ลุ้นมันๆ 4 มหัศจรรย์อังกฤษเตรียมพบใครในรอบ 16 ทีมแชมเปี้ยนส์ลีก
Posted 13/12/2018 by siamsport
ในที่สุดก็ได้บทสรุปทุกๆ สโมสรที่ได้ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เรียบร้อยแล้ว โดยในฤดูกาลนี้ตัวแทนจากอังกฤษ โบยบินทะลุเข้ารอบน็อกเอาต์เรียบวุธทั้ง ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แม้ว่า สเปอร์ส กับ "หงส์แดง" ต้องลุ้นกันจนกองเชียร์แทบหัวใจวายในการเล่นเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่ในที่สุดภารกิจการผ่านเข้ารอบฟุตบอลถ้วยใบโตยุโรปก็ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายในขั้นต้นได้
สำหรับในกรณีของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ แมนฯ ซิตี้ แน่นอนว่าทั้งสองสโมสรสามารถการันตีตั๋วรอบน็อกเอาต์ไปก่อนหน้านี้เรียบร้อยแล้ว ฉะนั้นในการแข่งขันรอบต่อไปคอลูกหนังเมืองผู้ดีจะได้สนุกกับการได้เห็นทั้งสี่สโมสรเบียดสู้กับทีมยักษ์ใหญ่ในทวีปยุโรป
ในกรณีของ ลิเวอร์พูล , แมนฯ ยูไนเต็ด และ "ไก่เดือยทอง" ทั้ง 3 สโมสรจบรอบแบ่งกลุ่มในอันดับ 2 ของกลุ่ม แน่นอนว่าพวกเขาไม่ต้องเจอกับทีมอันดับ 2 ในรอบแบ่งกลุ่ม และไม่ต้องปะทะแข้งกับทีมจากพรีเมียร์ลีก ตามกฎของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ที่ห้ามทีมในลีกเดียวกันพบกันเองในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่สามารถเจอกันเองได้นับตั้งแต่รอบก่อนรองชนะเลิศเป็นต้นไป
การจับสลากในรอบน็อกเอาต์จะมีขึ้นที่สำนักงานใหญ่ยูฟ่า ในเมืองนียง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในวันจันทร์ที่ 17 ธันวาคมนี้ แล้วงานนี้สโมสรจากเมืองผู้ดีจะต้องเจอกับทีมใด และมีโอกาสที่พวกเขาจะต้องพบกับงานหนักมากแค่ไหนในรอบต่อไป
ทีมแชมป์กลุ่ม
- โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมนี)
- บาร์เซโลน่า (สเปน)
- ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส)
- ปอร์โต้ (โปรตุเกส)
- บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี)
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ)
- เรอัล มาดริด (สเปน)
- ยูเวนตุส (อิตาลี)
ทีมรองแชมป์กลุ่ม
- แอตเลติโก มาดริด (สเปน)
- ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (อังกฤษ)
- ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
- ชาลเก้ 04 (เยอรมนี)
- อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์)
- โอลิมปิก ลียง (ฝรั่งเศส)
- โรม่า (อิตาลี)
- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)
สำหรับการจับสลากในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ทีมแชมป์กลุ่มไม่ต้องพบกับทีมแชมป์กลุ่มอื่น รวมทั้งไม่ต้องพบกับทีมที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันในรอบแบ่งกลุ่ม และสโมสรที่มาจากประเทศเดียวกัน นั่นหมายความว่า ลิเวอร์พูล, แมนฯ ยูฯ, แมนฯ ซิตี้ และ สเปอร์ส จะไม่ต้องเจอกันเองในรอบน็อกเอาต์นี้
ฉะนั้น 8 ทีมแชมป์กลุ่มจะได้รับการจัดให้เป็นทีมวาง และอีก 8 ทีมรองแชมป์กลุ่มไม่ถูกจัดเป็นทีมวาง โดยในเกมแรกจะมีขึ้นในวันที่ 12 กับ 13 กุมภาพันธ์ และ ในวันที่ 19 กับ 20 ก.พ. ขณะที่เกมที่สอง จะมีขึ้นในวันที่ 5 กับ 6 มีนาคม และวันที่ 12 กับ 13 มี.ค.นี้
ในเวลานี้ "เรือใบสีฟ้า" มีความเป็นไปได้ที่จะพบกับคู่แข่งแค่ 4 ทีมเท่านั้นๆ ก็คือ แอต.มาดริด, ชาลเก้, อาแจ็กซ์ และ โรม่า
สำหรับ สเปอร์ส แน่นอนว่าไม่ต้องพบกับ แมนฯ ซิตี้ หรือ บาร์ซ่า (อยู่กลุ่ม บี) ฉะนั้น "ไก่เดือยทอง" ต้องเจอกับ 6 ทีมแชมป์กลุ่มได้แก่ ดอร์ทมุนด์, เปแอสเช, ปอร์โต้, บาเยิร์น มิวนิค, เรอัล มาดริด และ ยูเวนตุส ซึ่งเคยเจอกันมาแล้วเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา
ด้าน ลิเวอร์พูล ก็เหมือนกับ สเปอร์ส พวกเขาไม่ต้องดวลกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (อยู่กลุ่ม ซี) ดังนั้นข้อจำกัดทำให้ "เดอะ เร้ดส์" มีสิทธิ์ได้พบกับ ดอร์ทมุนด์, บาร์เซโลน่า, ปอร์โต้, บาเยิร์น มิวนิค, ยูเวนตุส และ เรอัล มาดริด
ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ต้องซัดกับทีมจากลีกเดียวกัน และ ยูเว่ (อยู่กลุ่ม เอช) ฉะนั้นโอกาสที่พวกเขาจะต้องสู้กับสโมสรในรอบน็อกเอาต์ได้แก่ ดอร์ทมุนด์, บาร์เซโลน่า, เปแอสเช, ปอร์โต้, บาเยิร์น มิวนิค และ เรอัล มาดริด
ยุคใหม่วงการลูกหนังอังกฤษครองยุโรป
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทีมจากอังกฤษเข้ารอบน็อกเอาต์ทุกสโมสร เมื่อปีที่ผ่านมา 5 ทีมจากเมืองผู้ดีได้ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย (ท็อปโฟร์พรีเมียร์ลีกจากฤดูกาล 2016-17ได้แก่ เชลซี, สเปอร์ส, แมนฯ ซิตี้ และลิเวอร์พูล รวมทั้ง แมนฯ ยูฯ ในฐานะแชมป์ยูโรปา ลีก)
ในซีซั่นนั้นทีมของกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับ ลิเวอร์พูล ได้ผลการจับสลากที่สบายอุรา ทำให้พวกเขาทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยการอัด บาเซิ่ล กับ ปอร์โต้ ตามลำดับ ขณะที่ "ผีแดง" โดน เซบีย่า เขี่ยตกรอบ และ สเปอร์สเจอทีเด็ด ยูเวนตุส ดับสนิทเช่นกัน ด้าน เชลซี ก็ไปไม่รอดต้องโบกมือลาในรอบนี้เมื่อพ่ายให้กับ บาร์เซโลน่า
ลิเวอร์พูล สามารถปราบ แมนฯ ซิตี้ ในรอบก่อนรองชนะเลิศ จากนั้นก็สอย โรม่า สกอร์รวม 7-6 ในรอบตัดเชือก แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถต้านทาน เรอัล มาดริด ในรอบชิงชนะเลิศ ทำให้ต้องชวดแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปอย่างน่าเสียดาย
ทั้งนี้ 3 ทีมจากอังกฤษสามารถผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายตั้งแต่ปี 2015, 2016 และ 2017 โดยในปี 2016 แมนฯ ซิตี้ ไปไกลถึงรอบรองชนะเลิศ ขณะที่ปีถัดมา เลสเตอร์ ซิตี้ ทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย และย้อนกับไปในฤดูกาล 2013-14 มี 4 ทีมทะลุรอบน็อกเอาต์ แต่ แมนฯ ยูฯ ภายใต้การคุมทีมของ เดวิด มอยส์ โดน บาเยิร์น เขี่ยตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ส่วน เชลซี สอย "เปแอสเช" ทะลุตัดเชือกแต่สุดท้ายโดน แอต.มาดริด สอยร่วงในรอบนี้
พรีเมียร์ลีกแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
หากมองจากผลงานจากทีมในพรีเมียร์ลีกกับ ลา ลีกา, ลีก เอิง, บุนเดสลีกา และ กัลโช่ เซเรีย อา แล้วจะเห็นว่า อังกฤษ แข็งแกร่งขึ้นจริงไหม ? มีแค่ 2 ทีมในลีกผู้ดีที่ทะลุรอบ 16 ทีมสุดท้ายในฤดูกาล 2011-12 แต่ใน 5 ซีซั่นที่ผ่านมามีแค่ทีมเดียวเท่านั้นที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ แต่ย้อนไปในซีซั่น 2007-08 และ 2008-09 มี 3 สโมสรจากอังกฤษที่ทะลุรอบรองชนะเลิศติดต่อกัน
ขณะที่สโมสรจากอิตาลี ก่อนหน้านี้พวกเขาทำผลงานได้ดีเสมอ ยกเว้นในฤดูกาลนี้ที่ นาโปลี และ อินเตอร์ มิลาน ต้องร่วงรอบแบ่งกลุ่มในนัดสุดท้าย ทำให้ต้องหล่นไปเล่นในเกม ยูโรปา ลีก แทน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ต้องพึ่งสำรอง! ตัดเกรดแข้งแมนยูไม่เอาอ่าวพ่ายบาเลนเซีย
แมนฯยูไนเต็ด พักแข้งตัวหลักบางส่วนเพื่อเกมแดงเดือในสุดสัปดาห์ อย่างไรก็ตามฟอร์มโดยรวมของพวกเขายังไม่เอาอ่าวทั้งแนวรุกและแนวรับ โดยมีแข้งรายหนึ่งที่ทำเข้าประตูตัวเองจนได้คะแนนแค่ 4 แต้มเท่านั้น ขณะที่นักเตะที่เล่นดีกลับกลายเป็นตัวสำรองที่ได้ไป 7 คะแนน เพราะแต่ละคนลงมาช่วยทำประตูตีไข่แตกให้กับทีม เราไปดูคะแนนแข้งปีศาจแดงในนัดนี้กัน
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
วิเคราะห์บอล อาร์เซน่อล พบ เรอัล มาดริด วันอังคารที่ 8 เม.ย. 68
วิเคราะห์บอล [ กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี 2024-25 ] โบโลญญ่า VS นาโปลี
วิเคราะห์บอล [ แชมป์เปี้ยนชิพ อังกฤษ 2024-25 ] มิดเดิ่ลสโบรห์ VS ลีดส์ ยูไนเต็ด
วิเคราะห์บอล ริโอ อาฟ VS เบาวิสต้า
วิเคราะห์บอล [ แชมป์เปี้ยนชิพ อังกฤษ 2024-25 ] เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด VS มิลล์วอลล์
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
หมวดไวกิ้ง ตำรวจสาวขวัญใจหนุ่ม ๆ...
แป้ง สุกานดา หรือ แป้งสามป๋องซาว...
เสี่ยว ปุย ยี่ อดีตดาวดัง OnlyFa...
แม่เจ้าโว้ย! นักร้องสาวนุ่งบิกิน...
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
คลิปไฮไลท์