ถือเป็นข่าวร้ายอย่างมากของแฟนบอล ลิเวอร์พูล หลังจากที่ทีมรักขอพวกเขาออกมาประกาศเองแล้วว่า โจ โกเมซ กองหลังคนเก่งที่กำลังฟอร์มร้อนแรงสุดๆ นั้น มีอาการกระดูกขาร้าวจากเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดล่าสุดที่ต้นสังกัดบุกไปชนะ เบิร์นลี่ย์ 3-1 เมื่อวันพุธที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งมีการคาดกันว่าเขาต้องพักนานถึง 6 สัปดาห์ด้วยกัน
  หากเป็นอย่างนั้นจริง มันก็หมายความว่า โกเมซ จะอดช่วยทีมถึงราว 10 นัดเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่านั่นส่งผลเสียกับการลุ้นแชมป์ลีกของ ลิเวอร์พูล อย่างมาก เพราะพวกเขาตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่แค่ 2 แต้มเท่านั้น และตอนนี้ก็ถือเป็นช่วงที่มีโปรแกรมลงเตะถี่ยิบจนแทบจะเป็นช่วงที่ส่งผลอย่างมากกับการลุ้นแชมป์เลย

    ในตอนนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ คงจำเป็นต้องแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าด้วยการส่ง เดยัน ลอฟเรน หรือไม่ก็ โฌแอล มาติป ลงเล่นแทนไปก่อน คำถามคือใครที่เหมาะจะเป็นคู่หูของ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ มากกว่ากัน ?

    ลูกกลางอากาศ

   ด้วยความที่ มาติป มีส่วนสูง 195 เซนติเมตร ขณะที่ ลอฟเรน สูง 188 เซนติเมตร ทำให้ถ้าตัดสินแค่เรื่องรูปร่างแล้วก็ต้องบอกว่าพวกเขาเหมาะกับการเล่นลูกกลางอากาศทั้งคู่ แต่ถ้าเจาะลึกเข้าไปแล้วก็ต้องบอกว่า ลอฟเรน มักจะทำได้ดีกว่า

    จากการลงเล่นเป็นตัวจริงในลีก 4 นัดในฤดูกาลนี้นั้น ดาวเตะผู้เคยขนานนามตัวเองว่าเป็น "หนึ่งในกองหลังที่เก่งที่สุดของโลก" ชนะการดวลลูกกลางอากาศได้ถึง 23 ครั้ง จากทั้งหมด 34 หน แถมยังโหม่งเคลียร์บอลออกไปได้ 15 ครั้งอีกต่างหาก

    ขณะที่ มาติป ได้ลงเล่นในลีกไปรวมแล้ว 7 นัด แบ่งเป็นในฐานะตัวจริง 2 เกม กับตัวสำรองอีก 5 หน โดยเขาชนะการดวลลูกกลางอากาศได้ 18 ครั้ง จากทั้งหมด 23 หน ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วอาจจะดูดีกว่า ลอฟเรน แต่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ลอฟเรน ลงเล่นเยอะกว่า จนทำให้เจอสถานการณ์ดวลลูกกลางอากาศบ่อยกว่านั่นเอง

    ความนิ่งเวลาดวลกับคู่แข่ง

   จุดนี้ต้องบอกว่าทั้งคู่ทำได้ดีพอๆ กัน แม้ว่าจะเป็นรอง ฟาน ไดค์ กับ โกเมซ ซึ่งเป็นคู่เซนเตอร์แบ็กตัวหลักของทีม แต่เมื่อได้รับโอกาสลงสนาม ทั้ง ลอฟเรน และ มาติป ก็ช่วยแย่งบอลมาจากคู่แข่งในจังหวะดวลตัวต่อตัวได้หลายครั้ง

    จนถึงตอนนี้ ลอฟเรน สามารถเอาชนะเวลาดวลตัวต่อตัวกับลูกบนพื้นได้ถึง 34 หน ส่วนของ มาติป อยู่ที่ 25 ครั้ง ดังนั้นตรงจุดนี้จึงไม่มีใครชนะแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และไม่ว่า คล็อปป์ จะเลือกใช้ใคร พวกเขาก็น่าจะแบ่งเบาภาระตรงนี้ของ ฟาน ไดค์ ได้เป็นอย่างดี

    ประโยชน์ในเกมบุก

    ในขณะที่ ลอฟเรน แข็งแกร่งเรื่องเกมรับ แต่ด้านเกมบุกเขายังด้อยกว่า มาติป อดีตดาวเตะทีมชาติแคเมอรูนมีความเร็วที่ดีในระดับหนึ่ง รวมถึงผ่านบอลได้ไม่แย่เกินไปนัก จนช่วยเกมบุกของทีมได้เมื่อต้องดันขึ้นมาเล่นตรงกลางสนาม

    จริงอยู่ว่าการลุ้นทำประตูจากลูกเซตพีซนั้น ลอฟเรน เหนือกว่า แต่โดยรวมแล้ว มาติป มีประโยชน์ในด้านเกมบุกมากกว่ากองหลังทีมชาติโครเอเชีย และถ้า คล็อปป์ จะเลือก มาติป มาก่อน ลอฟเรน ด้วยเหตุผลนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนัก

   ความมุ่งมั่น

    ตรงข้อนี้ ลอฟเรน เหนือกว่า มาติป พอประมาณ จริงอยู่ว่าเวลาลงสนาม มาติป ลงเล่นให้ทีมแบบ 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม แต่รายของ ลอฟเรน ถือว่าเป็นคนที่มีพาสชั่นสูงจนจะเรียกว่าพร้อมสละชีวิตตัวเองเพื่อทีม และลงเล่นแบบเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ก็ว่าได้

    นอกจากนี้ การมีความมุ่งมั่นมันก็ทำให้ ลอฟเรน เข้าสกัดใส่คู่แข่งแบบดุดันมากกว่า มาติป ด้วย ซึ่งการทำแบบนั้นมันก็ส่งผลให้บางครั้งคู่แข่งเกิดความหวาดกลัวจนเล่นพลาดไปเอง และส่งผลดีกับทีมไปด้วย

    สรุป : โดยรวมแล้วตอนนี้ต้องบอกว่า ลอฟเรน ดูดีกว่า มาติป ในระดับหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการเป็นคู่หูของ ฟาน ไดค์ ในช่วงที่ โกเมซ ต้องพักเป็นเวลานาน