ทีมชาติไทย เตรียมส่ง มิก้า ชูนวลศรี คุมแดนหลังแทน พรรษา เหมวิบูลย์ ที่ติดโทษแบน พร้อมจัด 11 ผู้เล่นที่เจ๋งสุดเต็มอัตราศึกลงสนามนำโดย ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีราทร บุญมาทัน, ทริสตอง โด และ ธีรศิลป์ แดงดา จับคู่กับ อดิศักดิ์ ไกรษร ลงล่าตาข่าย ดวล เจ้าภาพ "ยูเออี" สถิติชี้ชัดเคยพบกัน 12 ครั้ง ยูเออีทำได้ดีกว่า แถมไทยไม่เคยบุกไปเอาชนะในถิ่นยูเออีได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว เกมนี้ฟาดแข้ง14 มกราคม นี้ ที่ สนามฮัซซา บิน ซายิด สเตเดี้ยม, อัล ไอน์ เวลาไทย 23.00 น. ช่อง 7 เอชดี ยิงสด

ความเคลื่อนไหวของขุนพลทัพ ''ช้างศึก'' ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ภายใต้การคุมทีมของ ''โค้ชโต่ย'' ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กุนซือรักษาการชั่วคราว ที่เตรียมทีมลงทำศึกฟุตบอล ''เอเชียน คัพ 2019'' รอบสุดท้าย นัดสุดท้ายในกลุ่ม เอ พบกับ เจ้าภาพยูเออี หลังจากเกมแรกแพ้ อินเดีย 1-4 และเกมที่สองชนะ บาห์เรน 1-0 ทำให้เกมนี้หากเก็บแต้มได้มีสิทธิ์ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย

ล่าสุด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ.2562 ที่สนาม ฮัซซา บิน ซายิด สเตเดี้ยม, อัล ไอน์ ทาง "โค้ชโต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กุนซือขัดตาทัพชั่วคราว ได้นำขุนพลลุ่มน้ำเจ้าพระยาทั้ง 23 คน เดินทางมาฝึกซ้อมมื้อสุดท้ายที่สนามจริงก่อนลงดวลเกมนัดส่งท้ายกัย ยูเออี ซึ่งการฝึกซ้อมในวันนี้เน้นไปการยืดเส้นยืดสาย รวมถึงการส่งบอลเท้าสู่เท้า ซึ่งใช้เวลาฝึกซ้อม 1 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น

ทาง "โค้ชโต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กล่าวว่า "เท่าที่ดูผมคิดว่าผู้เล่นของเราสามารถทดแทนกันได้หมด ในรายของ พรรษา เหมวิบูลย์ แม้จะไม่ได้ลงเล่นในเกมนี้หลังจากติดโทษแบน เราเตรียมที่จะส่ง มิก้า ชูนวลศรี ลงเล่นแทน ซึ่งไม่น่ามีปัญหา"

"ขณะที่ในรายของ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ในเวลานี้เราได้ให้ทีมแพทย์เช็คดูอาการอย่างใกล้ชิด หากไม่ไหวจริงๆ เราก็มีตัวเลือกที่จะส่งลงเล่นอย่างแน่นอน และผมคิดว่าน้องๆทุกคนก็พร้อมที่จะลงสนามอยู่แล้วด้วยครับ"

"ในส่วนของบรรยากาศในทีมตอนนี้ก็ดีขึ้นมากครับ รวมถึงสปิริตต่างๆ ซึ่งมันเป็นผลมาจากผลการแข่งขันที่ออกมาดี และที่สำคัญหลายคนต่างก็ทำผลงานได้ดี ทุกคนก็เลยมีความสุขครับ แต่เราก็ต้องไม่ประมาท และมีสมาธิพร้อมเสมอสำหรับการเจอกับเจ้าภาพ ยูเออี"
   
ในส่วนของผู้เล่น 11 ตัวแรกที่คาดว่า ''โค้ชโต่ย'' เตรียมจัดทัพเต็มอัตราศึกลงสนามอย่างแน่นอน และเปลี่ยนแปลงจากเกมเอาชนะ บาห์เรน 1-0 บางตำแหน่ง แต่ตัวหลักที่เหลือนำโดย ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีราทร บุญมาทัน รวมไปถึงอดีตศูนย์จากซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า อย่าง ธีรศิลป์ แดงดา ลงสนามล่าตาข่าย

