ตอนนี้บรรยากาศของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงเต็มไปด้วยความสดใส ต่างกับก่อนหน้านี้ที่เต็มไปด้วยความมืดมน เพราะพวกเขากำลังทำผลงานได้ยอดเยี่ยมภายใต้การทำทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมชั่วคราวชาวนอร์เวย์ ด้วยการเก็บชัยชนะได้ครบทั้ง 7 นัดในยุคของ โซลชา

นอกจากผลงานของทีมจะดีแล้วนั้น นักเตะหลายคนก็เล่นได้โดดเด่นจนเหมือนเป็นคนละคนกับในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ปอล ป็อกบา, มาร์คัส แรชฟอร์ด ฯลฯ ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขามีข่าวเกี่ยวกับการต่อสัญญา และดูมีอนาคตสดใสกับทีม

อย่างไรก็ตาม เหรียญมันย่อมมีสองด้าน เมื่อมีคนที่มีอนาคตสดใส มันก็มีคนที่อนาคตดูน่าเป็นห่วงเหมือนกัน ซึ่งวันนี้เราจะมาดูกันว่ามีใครบ้างที่เข้าข่ายนั้น

 - มัตเตโอ ดาร์เมียน
จะบอกว่านี่คือคนที่มีแววย้ายออกจาก โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในตอนนี้มากที่สุดก็ได้ จนถึงตอนนี้ฟูลแบ็กชาวอิตาเลียนเพิ่งได้ลงเล่นไปเพียง 6 นัดในทุกรายการ โดยในเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เฉือนชนะ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมานั้น ก็ถือเป็นการลงเล่นเกมลีกนัดแรกของเจ้าตัว นับตั้งแต่เกมพ่าย ลิเวอร์พูล 1-3 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมาด้วย

สาเหตุที่ทำให้ ดาร์เมียน ไม่ได้มีส่วนร่วมในเกมลีกมากเท่าไหร่ในสมัยของ โชเซ่ มูรินโญ่ นั้น เป็นเพราะเขาทำผลงานได้น่าผิดหวัง ซึ่งต่างกับซีซั่นแรกของเจ้าตัวในสีเสื้อ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เขาเล่นได้น่าพอใจใจระดับหนึ่ง โดยตอนนั้นคนที่คุม แมนฯ ยูไนเต็ด คือ หลุยส์ ฟาน กัล

ถึงแม้จะเปลี่ยนมาเป็นยุคของ โซลชา แต่แข้งวัย 29 ปีก็ไม่ได้รับความไว้วางใจมากเท่าไหร่นัก ซึ่งนั่นทำให้เขาคงต้องทำใจย้ายออกจากทีมในช่วงเดือนมกราคมนี้เพื่อหาโอกาสลงเล่น โดยที่มี ยูเวนตุส พร้อมดึงไปใช้งาน

- อันเดรียส เปเรยร่า
ด้วยความที่เคยอยู่กับทีมเป็นเวลานานสมัยที่ยังวิ่งล่าตาข่ายอยู่ โซลชา จึงซึมซับวิถีความเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด มาอย่างเต็มที่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการให้โอกาสเหล่าแข้งดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ของสโมสรได้ลงเล่น หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดคือการที่เขาเลือก มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นกองหน้าตัวเป้ามากกว่า โรเมลู ลูกากู และ แรชฟอร์ด ก็ตอบแทนความไว้วางใจนั้นด้วยการทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ทั้งที่เขาพยายามดันดาวรุ่งมากขนาดนั้น แต่รายของ อันเดรียส เปเรยร่า กลับยังไม่ถูกใช้งานมากเท่าไหร่ โดยตลอดช่วงเกมลีก 6 นัดในยุคของ โซลชา แข้งวัย 23 ปีได้ลงเล่นรวมแล้วราว 17 นาทีเท่านั้น แถมยังเป็นในฐานะตัวสำรองทั้งหมด ขณะที่บางเกมเขาก็ต้องนั่งบนม้านั่งสำรองยาวจนจบเกม ไม่มีโอกาสได้ลงไปโชว์ฝีเท้าเลย

เปเรยร่า เคยได้รับการจับตามองว่าจะกลายเป็นนักเตะชั้นยอดได้เมื่อหลายปีก่อน หลังจากที่เขาทำผลงานได้โดดเด่นในอะคาเดมี่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ในตอนนี้เขาถูกจับตามองว่าคงจะต้องไปใส่เสื้อของทีมอื่นซะแล้ว

- มาร์กอส โรโฮ
หนึ่งในจุดเด่นที่ โรโฮ แสดงให้เห็นอยู่บ่อยๆ คือความขยัน และการมีอารมณ์ร่วมกับการเล่นอย่างเต็มที่ น่าเศร้าที่แค่นั้นมันไม่เพียงพอที่จะกลบจุดด้อยของเขาได้ ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์มีวินัยในการเล่นที่แย่มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องนั้นได้สักที

แม้ว่าจะเล่นได้ทั้งเซนเตอร์แบ็กและแบ็กซ้าย แต่โอกาสที่เขาจะสอดแทรกเป็นตัวจริงได้ก็น้อยมาก เพราะถ้าจะไปลงเป็นเซนเตอร์แบ็ก เขาก็สู้ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่เป็นกองหลังเบอร์ 1 ของทีมในตอนนี้ไม่ได้อยู่แล้ว และถ้าวัดศักยภาพโดยรวมแล้วเขาก็เป็นรอง คริส สมอลลิ่ง ซะด้วยซ้ำ (ทั้งที่จริงๆ แล้ว สมอลลิ่ง ก็ไม่ได้ดีมากนัก)

ส่วนถ้าจะไปเป็นแบ็กซ้าย เขาก็แย่กว่า ลุค ชอว์ อย่างเห็นได้ชัด หรือถ้าจะอยากเป็นตัวเลือกที่ 2 ในตำแหน่งนี้ เขาก็ยังด้อยกว่า แอชลี่ย์ ยัง อีกต่างหาก ซ้ำร้าย ดีโอโก้ ดาโลต์ แบ็กขวาตัวใหม่ชาวโปรตุกีส ก็สามารถถูกโยกไปยืนฝั่งซ้ายได้เหมือนกัน เรียกได้ว่ามองมุมไหนมันก็มีโอกาสน้อยมากที่ โรโฮ จะกลับมามีอนาคตกับทีมได้

กลุ่มที่ยังพอมีความหวัง
- มารูยาน เฟลไลนี่
แม้ว่า สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ จะเพิ่งต่อสัญญากับทีมไปจนถึงปี 2023 แต่ยังไงซะ เฟลไลนี่ ก็ยังมีจุดเด่นเรื่องพละกำลังและลูกกลางอากาศ ซึ่งในขุมกำลังชุดปัจจุบันตอนนี้ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มีใครที่โดดเด่นด้านนั้นมากนัก

- โรเมลู ลูกากู
แม้ว่าจะตกเป็นหัวหอกเบอร์ 2 แล้ว แต่ ลูกากู ก็ยังสามารถมีประโยชน์กับทีมได้อยู่ โดยในยุคของ โซลชา เขาก็ดูเล่นได้ดีกว่าในช่วงต้นฤดูกาลนี้ด้วย นั่นหมายความว่าถ้าเจ้าตัวเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ มันก็มีโอกาสที่เขาจะได้ไปต่อในสีเสื้อของ แมนฯ ยูไนเต็ด

- อเล็กซิส ซานเชซ
จริงอยู่ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ซานเชซ ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เลย แต่ส่วนหนึ่งมันเป็นเพราะสไตล์การทำทีมของ มูรินโญ่ ไม่เหมาะกับเขาเท่าไหร่ ขณะที่ โซลชา ก็ยังไม่ได้มีโอกาสใช้งานเขามากนัก ถ้าเกิดดาวเตะชาวชิลีได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่องในยุคของ โซลชา แล้วล่ะก็ เขาก็อาจจะกลับมาเป็นยอดนักเตะก็ได้