หงส์เฮ "แดงเดือด"...เซอร์ดาน ชากีรี่ รับบทฮีโร่หลังลงมาสำรองกดสองตุง ช่วย "หงส์แดง" เปิดบ้านสอนเชิงบอลให้ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1 ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล แซงกลับขึ้นไปนำจ่าฝูงอีกครั้งแถมรักษาสถิติไร้พ่ายในลีก 17 นัดติดต่อกัน พร้อมกับทิ้งอริผีแดงที่รั้งอันดับ 6 ถึง 19 แต้ม ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม 2561
ลิเวอร์พูล 3   -   1 แมนฯ ยูไนเต็ด

สนาม : แอนฟิลด์
    ศึก "แดงเดือด" ยกแรกฤดูกาล 2018/19 เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม "หงส์แดง" ปรับแผงหลังส่ง เนธาเนียลบ ไคลน์ ลงยืนแบ็กขวา ใช้ เดยัน ลอฟเรน จับคู่เซนเตอร์แบ็กกับ  เฟอร์กิล ฟานไดจ์ค สามประสานเกมรุกจัดเต็มมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ นำทัพ ฟาก

    " ปีศาจแดง" ของกุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ เจอปัญหา คริส สมอลลิ่ง เจ็บช่วงวอร์มอัพ ต้องส่ง เอริก ไบยี่ ลงตัวจริงแทน เกมรุกใช้  เจสซี่ ลินการ์ด, โรเมลู ลูกากู และ มาร์คัส แรชฟอร์ด นำทีม มิดฟิลด์คู่กลางวาง อันเดร์ เอร์เรร่า ยืนคู่ เนมานย่า มาติช

    เขี่ยบอลเริ่มเกมรูปเกมสนุกทันที หงส์แดง ทักทายก่อน ซาดิโอ มาเน่ ไหลบอลให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ แตะไปกดเรียดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษไม่ผ่านมือ ดาบิด เด อา ล้มตัวรับเอาไว้ได้

    ถัดมาทีมเยือนตอบโต้หวิดได้เฮ เนมานย่า มาติช ผ่านบอลให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด กระชากขึ้นไปซัดบอลเต็มแรงถูก อลีสซง เบ็คเกอร์ ล้มตัวรับไม่พลาด

    นาที 24 แฟนบอลเจ้าบ้านได้เริงร่ากันทั้งสนามเมื่อ ลิเวอร์พูล ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ฟาบินโญ่ ตักบอลข้ามแผงหลังทีมเยือนไปถึง ซาดิโอ มาเน่ สอดมาพักอกเอาบอลลงแล้วเอี้ยวตัวยิงสวน เด เคอา ตุงตาข่าย

    ลิเวอร์พูล ยังบุกต่อเนื่องจากฟรคิกลูกชุลมุนเข้าทาง ฟีร์มีโน่ ตักไปเสาแรก เดยัน ลอฟเรน สอกมายิงเสาแรกโด่งข้ามคาน

    อย่างไรก็ตามนาที 33 แมนฯ ยูไนเต็ด บุกตีเสมอ 1-1 แบบมีโชคเล็กน้อย ลูกากู กระชากเข้ากรอบเขตโทษทางซ้ายแล้วเปิดเข้ากลาง อลีสซง เบ็คเกอร์ รับบอลได้แล้วแต่จังหวะล้มตัวบอลดันไปโดนหัวเข่ากระเด้งออกมาเข้าทาง เจสซี่ ลินการ์ด ตามซ้ำเข้าไปง่ายดาย

    รูปเกมของเจ้าบ้านชอตไปดื้อๆและหวิดโดนเพิ่ม  ดีโอโก้ ดาโล่ต์ ไหลบอลให้ อันเดร์ เอร์เรร่า กระชากขึ้นมาซัดไหล อลีสซง ไม่ยอมพลาดครั้งนี้ล้มตัวรับติดมือ จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ 1-1
 
    ช่วงพักครึ่ง มูรินโญ่ แก้เกมถอด ดีโอโก้ ดาโล่ต์ ออก และส่ง มารูยาน เฟลไลนี่ ลงแทน พร้อมปรับใช้ระบบ 4-3-3 ถ่าง มัตเตโอ ดาร์เมียน มายืนแบ็กขวา
 
    ครึ่งหลังเกมทันกันมากขึ้นและ หงส์แดง ได้เสียวจากจังหวะที่ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ไหลให้ เดยัน ลอฟเรน เติมขึ้นมาลองซัดไกลบอลโด่งข้ามคาน

    นาที 73 แฟนบอลในสนามได้เฮอีกครั้งเมื่อ ลิเวอร์พูล ออกนำ 2-1 ซาดิโอ มาเน่ กระชากหนี ดาร์เมียน ไปสุดเส้นหลังแล้วดีดบอลเข้ากลางเลยไปถึง เซอร์ดาน ชากิรี่ ตัวสำรอง วางเท้ายิงไปแฉลบ แอชลี่ย์ ยัง เปลี่ยนทางไปชนคานบอลกระเด้งเข้าประตูไปเด็ดขาด

    ถัดมา 7 นาทีเจ้าบ้านมาได้ประตูย้ำชัย โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ม้วนตัวไหลบอลไปสะกิดโดน ซาลาหื หลุดไปเข้าทาง ชากิรี่ วิ่งมาตั้งป้อมยิงเน้นๆ แฉลบ เอริก ไบยี่ พุ่งเสียบหน้าต่างเข้าไปเด็ดขาด ลิเวอร์พูล หนีไกล 3-1

    ช่วงเวลที่เหลือเจ้าบ้านผ่อนเกมลงแต่ทีมเยือนเหมือนถอดใจไม่เอาแล้ว จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดรังอัดชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 เก็บสามแต้มสำคัญกลับขึ้นไปเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง และ ส่งผลให้ยอดทีมแห่งถิ่นแอนฟิลด์จดสถิติไร้พ่ายในเกมลีกต่อไปที่ 17 นัด

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
    ลิเวอร์พูล  : อลีสซง เบ็คเกอร์, เนธาเนียล ไคลน์ , เดยัน ลอฟเรน, เฟอร์กิล ฟานไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, นาบี เกอิต้า (เซอร์ดาน ชากิรี่ น.70), ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่ ( จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.84)
    สำรองไม่ได้ใช้ : ซิมง มิโญเล่ต์, อดัม ลัลลาน่า, อัลเบร์โต้ โมเรโน่, ราฟาเอล กามาโช่, แดเนียล สเตอร์ริดจ์
 
    แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา, ดีโอโก้ ดาโล่ต์ (มารูยาน เฟลไลนี่ น.46), วิคตอร์ ลินเดเลิฟ, เอริกไบยี่, มัตเตโอ ดาร์เมียน, แอชลี่ย์ ยัง, อันเดร์ เอร์เรร่า ( อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล น.79), เนมานย่า มาติช,  เจสซี่ ลินการ์ด ( ฆวน มาต้า น.85), โรเมลู ลูกากู, มาร์คัส แรชฟอร์ด
    สำรองไม่ได้ใช้ : เซร์คิโอ โรเมโร่, ฟิล โจนส์, ปอล ป็อกบา, อันโตนิโอ วาเลนเซีย

    ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอตกินสัน