โรเตชั่นทำเครียด ! ผ่า 5 ข้อลิเวอร์พูลเร่งเครื่องไล่อัดเบิร์นลี่ย์
Posted 06/12/2018 by siamsport
ลิเวอร์พูล ยังคงรักษาช่องว่างกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหลือ 2 แต้มเท่าเดิม หลังจากโชว์ความสุดยอดไล่บี้คว้า 3 แต้มในเกมชนะ เบิร์นลี่ย์ 3-1 เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันพุธที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา แม้ว่าแมตช์นี้่ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะมีการโรเตชั่นนักเตะถึง 7 คนก็ตาม
ต้องยอมรับว่าการใช้ระบบโรเตชั่นของ คล็อปป์ ค่อนข้างจะน่าเป็นห่วง เนื่องจากคุณภาพของทีมไม่ได้ดีเทียบเท่ากับ แมนฯ ซิตี้ และก็เป็นไปอย่างที่คิดเมื่อทีมไม่สามารถผลิตผลงานดีมีคุณภาพได้อย่างที่ตั้งใจ แถมยังโดนเจ้าบ้านยิงประตูขึ้นนำไปก่อนอีกต่างหาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อกุนซือชาวด๊อยท์ช ตัดสินใจส่งผู้เล่นตัวจริงอย่าง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลงสนาม กลายเป็นว่า "หงส์แดง" กลับมาเล่นได้อย่างโดดเด่นอีกครั้ง และครองเกมได้เหนือกว่า จนนำไปสู่การได้ชัยชนะที่สุดสำคัญในแมตช์นี้
หลังจบเกมสิ่งที่น่ากังวลสำหรับ ลิเวอร์พูล ที่เห็นได้ชัดก็คือขุมกำลังเชิงลึกที่ยังมีคุณภาพไม่เพียงพอ และอาการบาดเจ็บของ โจ โกเมซ ซึ่งไม่รู้ว่าจะหนักมากแค่ไหน
1. ขุมกำลังสำรองยังไม่ดีพอ
หลังจากมีการประกาศ 11 ตัวจริงเพียง 1 ชั่วโมงก่อนเกมที่เทิร์ฟ มัวร์ โดย เจอร์เก้น คล็อปป์ ตัดสินใจใช้ระบบโรเตชั่นในแมตช์นี้ ซึ่งหากมองจากรายชื่อแล้วก็ดูไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ แต่นี่คือเกมพรีเมียร์ลีก แม้ เบิร์นลี่ย์ จะอยู่รองบ๊วย แต่พวกเขาไม่ใช่ทีม ลีก วัน หรือแชมเปี้ยนชิพ ฉะนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้ 3 แต้ม
คล็อปป์ เลือกเปลี่ยนผู้เล่นถึง 7 คนจากทีมชุดเฉือน "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยรวมทั้งนักเตะกำลังหลักอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ซึ่งมีรายงานว่าได้รับบาดเจ็บ โดยเห็นได้ชัดเลยว่าในครึ่งแรก "เดอะ เร้ดส์" ไม่สามารถเล่นเกมบุกอย่างที่เคยทำได้ โดยสถิติบ่งชี้ว่าทีมมีโอกาสยิงประตู 4 ครั้งจาก นาบี เกอิต้า (2 ครั้ง), เจมส์ มิลเนอร์ กับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ คนละครั้ง
ด้านหน้าการใช้ ดิว็อค โอริกี้ คู่กับ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ดูท่าทางจะไม่ค่อยเวิร์คเพราะทั้งสองคนแทบจะไม่ได้บอล โดยพวกเขาสัมผัสบอลกันคนละ 16 ครั้งเท่านั้นก่อนพักครึ่ง สำหรับผลของการโรเตชั่นถึง 7 คนแสดงให้เห็นว่าทีมยังขาดการประสานงานทั้งเกมรับ และเกมรุกที่ยังเล่นไม่ไหลลื่นมากนัก
