ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » โจทย์ที่ต้องแก้ให้ได้!ปัญหาหลักของ แมนฯ ยูไนเต็ด - ลิเวอร์พูล

โจทย์ที่ต้องแก้ให้ได้!ปัญหาหลักของ แมนฯ ยูไนเต็ด - ลิเวอร์พูล

Posted 23/02/2019 by siamsport

เกม "แดงเดือด" ฉบับศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เจอกับ ลิเวอร์พูล ในวันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ ถือเป็นเกมที่น่าสนใจสุดๆ เพราะตอนนี้ "ปีศาจแดง" ดูแข็งแกร่งกว่านัดแรกที่แพ้ "หงส์แดง" 1-3 เยอะพอตัว ทำให้มีโอกาสที่เกมมันจะสูสีและดุเดือดอย่างมาก
    แน่นอน ทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ก็กำลังมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม โดยฝั่งของเจ้าบ้านเพิ่งแพ้นัดเดียวจากทุกรายการนับตั้งแต่ที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามาคุมทีมด้วยสัญญาชั่วคราวเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา ส่วนทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ทำผลงานในฤดูกาลนี้ได้ดีจนถึงขั้นมีลุ้นแชมป์ลีก

    อย่างไรก็ตาม ถ้ามองภาพรวมแล้วตอนนี้ทั้ง 2 ทีมก็มีปัญหาที่ต้องแก้ไขให้ได้ก่อนถึงเกมในวันอาทิตย์นี้เหมือนกัน ซึ่งวันนี้เราจะมาวิเคราะห์กันว่าปัญหาหลักๆ ของทั้งสองทีมในตอนนี้มีอะไรบ้าง
   
    : แมนฯ ยูไนเต็ด

    - คุณภาพของ สมอลลิ่ง


    ตอนนี้ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ถือเป็นเซนเตอร์แบ็กที่ฝากความไว้เนื้อเชื่อใจได้เป็นอย่างดี เขาสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและช่วยเหลือ ดาบิด เด เคอา ได้มาก ซึ่งต่างจากซีซั่นก่อนที่หลายคนมองว่าเขาเป็นบ่อน้ำมันชัดๆ

    อย่างไรก็ตาม นอกจาก ลินเดอเลิฟ แล้วนั้น เซนเตอร์แบ็กที่เหลือของ "ปีศาจแดง" ก็ไม่มีใครที่ทำผลงานได้โดดเด่นพอๆ กับ ลินเดอเลิฟ เลย โดยจากตัวเลือกในตอนนี้่นั้น เชื่อว่า คริส สมอลลิ่ง คงจะถูกเลือกให้มาเป็นคู่หูของ ลินเดอเลิฟ ซึ่งดาวเตะชาวอังกฤษมักจะชอบหลุดตำแหน่งในบางครั้งจนทำให้ทีมเสียประตูอยู่บ่อยๆ และถ้าวันอาทิตย์นี้เขายังทำพลาดแบบนี้อีกแล้วล่ะก็ มันก็อาจจะส่งผลเสียกับทีมอย่างมาก

    - หาทางช่วย ป็อกบา


    ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าตอนนี้ ป็อกบา โชว์ฟอร์มได้สมราคากับที่หลายคนยกย่องว่าเขาเป็นกองกลางชั้นยอดคนหนึ่ง เมื่อได้เล่นในแผนที่เข้ากับสไตล์ของตัวเองแล้วนั้น ดาวเตะชาวฝรั่งเศสก็ทำผลงานได้สุดยอดจนทำไปถึง 9 ประตู กับอีก 6 แอสซิสต์ จากทั้งหมด 12 นัดของทุกรายการที่เขาลงเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในยุคของ โซลชา โดยเขาไม่ได้ลงสนามให้ทีมของกุนซือชาวนอร์เวย์เพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น
   
    ถึงกระนั้น ปัญหาก็คือเมื่อ ป็อกบา โดนจับตายจนเล่นไม่ออกแล้วนั้น มันก็ไม่มีใครที่พอจะขึ้นเกมบุกให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ดีเท่าเขา จริงอยู่ว่า อันเดร์ เอร์เรร่า พอจะรับหน้าที่ในเกมบุกได้ แต่มันมีโอกาสน้อยมากที่เขาจะทำหน้าที่ได้สัก 3/4 ของ ป็อกบา
   
    เกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ที่แพ้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 0-2 คือตัวอย่างที่พิสูจน์ให้เห็นว่าเมื่อ ป็อกบา ทำอะไรไม่ได้แล้วนั้น เกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็แทบจะเป็นรถที่ไร้เครื่องยนต์ตามไปด้วย ดังนั้นโจทย์ของ โซลชา ก็คือต้องทำยังไงถึงจะหาทางขึ้นเกมบุกที่ไม่ต้องพึ่ง ป็อกบา มากเกินไป หรือเรื่องที่ว่าจะสร้างพื้นที่ให้ ป็อกบา ยังไงดี

    - แดนหน้าที่พึ่งได้แค่คนเดียว


    ตลอดช่วงที่่ผ่านมา มาร์คัส แรชฟอร์ด คือหนึ่งในนักเตะที่ทำผลงานได้โดดเด่นในยุคของ โซลชา เขายิงประตูและแอสซิสต์ได้หลายครั้ง แต่ในทางกลับกัน กองหน้าคนอื่นๆ กลับไม่สามารถทำผลงานที่คงเส้นคงวาได้เหมือนเขา

