เจาะ 5 ประเด็นลิเวอร์พูลชนะนาโปลี ทะลุ 16 ทีม แชมเปี้ยนส์ ลีก
Posted 12/12/2018 by siamsport
เจอร์เก้น คล็อปป์ และลูกทีม "หงส์แดง" ทำภารกิจสุดสำคัญในการทำตามเงื่อนไขที่จะผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการเปิดบ้านชนะ นาโปลี 1-0 ที่สนามแอนฟิลด์ จากประตูทองคำฝังเพชรของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตั้งแต่ครึ่งแรก รวมทั้งจังหวะเซฟสุดปาฏิหาริย์ อลีสซง เบ็คเกอร์ นายทวารชาวบราซิเลียน
ก่อนเกม "หงส์แดง" มีเงื่อนไขเดียวอยู่ในหัวก็คือต้องชนะ และห้ามเสียประตูเพื่อที่จะเพิ่มโอกาสเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยตลอดทั้งเกมเจ้าบ้านครองเกมได้เป็นส่วนใหญ่ สร้างโอกาสได้มากกว่า และมีจังหวะหวาดเสียวที่จะบวกสกอร์เพิ่มหลายครั้งโดยเฉพาะสองจังหวะท้ายเกมจาก ซาดิโอ มาเน่ แต่ไม่เป็นประตู
ที่สำคัญในจังหวะช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จากลูกโยนของ นาโปลี บอลตกไปที่เท้าของ อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค ที่ซัดเต็มเหนี่ยว แต่ อลีสซง โชว์ให้โลกได้เห็นว่าค่าตัว 65 ล้านปอนด์ (ราว 2,925 ล้านบาท) มันช่างคุ้มค่าขนาดไหนที่ "เดอะ เร้ดส์" ยอมควักกระเป๋าจ่ายให้ โรม่า เพื่อดึงตัวเขามาเฝ้าเสาในแอนฟิลด์
แม้ว่าแมตช์นี้ ลิเวอร์พูล จะเบียดชนะเพียง 1 ประตู แต่ต้องยอมรับว่า คล็อปป์ วางหมากมาดีเยี่ยม ในการตัดเกมบุกของ นาโปลี จนแทบไม่มีโอกาสได้สร้างความหวาดเสียวให้กับเจ้าบ้านมากนัก แถมพวกเขายังมีจังหวะสวนกลับหลายต่อหลายครั้ง และหาก มาเน่ มีความคมกว่านี้ สกอร์คงไม่ใช่แค่หนึ่งลูกแน่นอน
1. โม ซาลาห์ ระเบิดฟอร์มช่วงเวลาสำคัญนำหงส์ลอยลม
ช่วงที่ผ่านมา ดาวเตะทีมชาติอียิปต์ ยังไม่สามารถผลิตผลงานดีมีคุณภาพให้กับต้นสังกัดเหมือนเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาเลย แต่กระนั้นเจ้าตัวก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะเรียกฟอร์มเก่งกลับมาอย่างไม่ลดล่ะ และสิ่งเหล่านี้ค่อยๆ ผลิดอกออกผลอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเกมที่ซัดแฮตทริกถล่ม บอร์นมัธ เกมลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และจากนั้นก็ตามด้วยประตูทองแมตช์รับมือ นาโปลี
แม้ว่า ซาลาห์ จะต้องเจอกับงานสุดหินในการสู้กับแนวรับของ นาโปลี โดยเฉพาะการโดน คาลิดู คูลิบาลี่ กองหลังจอมแกร่งของทีมเยือนไล่บี้ขยี้ไม่ให้ได้เล่นได้สะดวกโยธิน แต่สุดท้ายนักเตะก็สามารถงัดฟอร์มสุดยอดในการลากหนี แนวรับชาวเซเนกัล และซัดบอลสุดเฉียบคมเบียดเสาเข้าประตูไปอย่างสุดยอด ถือเป็นหนึ่งในประตูที่สุดล้ำค่าของ "เดอะ เร้ดส์" ในซีซั่นนี้เลยก็ว่าได้
สำหรับฟอร์มในครึ่งแรกของ ซาลาห์ ถือว่ายอดเยี่ยมมากๆ และในครึ่งหลัง อดีตแข้ง เชลซี และ โรม่า ยังคงป่วนเกมรับของ นาโปลี ได้ตลอด และสร้างโอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีมได้เรื่อยๆ โดยเฉพาะจังหวะส่งให้ มาเน่ ยิง แต่น่าเสียดายที่เพื่อนร่วมสังกัดดันซัดออกไปหน้าตาเฉย
