1 คะแนนจากเกม "แดงเดือด" ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้มาจากการเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เสมอกับ ลิเวอร์พูล 0-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา อาจจะไม่ใช่เรื่องแย่อะไร เมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ว่าสภาพทีมของพวกเขาไม่สมบูรณ์ แถมยังต้องเปลี่ยนตัวผู้เล่นครบ 3 คนตั้งแต่ครึ่งแรก แต่สิ่งที่ต้องจ่ายไปเพื่อ 1 แต้มนั้นมันก็ช่างใหญ่หลวงเหลือเกิน

    เนมานย่า มาติช, อันเดร์ เอร์เรร่า, เจสซี่ ลินการ์ด, ฆวน มาต้า, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และ มาร์คัส แรชฟอร์ด คือลิสต์รายชื่อกำลังหลักที่ตอนนี้ต่างก็โดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน โดยบางคนยังไม่รู้ว่าต้องพักนานแค่ไหน ส่วนบางรายมีการคาดระยะเวลาที่พวกเขาจะหมดสิทธิ์ลงเล่นแล้ว อย่างเช่น มาติช ที่น่าจะต้องพัก 2-3 สัปดาห์

    ในสถานการณ์ตอนนี้นั้น มันมีความเป็นไปได้สูงมากที่ทั้ง 6 คนในเบื้องต้นจะช่วยทีมไม่ไหวในเกม พรีเมียร์ลีก นัดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องไปเยือน คริสตัล พาเลซ วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ ดังนั้นประเด็นที่น่าสนใจก็คือใครที่ควรจะได้ลงเล่นแทนกัน ?

    - ตำแหน่งกองกลางตัวรับของ มาติช
    นับตั้งแต่ที่เข้าสู่ยุคของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แล้วนั้น มาติช ก็ทำผลงานได้ดีขึ้นกับการรับหน้าที่มิดฟิลด์ตัวรับ ไม่ได้เป็นบ่อเหมือนช่วงต้นฤดูกาลนี้ในสมัยของ โชเซ่ มูรินโญ่ แต่อย่างใด ซึ่งการประสานงานกันระหว่างเขา, เอร์เรร่า และ ปอล ป็อกบา ก็ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การทำทีมของ โซลชา ทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง

 ในกลุ่มนักเตะที่ไม่ได้โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานในตอนนี้มันเหลือ 3 คนที่พอจะเป็นมิดฟิลด์ตัวรับให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ นั่นคือ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด และ ฟิล โจนส์ อย่างไรก็ตาม ถ้าพิจารณากันตามตรงแล้วนั้น เฟร็ด กับ โจนส์ ไม่ควรจะเป็นตัวเลือกแรกที่จะได้ลงแทน มาติช

    บทบาท "กองกลางตัวรับ" ในแผนการเล่นของ โซลชา ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะทำกันได้ง่ายๆ เพราะนอกจากจะเข้าสกัดบอลได้แม่นยำแล้วนั้น คนๆ นั้นก็ต้องรักษาตำแหน่งได้ดี และอ่านเกมได้ดีในระดับหนึ่งด้วย ซึ่ง โจนส์ ขาดคุณสมบัติใน 2 ประเด็นหลัง ขณะที่ เฟร็ด ออกแนวเป็นกองกล่งตัวเชื่อมเกมไม่ก็มิดฟิลด์ตัวรุกมากกว่า

ด้วยเหตุนี้ แม็คโทมิเนย์ จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดที่จะมาแทน มาติช โดยเดิมทีเขาก็โด่งดังจากการรับบทบาทนี้อยู่แล้ว เพียงแต่ต้นซีซั่นนี้ มูรินโญ่ ไม่ค่อยให้โอกาสเขาลงเล่นมากเท่าไหร่ ซ้ำร้ายในบางนัดดาวเตะทีมชาติสกอตแลนด์ยังถูกจับไปยืนเป็นเซนเตอร์แบ็กอีกต่างหาก

