เขาว่ากันว่าคนที่ทำงานดีก็สมควรได้รับเงินที่สมน้ำสมเนื้อ ในทางกลับกัน คนที่ทำงานได้แย่ก็ไม่สมควรได้เงินก้อนโต น่าเศร้าที่สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก แล้วนั้น สถานการณ์มันตรงข้ามกับประโยคที่ว่าอย่างสิ้นเชิง

ในฤดูกาล 2018-19 แมนฯ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวัง แต่ถึงอย่างนั้นนักเตะของพวกเขากลับได้รับค่าเหนื่อยก้อนโตสวนทางกับฟอร์มของตัวเอง โดยในกลุ่มนักเตะที่ได้ค่าเหนื่อยมากที่สุด 3 อันดับแรกนั้น ทุกคนต่างก็มีผลงานที่น่าผิดหวังทั้งนั้น คำถามคือแต่ละคนสมควรได้เล่นให้ทีมต่อไปเพื่อรับค่าเหนื่อยก้อนโตเหมือนเดิมหรือไม่ หรือควรถูกปล่อยออกจากทีมไปซะ ?

รับค่าเหนื่อยมากสุดอันดับ 3 ร่วม - ดาบิด เด เคอา (สัปดาห์ละ 200,000 ปอนด์ หรือประมาณ 9 ล้านบาท)

เด เคอา ถือเป็นเทพผู้พิทักษ์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตลอดช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา เขาโชว์ฟอร์มเซฟสวยๆ ได้ถึงหลายครั้ง และช่วยให้ทีมได้ผลการแข่งขันที่ดีได้หลายหน ทั้งที่บรรดากองหลังที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขาต่างก็เป็นเหมือนทิชชู่ที่เปียกยุ่ย พร้อมปล่อยให้คู่แข่งทะลวงเข้ามายิงประตูได้อยู่เสมอ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ฤดูกาลนี้ เด เคอา จะมีชอตเซฟงามๆ อยู่บ้าง แต่โดยรวมก็ต้องถือว่าฟอร์มของเขาตกลงไปเยอะ การที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เสียประตูในลีกไปแล้วถึง 26 ลูก คือหนึ่งในหลักฐานที่พิสูจน์ถึงเรื่องนั้นได้เป็นอย่างดี

ถึงกระนั้น ถ้าให้พูดแบบตรงไปตรงมาแล้วล่ะก็ ฟอร์มของ เด เคอา ก็เหมือนกลับมาเข้าข่าย "มนุษย์ปกติ" มากกว่า หลังจากหลายซีซั่นก่อนหน้านี้เขาเหนียวเกินหน้าเกินตาคนทั่วไป ปัจจุบันฟอร์มของเขาไม่ได้เลวร้ายถึงขั้นที่รับไม่ได้ และเขาก็ยังนับเป็นกำลังสำคัญของทีมอยู่

เปอร์เซ็นต์ที่สมควรได้อยู่ต่อ : 70 เปอร์เซ็นต์

รับค่าเหนื่อยมากสุดอันดับ 3 ร่วม - โรเมลู ลูกากู (สัปดาห์ละ 200,000 ปอนด์ หรือประมาณ 9 ล้านบาท)

โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด หมายมั่นปั้นมือว่า ลูกากู จะเข้ามาเป็นกำลังสำคัญในการผลิตประตูให้ทีมได้ หลังจากเจ้าตัวยิงได้เป็นกอบเป็นกำสมัยเล่นให้ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งในซีซั่นแรกของเขากับ แมนฯ ยูไนเต็ด ลูกากู ก็ทำผลงานได้น่าพอใจ ด้วยการกดไป 27 ลูก จากการลงเล่น 51 นัดในทุกรายการ

อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลนี้ดาวเตะทีมชาติเบลเยียมโดนสากเข้าสิงหลายนัด โดยจนถึงตอนนี้เขาเพิ่งทำได้เพียง 6 ประตูจากการลงสนาม 20 นัดในทุกรายการ แถมยังเคยเท้าบอดจนยิงติดต่อกันไม่ได้หลายนัดด้วย ก่อนที่ล่าสุดจะเพิ่งทำได้ 2 ลูกจากการลงเล่น 3 นัดหลังสุด

