กลายเป็นทีมที่น่าจับตามอง หลัง‘โค้ชแบน’เข้ามาคุมทัพ น่าสนใจว่าพวกเขามีดีพอชิงตั๋ว ACL ตามที่ ‘บิ๊กท็อป’ ประกาศไว้ได้หรือไม่ Goal พาดูขุมกำลังทีมนี้กัน

การผงาดขึ้นมาจบถึง ‘ท็อปทรี’ ในฤดูกาล 2015 ทำให้ภาพของ สุพรรณบุรี เอฟซี ถือเป็นหนึ่งในทีมมีชื่อบิ๊กทีมของฟุตบอลไทย ก่อนที่ช่วงหลังผลงาน "ช้างศึกยุทธหัตถี" จะตกลงไป โดยเฉพาะเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ต้องกระเสือกกระสนในการหนีตกชั้น 5 ทีม ก่อนที่สุดท้ายขึ้นมาจบอันดับ 10 ของตาราง ซึ่งเป็นการจบอันดับเลขสองหลักเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน

เข้าสู่ฤดูกาล 2019 ‘บิ๊กท็อป’ วราวุธ ศิลปอาชา ในฐานะประธานสโมสร หวังว่าจะทำให้ สุพรรณบุรี เอฟซี กลับมาอยู่ในสถานะทีมใหญ่อย่างที่ควรจะเป็นอีกครั้ง ด้วยการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งผู้เล่นไทย และ ต่างชาติ รวมถึงการได้หนึ่งในกุนซือไทยที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในขณะนี้อย่าง ‘โค้ชแบน’ ธชตวัน ศรีปาน มาคุมทัพ

ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่หลายคนมองว่าเป็นไปในทิศทางดีขึ้น น่าสนใจว่า ผลงานในสนาม ของ ช้างศึกยุทธหัตถี จะเป็นเช่นนั้นหรือเปล่า และ จะคว้าตั๋ว ไปลุย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2020 ตามที่ ‘บิ๊กท็อป’ ให้คำมั่นสัญญากับแฟนบอล ไว้ได้หรือไม่ เช็คขุมกำลังของพวกเขาที่นี่

ผู้รักษาประตู

สาวกช้างศึกยุทธหัตถีหายห่วงเมื่อยังมี สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ยืนเฝ้าเสาในฐานะมือหนึ่งถาวร ซึ่งนอกจาก ประสบการณ์ และ ฝีม้ายลายมือ อันเป็นที่ประจักษ์แล้ว ‘ซูเปอร์ตี๋’ ยังมีภาวะผู้นำทั้งในและนอกสนาม เป็นมืออาชีพให้เหล่ารุ่นน้องได้เรียนรู้ ส่วนมือสองเป็น สราวุธ กองลาภ ที่พร้อมลงเฝ้าเสาตามคำสั่งด้านมือสามเป็น พงศกร สมรรถนเรศวร์ ที่ย้ายมาจาก ราชนาวี เอฟซี

กองหลัง

ธชตวัน ศรีปาน ซ้อมลงทีมด้วยระบบ 3-4-1-2 โดยจากการที่ แอนเดอร์สัน ดอส ซานโต้ส มีปัญหาอาการบาดเจ็บ ทำให้ช่วงแรก 3 แนวรับตัวหลัก ประกอบด้วย วสันต์ ฮมแสน , สุพรรณ ทองสงค์ และ อาทิตย์ ดาวสว่าง ขณะที่ ทินกร อสุรินทร์ ก็พร้อมสลับสับเปลี่ยน รวมถึง นฤพล ไวลด์ คอยสแตนด์บายหากจำเป็นต้องลงเล่น

