดีแล้ว
อย่างการคว้าแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ สามสมัยติด ที่เรากำลังพยายามอยู่ ก็ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนนะครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ช้างศึกส่ง"อดิศักดิ์"ยืนหอกยิงปินส์-สถิติ9นัดชี้ชัดเจ้าบ้านไม่เคยชนะไทย
มิโลวาน ราเยวัช กุนซือใหญ่ชาวเซอร์เบีย แห่งทัพ ''ช้างศึก'' ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ไม่หวั่นเยือนฟิลิปปินส์ พร้อมจัดทัพใหญ่เต็มอัตราศึกลงสนามนำโดย ''กัปตันเหลิม'' เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว รวมไปถึงศูนย์หน้าอย่าง อดิศักดิ์ ไกรษร ที่ซัดไปแล้ว 7 ลูกในสองเกมพร้อมลงล่าตาข่าย ฟิลิปปินส์ ภายใต้การคุมทัพของ สเวน โกรัน อีริคส์สัน สถิติชี้ชัด 9 ครั้งที่พบกันในถ้วยอาเซียนเป็น ''ช้างศึก'' ชนะ 8 เสมอ 1 ไร้พ่าย แข่งขันวันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 ณ สนามปานาอัด สเตเดี้ยม ตามเวลาประเทศไทย 18.30 น. ช่อง 7 เฮชดี ยิงสด10 นักเตะค่าตัวแพงที่สุดในอาเซียนโดย ฟ็อกซ์ สปอร์ตส์
ฟ็อกซ์ สปอร์ตส์ ได้จัดการเหมารวมรายชื่อของนักเตะในย่านอาเซียนที่มีค่าตัวแพงที่สุดออกมาทั้งหมด 10 รายด้วยกัน ซึ่งแน่นอนว่าทีมชาติไทยติดเข้าไปมากที่สุดถึง 4 รายด้วยกัน เช่นเดียวกับฟิลิปปินส์ช้างศึกไทย ขี่ดวงพิฆาตซุปตาร์คู่แข่ง
ศึกลูกหนังชิงแชมป์แห่งชาติทวีปเอเชียรายการเอเซียน คัพ 2019 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(ยูเออี) เหลือเวลาอีกประมาณหนึ่งเดือนเศษๆ ก็จะเริ่มทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 5 ม.ค.-1 ก.พ.62 มี 24 ทีมเข้าร่วมการแข่งขัน แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม ๆ ละ 4 ทีมๆ อันดับ 1,2 เข้ารอบ 16 ทีมอัตโนมัติ ส่วนอันดับ 3 ที่ดีที่สุดอีก 4 ทีมจะตามเข้ารอบต่อไป โดยครั้งนี้ทีมชาติไทย อยู่ร่วมกลุ่ม เอ กับ เจ้าภาพ ยูเออี,อินเดีย และ บาห์เรนสถิติ18ปีช้างศึกเฝ้ารังคว้าชัยรวดเหนืออิเหนาถ้วยอาเซียน
ก่อนจะถึงเกมนัดที่สองของรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 ซึ่งทีมชาติไทย จะเฝ้าราชมังคลากีฬาสถาน พบกับ อินโดนีเซีย ในวันเสาร์ที่ 17 พ.ย.นี้ เวลา 19.00 น. โดยสถิติที่พบกันถ้วยใบนี้ในบ้านขุนพล"ช้างศึก" ชนะรวดในรายการนี้
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
วิเคราะห์บอล เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกอีลิท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด VS โปฮัง สตีลเลอร์
วิเคราะห์บอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบที่ 3: บาร์เซโลน่า vs บาเยิร์น
วิเคราะห์บอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบที่ 3: แบรสต์ vs เลเวอร์คูเซ่น
สถิติข้อมูล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แอสตัน วิลล่า VS บอร์นมัธ
สถิติข้อมูล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ VS เซาแธมป์ตัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์