สำหรับ 11 ตัวแรกของทีมชาติไทย ที่คาดว่าจะลงสนาม มาในระบบ 3-5-2 ประกอบด้วย ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู), สุพรรณ ทองสงค์, อดิศร พรหมรักษ์, มิก้า ชูนวลศรี, ธีราทร บุญมาทัน, ทริสตองโด, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ชนาธิป สรงกระสินธ์, อดิศักดิ์ ไกรษร, ธีรศิลป์ แดงดา

ด้านเจ้าภาพยูเออีภายใต้การกุมบังเหียนของ ''อัลแบร์โต้ ซัคเคโรนี่'' กุนซือชาวอิตาเลียน วัย 65 ปี ที่มีดีกรีเคยพา เอซี มิลาน คว้าแชมป์ เซเรีย อา เมื่อปี 1999 และพาทีมชาติญี่ปุ่น คว้าแชมป์ ''เอเชียน คัพ 2011'' มาแล้ว ก่อนจะเข้ามาคุมทีมชาติยูเออี เมื่อปี 2017 และมีภารกิจพาชาติเจ้าภาพคว้าแชมป์ในครั้งนี้ให้ได้

ทางซัคเคโรนี่กล่าวว่า ''หลังจากที่พวกเขาเสมอต่อ บาห์เรน พวกเขาได้เปลี่ยนโค้ชของพวกเขา อย่างไรก็ตามพวกเขาก็เปลี่ยนสไตล์และแท็กติกของพวกเขาในเกมเอาชนะ อินเดีย ตอนนี้เราได้ศึกษาพวกเขาอย่างจริงจังเพื่อเตรียมทีม เพราะเกมนี้จะเป็นเกมที่ยากของพวกเราอย่างแน่อน'' 

ในส่วนของเกมนี้คาดว่า อัลแบร์โต้ ซัคเคโรนี่ กุนซือใหญ่ จะเลือกวางแผนในระบบ 4-2-31 ตามถนัดอีกครั้ง นำทีมมาโดย อิสเมล อัล ฮัมมาดี ลงสร้างสรรค์เกมอีกครั้ง โดยมี อาลี มับคูต ยืนปักหลักอยู่แดนหน้า

โดย 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามให้กับ ไทย จะมาในระบบ 4-5-1 ประกอบด้วย คอลิด เอซ่า (ผู้รักษาประตู), อาลีฮัสสัน อาลีซัลมิน, คาลีฟา มูบารัค, อาเมอร์ อับดุลราห์มาน, อาลี มับคูต, บันดาร์ โมฮัมเหม็ด, คามิส อิสมาเอล, อิสเมล อัล ฮัมมาดี (กัปตันทีม), ฟาเรส จูมา, อิสมาอิล อาห์เหม็ด โมฮาเหม็ด, คาลฟาน มูบารัค

สถิติการเจอกันระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติยูเออี ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เคยเจอกันทั้งหมด 12 นัด ไทย ชนะ 2 นัด เสมอ 3 นัด และ ยูเออี ชนะถึง 7 นัด และที่สำคัญไทยยังไม่เคยบุกไปเอาชนะในถิ่นยูเออีได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

สำหรับเกมการแข่งขัน ''เอเชียน คัพ 2019'' รอบสุดท้าย ของกลุ่ม เอ นัดที่สองระหว่าง ไทย พบกับ เจ้าภาพยูเออี จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 14 มกราคม 2562 ที่สนามฮัซซา บิน ซายิด สเตเดี้ยม, อัล ไอน์ เวลา 23.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 เอชดี ส่วนอีกคู่ระหว่าง อินเดีย พบ บาห์เรน จะแข่งในวันและเวลาเดียวกัน ที่สนามชาร์จาห์ สเตเดี้ยม, ชาร์จาห์ ถ่ายทอดสดทางช่อง Fox Sports HD