ขณะที่วิงแบ็คขวาคาดว่า ธนาสิทธิ์ ศิริผลา ลงมาทำหน้าที่ก่อน แต่หากเน้นเกมรับก็ยังมีทั้ง มีโชค มหาศรานุกูล และ ศิริมงคล จิตบรรจง ส่วนฝั่งซ้าย ถือว่าขับเคี่ยวกันสนุกหากต้องความเก๋า ณัฐพงษ์ สมณะ ตอบโจทย์ที่สุด แต่หากต้องการความห้าวยังมีทั้ง สุประวีณ์ มีประทุง รวมถึง ทินกร อสุรินทร์ แข้งสารพัดประโยชน์

กองกลาง

คู่มิดฟิลด์ถือว่า ‘โค้ชแบน’ มีอาวุธครบมือเช่นกัน คาดว่าแกนหลักจะเป็นสองแข้งใหม่ ที่เพิ่งย้ายเข้ามาทั้ง คิม ซุง ฮวาน และ สินติธร ลัทธิรมย์ นอกจากนี้ยังมีแข้งหมุนเวียนชั้นดีทั้ง อดุล หละโสะ ที่กลับมาฟิตเต็มถัง , สุบรรณ เงินประเสริฐ , ประสิทธิ์ จันทุม และ นฤพล ไวลค์ ที่พร้อมลุยทุกตำแหน่งในเชิงรับ

ส่วนตัวทำเกมรุก ชนานันท์ ป้อมบุบผา แข้งดีกรีทีมชาติไทย ที่ทำผลงานได้ดีจากซีซั่น 2018 จะได้รับโอกาสก่อน โดยมี กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ เป็นตัวสอดแทรก

กองหน้า

ปิดท้ายกันที่ แดนหน้า ถือว่า ช้างศึกยุทธหัตถี น่ากลัวขึ้นกว่าเดิม เมื่อได้ โจนาธาน เฮส จาก พีที ประจวบ เอฟซี เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ใหม่ของ เคลตัน ซิลวา ดาวยิงสูงสุดตลอดกาลโตโยต้า ไทยลีก ที่ทำไปแล้ว 133 ประตู ที่สำคัญ ในสถานการณ์คับขัน หรือ ต้องการเปลี่ยนแท็คติค ก็ยังมีทั้ง มาร์ค ฮาร์ทมันน์ หอกร่างใหญ่โควตาอาเซียน และ ชนานันท์ ป้อมบุบผา เป็นตัวเลือก รวมถึง กิตติพต แดงอรุณ วอนเดอร์คิดส์วัย 18 ปี พร้อมใส่สตั๊ดลงไปบู๊เช่นกัน

11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาด (3-4-1-2)

วสันต์ , อาทิตย์ , สุพรรณ

ธนาสิทธิ์ , สันติธร , คิม , ณัฐพงษ์

ชนานันท์

เคลตัน , เฮส

 
ผู้เล่น เข้า-ออก (อัพเดตวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2019)

เข้า
สันติธร ลัทธิรมย์ (หนองบัว พิชญ)
พงศกร สมรรถนเรศวร์ (ราชนาวี)
มาร์ค ฮาร์ทมันน์ (ราชบุรี มิตรผล เอฟซี) *โควตาอาเซียน
อาทิตย์ ดาวสว่าง (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)
คิม ซุง ฮวาน (การท่าเรือ เอฟซี)
เคลตัน ซิลวา (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)
โจนาธาน เฮส (พีที ประจวบ เอฟซี)

ออก
อรรถวิทย์ สุขช่วย *หมดสัญญายืมตัวบีจี ปทุม ยูไนเต็ด
กานต์นรินทร์ ถาวรศักดิ์ *หมดสัญญายืมตัวราชบุรี มิตรผล เอฟซี
นพพล ปิตะฝ่าย (โปลิศ เทโร เอฟซี)
ศุภเสกข์ ไก่แก้ว (พีทีที ระยอง)
โรมูโล คาบราล (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด) *ยืมตัว
ปฐมทัศน์ สุดประเสริฐ (นอร์ทกรุงเทพ เอฟซี)