การจะหานักเตะฝีเท้าดีเข้าสู่ทีม ย่อมต้องแลกด้วยเม็ดเงินมหาศาล แต่ในโลกแห่งฟุตบอลเมื่อมีกฎบอสแมนเกิดขึ้น ทำให้ผู้เล่นสามารถย้ายทีมได้ฟรีโดยไม่จำเป็นต้องเจียดเม็ดเงินแลกตัวมา

นักเตะชื่อดังก้องโลกอย่าง อันเดรีย ปีร์โล่ หรือแม้แต่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ถูกเซ็นโดยยูเวนตุส และบาเยิร์น มิวนิค ตามลำดับ ก็ล้วนแต่เป็นการเซ็นสัญญาฟรีทั้งนั้น และพวกเขาก็สามารถเข้ามาสร้างผลงานที่ดีให้กับทีมได้
   
ทีนี้เรามาดูผู้เล่นของลิเวอร์พูลกันบ้าง ว่าในอดีตมีแข้งคนไหนที่หงส์แดงได้ตัวมาฟรีแล้วนับว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร

5. โคโล่ ตูเร่

ลิเวอร์พูลคว้าตัวตูเร่ คนพี่มาจากแมนฯซิตี้ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2013 เซ็นสัญญากันเป็นระยะเวลาสองปี พร้อมกับสวมเสื้อหมายเลข 4 โดยมีดีกรีเป็นถึงแชมป์พรีเมียร์ลีกกับทั้งอาร์เซน่อล และเรือใบสีฟ้า

เขาเป็นหนึ่งในนักเตะชุดไร้พ่ายของอาร์เซน่อล เมื่อซีซั่น 2003/04 พร้อมกับช่วยให้แมนฯซิตี้คว้าแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 44 ปี ตูเร่ เข้ามายกระดับเกมรับของลิเวอร์พูลในช่วงซีซั่น 2013/14 และพาทีมจบรองแชมป์ลีก โดยมีแต้มห่างจากทีมแชมเปี้ยนส์อย่างแมนฯซิตี้ เพียง 2 คะแนน

โคโล่ ลงสนามให้กับเร้ด แมชชีน ไปทั้งสิ้น 36 นัด แม้เขาจะอยู่กับทีมเพียงไม่กี่ปีแต่ตูเร่ก็สามารถเข้าไปนั่งในใจเดอะ ค็อปได้ ด้วยลักษณะนิสัยและหน้าตาที่มีรอยยิ้ม ซึ่งแฟนหงส์คงจำได้ดีกับเสียงเพลงที่บรรดาเพื่อนร่วมทีมต่างร้องให้แก่เขา "โคโล่ โคโล่ ตูเร่"

4. แม็กซี่ โรดริเกซ

ดาวเตะอาร์เจนไตน์ ย้ายมาจากแอตเลติโก มาดริด เมื่อเดือนมกราคม 2010 และเซ็นสัญญากันเป็นเวลา 3 ปีครึ่ง โดยราฟา เบนิเตซ หวังดึงเขามาเพื่อเพิ่มมิติในเกมบุกเนื่องจากแม็กซี่ เป็นปีกที่มีความสามารถในการเข้าทำประตู

ผลงานของเขาทำให้แฟนหงส์หลายคนไม่ผิดหวัง เมื่อแม็กซี่ ทำประตูได้ถึง 17 ประตู จาก 73 นัด รวมถึงเคยซัด สองแฮตทริก ในช่วงฤดูกาล 2010/11 และที่สำคัญเขาเป็นผู้ทำประตูชัยเหนือเชลซีถึงสองครึ่งที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์

แม็กซี่ ออกจาลิเวอร์พูลหลังจบซีซั่น 2011/12 โดยกลับไปเล่นกับนีเวลล์ส โอลด์ บอยส์ ในลีกบ้านเกิด

3. ฟาบิโอ ออเรลิโอ

แบ็กซ้ายแซมบ้า เซ็นยาว 6 ปีจากบาเลนเซียมาอยู่กับลิเวอร์พูล เมื่อปี 2006 และกลายเป็นนักเตะจากบราซิลรายแรกที่ย้ายมาเล่นในถิ่นแอนฟิลด์

ฤดูกาลแรกของเขากับบลิเวอร์พูล เริ่มต้นได้ไม่สวยนักเมื่อ่ฟทำหโดนปัญหาอาการบาดเจ็บรุมเร้า ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ พีเอสวี ทำให้ต้องหยุดพักยาวในช่วงที่เหลือของซีซั่น

และเมื่อหายจากอาการบาดเจ็บ ออเรลิโอ พยายามพิสูจน์ตัวเองเพื่อก้าวขึ้นมาเป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งแบ็กซ้าย แต่อาการบาดเจ็บก็คอยเล่นงานรุมเร้าเขาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ภาพจำที่เดอะ ค็อป ทุกคนจำได้คือประตูสุดสวยที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อซีซั่น 2011/12 โดยตลอด 134 นัด เขาทำได้ 4 ประตู

2.  แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์

ปี 2000 ลิเวอร์พูล คว้ากองกลางวัย 35 ปี ซึ่งแฟนหงส์ก็ไม่ได้หวังอะไรจากตัวตำนานโคเวนทรี มากนัก

แต่แล้วแม็คอัลลิสเตอร์ กลายเป็นกำลังสำคัญที่พาลิเวอร์พูล คว้าทริปเปิ้ล แชมป์ บอลถ้วย ในซีซั่น 2000/01 โดยมีจุดเด่นคือลูกยิงฟรีคิด และลูกจุดโทษที่เชื่อใจได้ ซึ่งหากใครจำได้ ประตูจากลูกฟรีคิกระยะ 44 หลา ใส่เอฟเวอร์ตัน ในศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ เป็นภาพที่ติดตาเดอะ ค็อปทั้งโลก

อีกทั้งยังทำประตูชัยใส่บาร์เซโลน่า ในรอบรองฯ ศึกยูฟ่า คัพ รวมถึงมีส่วนร่วม 3 จาก 5 ประตู ในนัดชิงชนะเลิศบอลาเบส

แม็คอัลลิสเตอร์ ใช้ชีวิตอยู่กับลิเวอร์พูล สอง ฤดูกาล โดยลงสนามไปทั้งสิ้น 87 นัด ทำได้ 9 ประตู ก่อนจะกลับไปทำหน้าที่ผู้เล่น-ผู้จัดการทีมกับโคเวนทรี ต้นสังกัดเดิม

1. เจมส์ มิลเนอร์

มิลเนอร์ ย้ายมาอยู่กับลิเวอร์พูล เมื่อปี 2015 และด้วยความเป็นผู้นำทำให้เขาได้เป็นกัปตันทีมหลังเพิ่งลงสนามในสีเสื้อหงส์แดงเพียง 3 เกมเท่านั้น

ฤดูกาลที่ดีที่สุดของมิลเนอร์กับลิเวอร์พูล เกิดขึ้นในตำแหน่งแบ็กซ้าย ซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งที่เขาถนัด แต่ด้วยความสามารถและความเป็นมืออาชีพ เขาก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนที่ซีซั่น จะทุบสถิติการแอสซิสต์มากที่สุดในศึกบอลถ้วยใหญ่ยุโรปต่อหนึ่งซีซั่นที่ 9 ครั้ง

นอกจากนี้ มิลเนอร์ ยังเป็นผู้เล่นคนที่ 13 ที่ลงสนามเกมพรีเมียร์ลีก แตะหลัก 500 นัด

ความสำคัญของมิลเนอร์ คงไม่ต้องสาธยายอะไรมาก จากผลงานที่เขาสามารถลงสนามตำแหน่งไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น ฟูลแบ็กหรือมิดฟิลด์