    แน่นอน ในสายตาของแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด แล้วนั้น คนที่พวกเขามองว่าเป็นกองหน้าเบอร์ 2 ของทีมคือ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล แต่ขนาดดาวเตะชาวฝรั่งเศสเองก็ยังไม่มีความคงเส้นคงวาที่ดีเลย และตอนนี้ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดด้วยว่าเขาจะลงเล่นเกม "แดงเดือด" ไหวรึเปล่า หลังจากที่มีข่าวลือว่าเจ้าตัวกับ เจสซี่ ลินการ์ด อาจจะหายเจ็บเร็วกว่ากำหนด

    สมมุติว่า มาร์กซิยาล หายไม่ทัน แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ต้องไปพึ่ง อเล็กซิส ซานเชซ หรือ โรเมลู ลูกากู แทน ซึ่งแน่นอนว่าผลงานที่ผ่านมาของทั้งคู่ไม่ดีเอาซะเลย ดังนั้นถ้าพวกเขาได้ลงเล่นในวันอาทิตย์นี้จริง เหล่า "เร้ด อาร์มี่" ก็คงต้องสวดอ้อนวอนให้พวกเขาโชว์ฟอร์มเทพให้ได้ ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็อาจจะต้องโดนย้ำแค้นก็เป็นได้

     : ลิเวอร์พูล

    - เกมรับที่ไม่เหนียวแน่นเท่าเดิม   


    ตอนต้นฤดูกาลนี้เกมรับของ ลิเวอร์พูล ได้รับคำชมอย่างมาก เพราะพวกเขาเป็นเหมือนกำแพงเหล็กที่ต่อให้เอาอะไรมาชนก็ทำอะไรไม่ได้ และเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ "หงส์แดง" ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม

    แต่หลังจากที่ โจ โกเมซ เจ็บหนักจนต้องพักนานแล้วนั้น ลิเวอร์พูล ก็เสียประตูบ่อยขึ้น จริงอยู่ว่าพวกเขายังมี เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ยอดปราการหลังชาวดัตช์ยืนปักหลักคุมแนวรับอยู่ แต่คนอื่นๆ นอกจาก โกเมซ ที่มาเป็นคู่หูของเขาต่างก็ไม่สามารถช่วยทีมได้ดีเหมือนกับ โกเมซ เลย โดยใน 10 นัดหลังสุดของทุกรายการ ลิเวอร์พูล เสียประตูถึง 6 นัดด้วยกัน

    - 3 ยอดแนวรุกที่สะดุดเมื่อเจอ แมนฯ ยูไนเต็ด


    ตลอดเวลาที่ผ่านมา ซาลาห์, มาเน่ และ ฟีร์มีโน่ ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างฝันร้ายให้คู่แข่งได้หลายราย โดยเฉพาะ วัตฟอร์ด ที่พวกเขา 3 คนยิงรวมกันใส่ทีมดังกล่าวไปแล้ว 10 ลูก แถมยังทำได้อีก 5 แอสซิสต์ เมื่อนับเฉพาะตั้งแต่ที่ ซาลาห์ ย้ายมาอยู่กับทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ ปี 2017

    อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ซาลาห์, มาเน่ และ ฟีร์มีโน่ กลับทำประตูใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้รวมกันเพียง 1 ลูกเท่านั้น แถมยังทำแอสซิสต์ไม่ได้แม้แต่หนเดียวเลยด้วย แน่นอนว่า ลิเวอร์พูล ยังมีนักเตะคนอื่นๆ อยู่ แต่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าความหวังสูงสุดในการทำประตูของ ลิเวอร์พูล ก็มาจากทั้ง 3 คนนี้ ดังนั้น คล็อปป์ ก็ต้องหาทางทำให้ทั้งหมดโชว์ฟอร์มเก่งออกมาให้ได้

    - ฟอร์มที่ดร็อปลงของ ชากิรี่


     "การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดของฤดูกาล" คือสิ่งที่หลายคนเคยให้คำนิยามถึง เซอร์ดาน ชากิรี่ ปีกชาวสวิส หลังจากที่เขามักจะเป็นตัวสำรองที่ช่วยเปลี่ยนสถานการณ์ให้ทีมได้อยู่เสมอ เรียกได้ว่าถ้าวันไหน 3 แนวรุกตัวหลักอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ หรือ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เล่นไม่ออก ชากิรี่ ก็จะเป็นเหมือนตัวโจ๊กเกอร์ที่ช่วยทีมได้เป็นอย่างดี

    ถึงกระนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงหลายนัดที่ผ่านมา ชากิรี่ เงียบไปเยอะ เขาไม่มีส่วนร่วมกับประตูของทีมมาตั้งแต่เกมที่ ลิเวอร์พูล ไล่ถล่ม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 4-0 เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นผลงานที่น่าผิดหวังสำหรับคนที่เคยทำ 2 ประตูในเกมแดงเดือดนัดแรกของฤดูกาลนี้

    ถ้าหากได้รับโอกาสลงเล่นแทน 3 แนวรุกตัวหลักของทีมในวันอาทิตย์นี้แล้วนั้น ชากิรี่ ก็จำเป็นต้องเค้นฟอร์มเก่งของตัวเองให้ได้อีกครั้ง เผื่อว่าเขาจะสามารถช่วยทีมได้อีกครั้งในตอนที่ทีมกำลังเจอกับสถานการณ์อันยากลำบาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »