ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » รุกดีรับแน่น - เจาะ 5 ข้อนำลิเวอร์พูลลุ้นปราบอาร์เซน่อล

รุกดีรับแน่น - เจาะ 5 ข้อนำลิเวอร์พูลลุ้นปราบอาร์เซน่อล

Posted 29/12/2018 by siamsport

ลิเวอร์พูลต้องพบกับบททดสอบสำคัญในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ครั้งแรกในรอบกว่า 28 ปี เมื่อมีคิวรับการมาเยือนของ อาร์เซน่อล ที่สนามแอนฟิลด์ วันเสาร์ที่ 29 ธันวาคมนี้ โดย "หงส์แดง" เป็นทีมเดียวเท่านั้นที่ยังรักษาสถิติไร้พ่ายในฤดูกาล 2018-19
    หลังจากผ่านไปครึ่งซีซั่นแรก "เดอะ เร้ดส์ มีแต้มมากกว่า 16 คะแนน และเสียประตูน้อยกว่า 16 ลูกในช่วงเวลาเดียวกันของเกมลีกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ที่สำคัญพวกเขายิงประตูเป็นว่าเล่น และมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม การที่ต้องพบกับ "ไอ้ปืนใหญ่" ถือเป็นเกมสำคัญมากๆ เนื่องจากพวกเขามีเกมรุกที่น่ากลัวโดยเฉพาะ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ที่ซัดไป 13 ประตูนำเป็นดาวซัลโวลีกในเวลานี้

     กระนั้น การที่ต้องพบกับ อาร์เซน่อล พวกเขาต้องพยายามเก็บ 3 คะแนนให้ได้ เพื่อรักษาระยะห่าง หรืออาจจะทำแต้มทิ้งห่างคู่แข่งลุ้นแชมป์ และนี่คือ 5 ปัจจัยที่จะทำให้ "หงส์แดง" มีโอกาสปราบผู้มาเยือนในแมตช์นี้


1. วิกฤติกองหลังปัญหาใหญ่อาร์เซน่อล


    สถานการณ์ในเวลานี้ดูเหมือนว่า สเตฟาน ลิชท์สไตเนอร์ ยังไม่ดีพอในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก ขณะที่ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ ยังต้องลุ้นเรื่องสภาพความฟิต แน่นอนว่า อาร์เซน่อล ได้รับบทเรียนราคาแพงจากปัญหาที่ไม่สามารถหาคู่หูเกมรับในแมตช์เยือนได้ได้ อย่างในเกมกับ เซาธ์แฮมป์ตัน และ ไบรท์ตัน โฮฟ อัลเบี้ยน ที่ฉกฉวยประโยชน์จากเกมรับที่หละหลวมของ "เดอะ กันเนอร์ส"

    อูไน เอเมรี่ ต้องเจอกับปัญหาหนักอกหนักใจในการเลือกคู่หูเกมรับของ กอสซิแอลนี่ ที่ได้รับบาดเจ็บนิดหน่อยที่เท้าในเกมเสมอไบรท์ตัน แต่น่าจะฟิตพอลงช่วยทีมที่สนามแอนฟิลด์ได้ ขณะที่ ชโคดราน มุสตาฟี่ และร็อบ โฮลดิ้ง มีปัญหาบาดเจ็บ ส่วน นาโช่ มอนเรอัล ซึ่งยังไม่แน่ว่าจะฟิตสมบูรณ์หรือไม่ ทำให้ตอนนี้กุนซือชาวสแปนิช ต้องเจอปัญหาหนักใจมากๆ

    อาร์เซน่อล ไม่สามารถรักษาคลีนชีตได้เลยจากการเล่นเกมนอกบ้านในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ และสิ่งนี้อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้งในการสู้กับสามเกมรุก (โม ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่) ที่อันตรายที่สุดในลีกเมืองผู้ดีในเวลานี้ ฉะนั้นหากเกมรับประมาทแค่นิดเดียวมีสิทธิ์เสียประตูได้ทันที

2. สามเกมรุก "หงส์แดง" สุดคม แถม ชากีรี่ ยังฟอร์มฮอต


 

    แน่นอนว่าความสำเร็จของแนวรุกสัญลักษณ์หินเหล็กไฟ หรือ "เอสเอ็มเอฟ" เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ทำให้หลายๆคนต้องกล่าวขวัญถึงความโหดเหี้ยมในการกระซวกประตูคู่แข่ง และในฤดูกาลปัจจุบันทั้ง มาเน่, ซาลาห์ และ ฟีร์มีโน่ ยังคงร้อนแรงแม้จะไม่ระเบิดเถิดเทิง แต่ก็ยังขู่กองหลังคู่แข่งได้เสมอ

    พวกเขาสามารถทำลายแนวรับคู่ต่อกรได้ด้วยความรวดเร็ว, ทักษะการเล่น และความแม่นยำในการยิงประตู แน่นอนว่านี่เป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากๆ ที่ทำให้ทั้งสามคนประสบความสำเร็จ และสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยในซีซั่นปัจจุบัน

    ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะการที่ 3 แนวรุกยังคงฟอร์มดี พวกเขาก็มีตัวเสริมความโหดอีกคนก็คือ เซอร์ดาน ชากีรี่ แม้ในตอนแรกการดึง จอมทัพทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ มาร่วมทีมก็เพื่อเป็นยางอะไหล่ให้กับ 3 แนวรุก "เอสเอ็มเอฟ" แต่ตอนนี้เขากลายเป็นนักเตะที่ คล็อปป์ ขาดไม่ได้แล้ว โดยเจ้าตัวมักจะยิงประตูสำคัญให้กับ "เดอะ เร้ดส์" ในซีซั่นนี้ด้วย

 3. เกมเยือน อาร์เซน่อล ไม่ค่อยน่าอภิรมย์ 


   แม้ว่า อาร์เซน่อล จะมีฤดูกาลที่ดีเยี่ยมก็ตาม แต่พวกเขามักจะเจอปัญหาในการเก็บชัยชนะเมื่อออกไปเล่นเกมเยือนในฤดูกาลนี้ โดย "ไอ้ปืนใหญ่" ไร้ชัยชนะในการเล่นเกมลีกนัดเยือน 3 แมตช์ล่าสุด โดยพวกเขาเก็บชัยชนะได้แค่ 1 แมตช์จากเกมเยือน 5 แมตช์ที่ผ่านมาด้วย

    นอกจากนี้ อาร์เซน่อล มักจะเจองานที่แสนยากลำบากในการสู้กับทีมชั้นนำทั้ง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้, "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล และ "สิงโตน้ำเงินคราม"  เชลซี

4. แอนฟิลด์ ดินแดนอาถรรพ์


 

    เป็นที่รู้กันดีว่าบรรยากาศในถิ่นแอนฟิลด์สุดยอดมากขนาดไหน โดย ลิเวอร์พูล พลาดเสียไป 2 คะแนนในการเล่นที่สนามเหย้าของตัวเอง ซึ่งเกิดขึ้นในเกมพบ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สำคัญในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาเก็บชัยเรียบวุธในบ้านตัวเองด้วย

    ขณะที่ อาร์เซน่อล ไม่เคยชนะต่อหน้าสาวก "เดอะ ค็อป" นับตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งก็เมื่อ 6 ปีก่อน โดยอาร์เซน่อลชุดนี้มีพัฒนาการที่ดีมากๆภายใต้การกุมบังเหียนของเอเมรี่ พวกเขามีระบบการเล่นที่ยอดเยี่ยม และนักเตะในทีมก็มีความเข้าใจในความรับผิดชอบของแต่ละคน

    สำหรับตอนนี้สิ่งที่ อาร์เซน่อล คาดหวังก็คือการที่เกมรับที่เหนียวแน่น พร้อมกับลุ้นให้แนวรุกของ "หงส์แดง" ฟอร์มหลุด แต่หากทั้งสองสิ่งไม่เกิดขึ้น งานนี้คงรู้นะว่าสถานการณ์จะเป็นยังไง

5. กำแพงเหล็ก "เดอะ เร้ดส์"


 


   พรีเมียร์ลีกผ่านไปครึ่งฤดูกาลแล้ว และ ลิเวอร์พูล เสียไปแค่ 7 ประตูเท่านั้น แถมยังเก็บคลีนชีตได้ถึง 12 แมตช์ สำหรับสถิติเสียประตูน้อยสุดในลีกตลอดทั้งซีซั่นเป็นของ เชลซี ภายใต้การกุมบังเหียนของโชเซ่ มูรินโญ่ ในช่วงแรกของเขาเมื่อฤดูกาล 2004-05 โดยเสียแค่ 15 ประตูเท่านั้น

    เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาเป็นกองหลังแนวหน้าของลีกเมืองผู้ดีนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล และปัจจุบันน่าจะเก่งที่สุดในยุโรป ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์เกมลูกหนังบางคนยังยกให้ ปราการหลังชาวดัตช์ มีลุ้นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีด้วย

    แม้ว่า โจ โกเมซ กับ โจเอล มาติป ยังมีปัญหาบาดเจ็บ แต่ทีมก็ยังได้ เดยัน ลอฟเรน เป็นคู่หูเกมรับกับ ฟาน ไดค์ และ กองหลังทีมชาติโครเอเชีย ก็ทำหน้าที่ได้ดีพอสมควร แถมยังสามารถขึ้นไปทำประตูได้ด้วย อย่างในเกมล่าสุดที่ถล่ม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

    ในส่วนของ อลิสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูชาวบราซิเลียน ถือเป็นโกล์ที่ดีที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำผลงานแบบเพอร์เฟกต์ตลอดเวลาก็ตาม แต่อย่างน้อยๆ นี่คือนายด่านปราการสุดท้ายที่ทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" รู้สึกอุ่นใจมากกว่า ซิมง มิโญเล่ต์ แน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »