"ดิ อีเกิ้ลส์" คริสตัล พาเลซ ลบฝันร้ายหลังพ่ายในลีกมา2เกมติดหลังเปิดบ้านไล่อัด "ไก่เดือยทอง" แบบสนุก 2-0 คอนเนอร์ วิคแฮม ซัลโวประตูแรกในรอบ 792 วัน ก่อนที่ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ จะยิงจุดโทษใส่ทีมเก่า ขณะที่สเปอร์สเกมนี้มีโอกาสตีไข่แตกแต่ คีแรน ทริปเปียร์ ดันยิงจุดโทษพลาด ส่งให้ให้ พาเลซ ทะยานเข้าไปเล่นในรอบ 5 หรือ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป ในเกมลอนดอนดาร์บี้ ฉบับ เอฟเอ คัพ รอบ 4 เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา

สนาม: เซลเฮิร์สท์ พาร์ค, (ลอนดอน)

    "ดิ อีเกิ้ลส์" คริสตัล พาเลซ ทีมอันดับ 14 ของพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เปิดบ้านชนะ กริมสบี้ ทาวน์ ทีมจากลีก ทู มาหวุดหวิด 1-0 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3
   
    ออกสตาร์ทครึ่งแรกมาได้แค่ 6 นาที ท็อตแน่มฯ ได้โอกาสก่อน เมื่อ ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส วิงแบ็คกราบซ้ายเปิดให้กับ โอลิเวอร์ สคิปป์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งที่วันนี้ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ตะบันด้วยขวาจากนอกเขตโทษ บอลหลุดเสาขวาไป

    อย่างไรก็ตามนาทีที่ 9 พาเลซ ชิงขึ้นนำก่อน 1-0 อย่างรวดเร็ว เมื่อ โจเอล วอร์ด แบ็คขวาหักเรียดจากทางกราบขวาเข้าในให้ เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ สอดมารับบอลพาเข้ากรอบเขตโทษด้านขวา แล้วซัดด้วยขวา เปาโล กาซซานีก้า นายทวารชาวอาร์เจนไตน์ของท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทิ้งตัวปัดบอลไม่พ้นอันตรายเข้าทางของ คอนเนอร์ วิคแฮม ตีเข่าส่งบอลเข้าประตูไป ซึ่งเป็นประตูแรกในรอบ 792 วัน เลยทีเดียว

     สิบนาทีต่อมา เจ้าบ้านได้โอกาสอีกครั้ง เมื่อ เชกู กูยาเต้ จ่ายให้กับ พาทริค ฟาน อานโฮลท์ สอดขึ้นมากดด้วยซ้ายจากหน้ากรอบเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมือของ เปาโล กาซซานีก้า นายทวารของไก่เดือยทอง

    เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 34 ดิ อีเกิ้ลส์ มาได้จุดโทษจากจังหวะที่โยนจากกราบซ้ายเข้ามา ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส วิงแบ็คดาวรุ่งของสเปอร์ส ไปใช้มือปัดบอล ผู้ตัดสินไม่ลังเลเป่าทันที ก่อนที่ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ รับหน้าที่สังหารด้วยซ้ายส่งอบเลข้ากลางประตูไปช่วยให้ คริสตัล พาเลซ นำ 2-0 แล้ว

     สองนาทีต่อมา พาเลซ มาอีกครั้ง พาคริค ฟาน อานโฮลท์ หนุนขึ้นมาจ่ายให้กับ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ซัดด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษติดเซฟของ เปาโล กาซซานีก้า

    สเปอร์ส ได้ฟรีคิกในนาทีที่ 41 คีแรน ทริปเปียร์ เล่นลูกสูตรเขี่ยสั้นออกมาให้ จอร์จส์-เควิน เอ็นคูดู ตวัดยิงด้วยขวาติดเซฟของ ฮูเลี่ยน สเปโรนี่ นายทวารวัย 39 ปี ชาวอาร์เจนไตน์ ของพาเลซ บอลทะลักมาเข้าทางของ จอร์จส์-เควิน เอ็นคูดู ยิงซ้ำด้วยขวาติดบล็อคของ สเปโรนี่ ออกหลังไป

    ก่อนหมดครึ่งแรกแค่นาทีเดียว ไก่เดือยทอง ได้จุดโทษจากจังหวะที่ เฟร์นานโด ยอเรนเต้ โขกตั้งให้กับ ฮวน ฟอยธ์ โดน พาทริค ฟาน อานโฮลท์ แบ็คซ้ายพาเลซ เสียบคว่ำ ผู้ตัดสินชี้ทันที ก่อนที่ คีแรน ทริปเปียร์ รับหน้าที่สังหารแปด้วยขวาหลุดเสาซ้ายออกไปอย่างน่าผิดหวัง หมดครึ่งแรก พาเลซ ขึ้นนำก่อน 2-0   

    กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งเวลาหลัง ท็อตแน่มฯ ถอด ยาน แฟร์ต็องเก้น กองหลังทีมชาติเบลเยียม ออกมา แล้วเติมตัวรุกอย่าง เอริค ลาเมล่า กองกลางชาวอาร์เจนไตน์ ลงไป

    กระเถิบมานาทีที่ 52 ไก่เดือยทอง ที่โหมบุกตลอดในครึ่งหลังได้โอกาสก่อน เมื่อ คีแรน ทริปเปียร์ ไหลสั้นๆขึ้นหน้าให้ เฟร์นานโด ยอเรนเต้ พลิกแล้วยิงด้วยซ้ายจากทางกรอบเขตโทษด้านขวา ฮูเลี่ยน สเปโรนี่ นายทวารพาเลซ พุ่งปัดออกหลังไปได้ทัน

    ห้านาทีให้หลัง สเปอร์ส ได้ฟรีคิกหน้าเส้นกรอบเขตโทษด้านซ้าย เอริค ลาเมล่า ปั่นไปติดกำแพงเด้งออกมาเข้าทาง ลาเมล่า ไหลให้ ฟอยธ์ เปิดขึ้นหน้าให้ มูร่า แตะคืนหลังให้ ลาเมล่า สับด้วยซ้ายบอลบดเกินไป หลุดเสาขวาออกหลังไป

     ทีมเยือนบดต่อเนื่อง เอริค ดายเออร์ จ่ายสั้นๆต่อให้ เฟร์นานโด ยอเรนเต้ ยิงด้วยขวาจ่อๆ โดนไม่เต็มไปติดตัวของ ฮูเลี่ยน สเปโรนี่ นายทวารพาเลซ เด้งกระฉอกออกมา ก่อนตามมาตะครุบไว้ได้ในนาทีที่ 61

    ถัดมา 10 นาที สเปอร์ส ยังเดินหน้าบุกตลอด จอร์จส์-เควิน เอ็นคูดู โยนให้กับ ลูคัส มูร่า ขึ้นโหม่งหลุดกรอบไป

    ท้ายเกมนาทีที่ 79 ท็อตแน่ม ได้โอกาส คีแรน ทริปเปียร์ จ่ายให้ เอริค ลาเมล่า ส่องไกลด้วยซ้ายเข้าซองของ ฮูเลี่ยน สเปโรนี่ นายทวารพาเลซ

    เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันอีกไม่ได้ จบเกม คริสตัล พาเลซ เปิดรังพลิกล็อคชนะ สเปอร์ส ไป 2-0 ตบเท้าเข้าสู่รอบ 5 หรือรอบ 16 ทีมสุดท้าย ต่อไป ส่วน ไก่เดือยทอง จอดป้ายแค่รอบ 4 เท่านั้น

    โดยรอบ 5 หรือรอบ 16 ทีมสุดท้าย จะมีการจับสลากประกบคู่กันในในคืนวันจันทร์ที่ 28 มกราคม นี้

    รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

    คริสตัล พาเลซ: ฮูเลี่ยน สเปโรนี่ - โจเอล วอร์ด, มาร์ติน เคลลี่, สกอตต์ แดนน์, พาทริค ฟาน อานโฮลท์ - มักซ์ เมเยอร์ (ลูก้า มิลิโวเยวิช น.79), เชกู กูยาเต้, เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์, แอนดรอส ทาวน์เซนด์ (จอร์แดน อายิว น.88) - คอนเนอร์ วิคแฮม (คริสติย็อง เบนเตเก้ น.70), วิลฟรีด ซาฮา

    สเปอร์ส: เปาโล กาซซานีก้า - ฮวน ฟอยธ์, ดาวินซอน ซานเชซ, ยาน แฟร์ต็องเก้น (เอริค ลาเมล่า น.46) - คีแรน ทริปเปียร์, เอริค ดายเออร์ (วิคเตอร์ วานยาม่า น.63), โอลิเวอร์ สคิปป์, ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส - ลูคัส มูร่า (คาไซอาห์ สเตอร์ลิ่ง น.81), จอร์จส์-เควิน เอ็นคูดู - เฟร์นานโด ยอเรนเต้

    ผู้ตัดสิน: เควิน เฟรนด์