2. พลังแห่งแอนฟิลด์
เป็นที่ทราบกันดีทั่วทั้งยุทธจักรลูกหนังยุโรปว่า แอนฟิลด์ คือสนามที่สุดยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่ง "เดอะ เร้ดส์" และบรรดาสาวก "เดอะ ค็อป" แสดงให้เห็นแล้วว่าแรงกระตุ้นจากเสียงเชียร์ที่ดังกึกก้องทั่วสนาม เป็นแรงขับสำคัญให้นักเตะลิเวอร์พูลวิ่งไม่คิดชีวิต
"เดอะ เร้ดส์" ทำผลงานไม่น่าอภิรมย์กับการเล่นเกมเยือนในฟุตบอลถ้วยใบยุโรปฤดูกาลนี้ เมื่อพวกเขาแพ้เรียบวุธในการเล่นกลุ่ม ซี และทำให้ต้องลุ้นแทบรากเลือดในแมตช์สุดท้าย อย่างไรก็ตามด้วยการเล่นในบ้านพร้อมกับพลังเชียร์ของแฟนบอลทำให้พวกเขาสามารถพลิกนรกเข้ารอบน็อกเอาต์ได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ มีการบ้านกองโตที่จะต้องแก้ไขนั่นก็คือการเล่นเกมเยือน และถ้าหากพวกเขายังไม่สามารถสร้างผลงานได้ดีในการออกนอกถิ่น งานนี้บรรดาพองเพื่อน "หงส์แดง" เตรียมจูบลาโอกาสเข้ารอบชิงชนะเลิศที่สนามวานด้า เมโทรโปลิตาโน่ ในกรุงมาดริด เดือนพฤษภาคมปีหน้าแน่นอน
งานนี้ ดรีส์ เมอร์เท่นส์ กองหน้าชาวเบลเยียมของ นาโปลี คงรู้เช่นเห็นชาติแล้วว่าป้ายสัญลักษณ์คำว่า "ดีส อีส แอนฟิลด์" (This Is Anfield) มันไม่ได้เกี่ยวกับขนาดว่าใหญ่หรือเล็ก แต่มันเกี่ยวกับมนต์ขลังแห่งความยิ่งใหญ่ในแอนฟิลด์ !!??
3. ฟาน ไดค์ กำแพงเหล็ก
เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ หอคอยยักษ์แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง และเป็นผู้เล่นกองหลังที่ ลิเวอร์พูล เฝ้ารอมานาน โดยงานนี้จำนวนเงินที่ทีมยอมทุ่มซื้อประมาณ 75 ล้านปอนด์ (ราว 3,225 ล้านบาท) มาจาก "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน มันช่างคุ้มค่าทุกเพนนีจริงๆ
แนวรับชาวดัตช์ เล่นด้วยความแข็งแกร่ง และคอยคุมแผงกองหลังของทีมได้อย่างยอดเยี่ยม ที่สำคัญนักเตะยังเป็นผู้เล่นตัวใหญ่ที่มีความเร็ว, พละกำลังเหลือล้น และยังมีความเป็นผู้นำในการคอยทำหน้าที่สั่งเพื่อนร่วมทีมให้เล่นด้วยสมาธิ และไม่ให้หลุดจากตำแหน่งของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม กองหลังทีมชาติฮอลแลนด์ วัย 27 ปีโชคดีพอสมควรที่ไม่โดนไล่ออกหลังจากเสียบหนักใส่ เมอร์เท่นส์ ในครึ่งแรกแต่ก็ทำให้เขาต้องโดนใบเหลืองทำให้ต้องเล่นด้วยความระมัดระวัง กระนั้น ฟาน ไดค์ ยังสามารถสกัดจังหวะสำคัญให้ทีมได้หลายครั้ง แถมยังคอยขึ้นมาเติมเกมบุก โดยเฉพาะจังหวะที่ได้วอลเลย์ในกรองเขตโทษช่วง 10 นาทีสุดท้าย แต่ยิงไม่ถนัดบอลไต่เท้าหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
4. อลีสซง โชว์ซูเปอร์เซฟอีกครั้ง
อลีสซง เพิ่งโชว์จังหวะป้องกันสุดยอดในเกมชนะ เบิร์นลี่ย์ และแมตช์ล่าสุดเขาก็ทำให้โลกเห็นแล้วว่าค่าตัวจำนวนมหาศาลที่ ลิเวอร์พูล ยอมทุ่มเงินเพื่อดึงเขามาร่วมทีมเป็นอะไรที่โคตรคุ้มค่าจริงๆ
ในจังหวะดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงทดเวลาบาดเจ็บ และ ลิเวอร์พูล ยังนำเพียง 1-0 เท่านั้น แม้ว่าสกอร์แบบนี้จะทำให้พวกเขาได้ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ก็ตาม แต่หากโดนยิงตีเสมอก็ร่วงจากสวรรค์ทันที และก็เกือบโดนจริงๆ เพราะ มิลิค ได้ซัดโล่งๆ แต่เจอความเหนียวของ นายด่านหน้า "ธอร์" เซฟได้อย่างเหลือเชื่อ
ต้องบอกว่านี่คือหนึ่งในการป้องกันแห่งฤดูกาลจากความสุดยอดของ อลีสซง อย่างแท้จริง แม้ว่าภารกิจจะประสบความสำเร็จ แต่ก็แค่ก้าวแรกเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ฟอร์มของ โกล์แซมบ้า คงทำให้หลายๆ คนโล่งใจจริงๆ เพราะไม่ต้องมาลุ้นหนักเวลาเห็น ซิมง มิโญเล่ต์ หรือ ลอริส คาริอุส (กรณีกลับมาจากการส่งไปยืมตัว) ยืนเฝ้าเสา
5. มาเน่ ไม่มาน่ะจ๊ะ
ซาดิโอ มาเน่ ทำให้บรรดาสาวก "เดอะ ค็อป" ต้องผิดหวังพอสมควรในช่วงหลายๆ เกมที่ผ่านมา เพราะนักเตะมักจะพลาดยิงประตูในจังหวะที่ไม่น่าพลาด และบางครั้งก็เล่นในเชิงเห็นแก่ตัว ไม่ยอมส่งบอลให้เพื่อนที่มีโอกาสทำประตูได้มากกว่า
สำหรับเกมกับ นาโปลี หาก ลิเวอร์พูล มีเงื่อนไขต้องชนะมากกว่า 1 ประตูเชื่อว่า มาเน่ คงโดนสับเละเทะหลังจบเกมแน่นอน เพราะเจ้าตัวมีโอกาสที่จะส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายหลายครั้งในแมตช์นี้ โดยเฉพาะในช่วงท้ายเกมที่ต้องบอกว่าเป็นโอกาสทองฝังเพชร
จังหวะแรกเกิดจากตอนที่ ซาลาห์ ส่งบอลถวายผ่านให้ไปที่หน้าประตู แต่ มาเน่ ดันยิงออกหน้าตาเฉย และอีกจังหวะเกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย เมื่อ ดาวเตะทีมชาติเซเนกัล หลุดเดียวเข้าไปดวลกับ ดาวิด ออสปิน่า นายทวารทีมเยือน แต่ดันซัดออกเสาไกลไปซะงั้น
ตอนนี้สิ่งที่ คล็อปป์ ต้องทำอีกเรื่องก็คือเรียก มาเน่ มาคุยเพื่อปรับทัศนคติ และเพิ่มความมั่นใจ ไม่งั้นหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป อาจจะส่งผลกระทบในแมตช์ที่ทีมต้องการประตูมากๆ ก็ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
โลกต้องเห็น!อลีสซงโชว์เซฟแห่งชีวิตนำหงส์ลิ่ว ชปล.(มีคลิป)
สาวก "เดอะ ค็อป" เฮลั่นน้ำตาริน เมื่อได้เห็นจังหวะเซฟสุดยอดของ อลีสซง เบ็คเกอร์ นายทวารเลือดแซมบ้า ที่ป้องกันลูกยิงของ อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค ในระยะเผาขนช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ช่วยให้ทีมไม่เสียประตู และรักษาสกอร์ชนะ นาโปลี 1-0 ได้สำเร็จ ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม ซี นัดสุดท้าย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ฉลองวันเกิด!บาร์เซโลน่า จ่อขยายสัญญา ลามีน ยามาล เป็นสถิติใหม่
ผลบอล : เลเวอร์คูเซ่น โดน 2 รัวแซงสะเด่า, ดอร์ทมุนด์ ดุรัว 4 เม็ด
แมนซิตี้ พบ สเปอร์ส ! อีฟส์ บิสซูม่า ซิวใบเหลืองไวเป็นสถิติพรีเมียร์ลีก
เป๊ป ยกธงขาว หาก แมนซิตี้ แพ้ ลิเวอร์พูล เกมลีกสัปดาห์หน้า
เห็นกับตา! ฮาร์กรีฟส์ เผย อโมริม หัวเสียฟอร์ม แมนยู สุดขีด
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์