อย่างไรก็ตามเมื่อกองหน้าไม่สามารถผลิตสกอร์ได้ ทำให้ มิลเนอร์ ต้องแบกรับความรับผิดชอบอีกครั้ง และก็เป็นเขาที่ยิงประตูตีเสมอให้ทีม ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับสู่โหมดปกติเมื่อ คล็อปป์ ส่ง โม ซาลาห์ กับ ฟีร์มีโน่ ลงสนามช่วยกลางครึ่งหลัง และบทสรุปก็คือทั้งสองคนช่วยพลิกเกมให้ทีมชนะได้อย่างสุดยอด
2. อลีสซง พิสูจน์ศักยภาพอีกครั้ง
นับตั้งแต่หายนะในเกมรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จากผลงานดีมีคุณภาพของ ลอริส คาริอุส นายทวารรูปหล่อ ทำให้ "หงส์แดง" พยายามทุ่มเงินซื้อ อลีสซง มาจาก โรม่า ในช่วงซัมเมอร์นี้
หลังจากที่ นายทวารทีมชาติบราซิล ย้ายมาเฝ้าเสาในถิ่นแอนฟิลด์ เจ้าตัวก็โชว์ฟอร์มสุดยอดในเกมพรีเมียร์ลีกทันที โดยเสียแค่ 5 ประตูจาก 14 เกมแรกที่เล่นให้ "เดอะ เร้ดส์" ในฤดูกาลนี้ อย่างไรก็ตาม อลีสซง ก็มีเรื่องผิดพลาดเช่นกันซึ่งมาจากความมั่นใจในตัวเอง เมื่อดันพยายามหลอกผู้เล่น เลสเตอร์ ที่บริเวณหน้าปากประตู จนกระทั่งโดนฉกไปยิงทำให้เขาเสียประตูแรกในลีกเมืองผู้ดี แต่เดชะบุญต้นสังกัดยังเก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จ
สำหรับเกมล่าสุดเยือน เบิร์นลี่ย์ เกมในครึ่งหลัง อลีสซง ทำพลาดจากจังหวะการทำประตูของ เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ ด้วยการใช้ปลายนิ้วปัดบอลก่อนที่บอลจะไปเข้า แจ็ค คอร์ค ที่ทิ่มบอลโล่งๆ สบายอุราเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม อลีสซง ยังคงแสดงศักยภาพแห่งความเป็นยอดโกล์ด้วยการปัดบอลจากการโหม่งของ เบน มี แถมยังโชว์ไหวพริบที่รวดเร็วในการเปิดบอลให้เพื่อนร่วมทีม ก่อนบอลจะไหลไปที่ โม ซาลาห์ ที่ส่งบอลอย่างเหนือชั้นให้กับ เซอร์ดาน ชากีรี่ เข้าไปยิงปิดกรอบให้ทีมได้อย่างงดงาม
3. ฟาน ไดค์ สุดสำคัญกับ ลิเวอร์พูล
เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ได้รับคำชื่นชมอย่างมากจากบรรดากูรูลูกหนังนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เมื่อเดือนมกราคมนี้ และก็ไม่ใช่คำกล่าวเกินจริงที่ว่านี่คือกองหลังที่สุดสำคัญสำหรับ "หงส์แดง" เพราะเขามีส่วนทั้งเกมรับ และเกมรุกของทีมมากๆ
สำหรับฟอร์มการเล่นในเกมที่เทิรฟ์ มัวร์ เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ปราการหลังชาวดัตช์ สามารถเคลียร์จังหวะสำคัญๆ ให้กับทีมได้หลายครั้งโดยเฉพาะจังหวะการเล่นลูกโด่งของถนัดของเจ้าบ้าน ฉะนั้นผลงานในเกมรับของ อดีตแข้ง เซาธ์แฮมป์ตัน ยังคงเป็นความหวังให้กับทีมได้เสมอ
ขณะเดียวกัน ฟาน ไดค์ ยังแสดงให้เห็นถึงการช่วยทีมในเกมรุกด้วย โดยเฉพาะจังหวะที่มีส่วนสำคัญในการนำต้นสังกัดได้ประตูขึ้นนำ เมื่อเขาวิ่งไปรับบอลจากการเปิดฟรีคิกของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ บริเวณเส้นหลัง และตบเข้ามาที่หน้าประตูให้ ฟีร์มีโน่ ยิงประตูสบายๆ
4. บ็อบบี้ กลับมาแล้ว
โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เป็นหนึ่งในนักเตะที่ทำผลงานได้ดีที่สุดของ ลิเวอร์พูล เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม หัวหอกชาวบราซิเลียน ทำผลงานต่ำกว่ามาตรฐานไปนิดนึงในซีซั่นนี้ นั่นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะโดนวิพากษ์วิจารณ์ในช่วงหลายๆ เกมที่ผ่านมา