แน่นอนว่าผลงานของ ลูกากู ถือว่าน่าผิดหวัง จนทำให้การจ่ายเงินระดับ 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ให้เขาดูไม่เหมาะสม และถ้าเจ้าตัวยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้แล้วล่ะก็ เขาก็อาจจะต้องบอกลาทีมหลังจบฤดูกาลนี้ก็ได้

เปอร์เซ็นต์ที่สมควรได้อยู่ต่อ : 50 เปอร์เซ็นต์

รับค่าเหนื่อยมากสุดอันดับ 2 - ปอล ป็อกบา (สัปดาห์ละ 290,000 ปอนด์ หรือประมาณ 13.05 ล้านบาท)

"ภารกิจที่ยังไม่เสร็จสิ้น" คือประโยคที่ถูกใช้เป็นคำนิยามถึงตอนที่ ป็อกบา ย้ายจาก ยูเวนตุส กลับมาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปี 2016 ด้วยค่าตัวสูงเป็นสถิติโลกในตอนนั้นที่ 89.3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,018.5 ล้านบาท) โดยมันสื่อถึงเรื่องที่ว่า ป็อกบา แจ้งเกิดไม่สำเร็จในช่วงแรกที่อยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด และตั้งใจที่จะไปให้รุ่งกับทีมในหนนี้

ป็อกบา เหมือนจะเปิดตัวได้สวย หลังได้ทั้งแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก และ อีเอฟแอล คัพ ในซีซั่นแรกที่กลับมาเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ในฤดูกาลต่อมาฟอร์มของเขาก็ไม่ได้พัฒนาขึ้นเลย จนทำให้ทีมต้องจบซีซั่นแบบมือเปล่า ขณะที่ฤดูกาลนี้เขาก็ยังไม่คงเส้นคงวาเหมือนเดิม แถมยังค่อนไปทางด้านร้ายมากกว่า นอกจากนี้ ดาวเตะเลือดน้ำหอมยังดูเหมือนว่าจะมีปัญหากับ มูรินโญ่ ด้วย

อย่างไรก็ตาม ปฎิเสธไม่ได้ว่าฝีเท้าของ ป็อกบา มันดีอยู่แล้ว ถ้าเขามีระเบียบวินัยในการเล่นดีกว่านี้ เจ้าตัวก็คู่ควรกับการได้เงินระดับ 290,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์อยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเขาจะทำได้รึเปล่าเท่านั้น

เปอร์เซ็นต์ที่สมควรได้อยู่ต่อ : 50 เปอร์เซ็นต์

รับค่าเหนื่อยมากที่สุดเป็นอันดับ 1 - อเล็กซิส ซานเชซ (สัปดาห์ละ 350,000 ปอนด์ หรือประมาณ 15.75 ล้านบาท)

แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด หลายคนดีในจนเนื้อเต้นที่พวกเขาได้ตัว ซานเชซ มาจาก อาร์เซน่อล เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยต้องแลกกับการปล่อย เฮนริค มคิตาร์ยาน ไปอยู่กับ อาร์เซน่อล เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ ซานเชซ กลับไม่สามารถโชว์ฟอร์มเหมือนสมัยสวมเสื้อ บาร์เซโลน่า และ อาร์เซน่อล ออกมาได้ เขาเพิ่งทำประตูให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแค่ 4 ลูกจากการลงเล่น 30 นัดในทุกรายการ แถมยังมีปัญหาเรื่องสภาพร่างกายบ่อยพอตัวอีกต่างหาก

ด้วยความที่เขาเป็นคนที่ฟันค่าเหนื่อยเยอะที่สุดในทีม ทำให้หลายคนผิดหวังในตัวเขามากที่สุดด้วย และมันคงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยถ้าเขาจะโดนปล่อยออกจากทีม

เปอร์เซ็นต์ที่สมควรได้อยู่ต่อ : 30 เปอร์เซ็นต์