สาเหตุสำคัญก็มาจากการที่เจ้าตัวซัดไปเพียง 3 ประตูในเกมลีกให้กับ "เดอะ เร้ดส์" ก่อนเกมกับ เบิร์นลี่ย์ แต่หลังจากที่ คล็อปป์ จำเป็นต้องส่งนักเตะลงสนามในครึ่งหลังเพราะทีมต้องการประตูอย่างมาก โดย "ฟีร์มี่" ไม่ทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" ผิดหวัง เพราะเขาช่วยให้ทีมได้ประตูขึ้นนำได้สำเร็จ
5. อาการเจ็บ โจ โกเมซ น่าเป็นห่วง
ลิเวอร์พูล อาจได้ชัยชนะที่สำคัญในเกมนี้ แต่พวกเขาต้องมีเรื่องกังวลจากการเห็น โจ โกเมซ ต้องโดนหามลงเปลออกจากสนาม
ดาวเตะ วัย 21 ปี กำลังทำผลงานขึ้นหม้อจริงๆ ในฤดูกาลนี้ แต่เจ้าตัวต้องพบกับโชคร้ายสุดๆ จากการโดนเข้าสกัดจาก เบน มี และทำให้นักเตะต้องลงไปนอนกลิ้งก่อนที่นักกายภาพบำบัดจะเข้ามาตรวจเช็ค และสุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนตัวออกไปตั้งแต่ต้นเกม
นี่เป็นอีกครั้งที่ โกเมซ ต้องพบกับฝันร้ายจากอาการบาดเจ็บ เพราะเขาก็เคยต้องเจออาการบาดเจ็บเล่นงานทำให้พลาดลงเล่นเกมนัดชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา รวมไปถึงชวดติดทีมชาติอังกฤษ ลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ด้วย
สำหรับตอนนี้สิ่งที่ คล็อปป์ กับแฟนบอล "เดอะ เร้ดส์" ต้องลุ้นก็คือ โกเมซ จะเจ็บหนักแค่ไหน และหากเจ็บหนักจะต้องพักนานเท่าไหร่ เพราะหากทีมขาดนักเตะรายนี้ ต้องบอกเลยว่าส่งผลกระทบอย่างแรงแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ตัวสำรองพลิกเกม!ตัดเกรดแข้งลิเวอร์พูลเกมบุกสอยเบิร์นลี่ย์
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เก็บเพิ่มอีกสามแต้มได้ตามเป้า หลังบุกไปเอาชนะ เบิร์นลี่ย์ 3-1 เมื่อคืนวันพุธที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยที่เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ เลือกที่จะโรเตชั่นทีม ด้วยการส่งตัวสำรองหลายคนลงเป็นตัวจริง และก็เป็นไปได้ตามคาด เมื่อโดนเจ้าถิ่นยิงขึ้นนำก่อน แต่เมื่อมีการส่งตัวจริงอย่าง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลงสนาม ทุกอย่างก็ดีขึ้นทันตา และสุดท้ายก็พลิกกลับมาเป็นฝ่ายคว้าชัย 3-1 ซึ่งก็ต้องยกเครดิตให้กับพวกตัวสำรองที่ลงมาช่วยพลิกเกมได้ ขณะที่ เจมส์ มิลเนอร์ ก็ทำได้โดดเด่นกับการเล่นสองบทบาท
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
วิเคราะห์บอล บาเยิร์น พบ เอาก์สบวร์ก วันศุกร์ที่ 22 พ.ย. 67
เพื่อนไม่ทิ้งกัน! เป๊ป เผยแพ้ 4 เกมติดเหตุผลต่อสัญญาใหม่ แมนซิตี้
วิเคราะห์บอล เซลต้า พบ บาร์เซโลน่า วันเสาร์ที่ 23 พ.ย. 67
ผลงาน 5 ดาว!แฟน ฟิออเรนติน่า โหวต เด เคอา แข้งยอดเยี่ยมตุลาคม
วิเคราะห์บอล เลเวอร์คูเซ่น พบ ไฮเดนไฮม์ วันเสาร์ที่ 23 พ.ย. 67
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์