    ถึงแม้จะฟอร์มหลุดในช่วงต้นฤดูกาลนี้ แต่ แม็คโทมิเนย์ ยังมีคุณภาพในการเป็นมิดฟิลด์ตัวรับที่พอใช้ได้อยู่ อย่างในเกม "แดงเดือด" เจ้าตัวก็ทำผลงานได้ดีในระดับหนึ่งเลย หรือถ้าเกิด โซลชา อยากผลักดันดาวรุ่งจริงๆ แล้วล่ะก็ มันก็มีอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ นั่นคือ เจมส์ การ์เนอร์

  แข้งวัย 17 ปีรายนี้คือเพชรเม็ดงามที่รอวันส่องประกายของ แมนฯ ยูไนเต็ด แถมเขายังเป็นมิดฟิลด์ตัวรับตามธรรมชาติด้วย การ์เนอร์ ทำผลงานได้โดดเด่นในบทบาทนี้กับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปีของ "ปีศาจแดง" โดยเขาถึงขั้นเคยถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษ รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี รวมถึงได้เป็นกัปตันทีมของ "สิงโตคำราม" รุ่นเยาว์อีกต่างหาก

    นอกจากนี้ เมื่อฤดูกาลก่อน การ์เนอร์ ยังเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของ แมนฯ ยูไนเต็ด รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ชุดที่ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก รุ่นเยาว์ ของโซนทางตอนเหนืออีกต่างหาก ซึ่งผลงานอันน่าประทับใจของเขาก็ทำให้เจ้าตัวถึงขั้นมีชื่ออยู่ในทีมชุดใหญ่ประจำซีซั่นนี้ไปแล้ว 2 เกม นั่นคือเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่แพ้ บาเลนเซีย 2-1 (ตอนนั้น โชเซ่ มูรินโญ่ คุมทีม) และเกม เอฟเอ คัพ รอบ 3 นัดที่ต้นสังกัดชนะ เร้ดดิ้ง 2-0 (เกมนี้ โซลชา คุมทีม)

 ถึงแม้ทั้ง 2 เกมนั้น การ์เนอร์ จะเป็นตัวสำรองที่ไม่ถูกใช้งาน แต่การถูกเรียกติดทีมชุดใหญ่แบบนี้ก็เป็นการสื่อให้เห็นถึงคุณภาพของเขาได้ดีในระดับหนึ่ง แน่นอนว่าข้อด้อยที่ร้ายแรงที่สุดของ การ์เนอร์ คือการที่เขาขาดประสบการณ์ในการเล่นระดับทีมชุดใหญ่ แต่ที่ผ่านมา โซลชา ก็แสดงเจตนารมณ์ว่าพร้อมดันดาวรุ่งอย่างเต็มที่ ดังนั้นถ้าจะลองเสี่ยงใช้งานเขามันก็น่าสนใจเหมือนกัน

    สรุปคนที่น่าใช้งาน : สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เจมส์ การ์เนอร์

    - ตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางของ เอร์เรร่า และ มาต้า
    ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า เอร์เรร่า เป็นคนที่มีความสำคัญกับทีมในยุคของ โซลชา มากพอๆ กับ ปอล ป็อกบา และ มาร์คัส แรชฟอร์ด เพราะดาวเตะชาวสแปนิชวิ่งไล่บอลอย่างไม่ลดละ และยังเชื่อมเกมได้ดีในระดับหนึ่งด้วย

 เดิมที โซลชา คงกำหนดเอาไว้ว่าจะให้ มาต้า เป็นแบ็กอัพของ เอร์เรร่า เพราะอดีตแข้ง เชลซี เล่นได้ทั้งมิดฟิลด์ตัวกลางและตัวริมเส้น แต่พอเขามาได้รับบาดเจ็บด้วยอีกคนมันก็ทำให้ โซลชา จำเป็นต้องมองหาทางเลือกอื่นทันที

    ถ้ามองเฉพาะในกลุ่มนักเตะทีมชุดใหญ่นั้น มันก็มีเพียง อันเดรียส เปเรยร่า กับ เฟร็ด ที่จะรับบทบาทนี้ได้ ซึ่งถ้าให้เลือกจริงๆ เปเรยร่า ก็ดูจะเป็นอ็อปชั่นที่น่าสนใจมากกว่า เพราะตอนนี้ เฟร็ด ยังปรับตัวกับการเล่นฟุตบอลในอังกฤษไม่ได้ โดย เปเรยร่า ก็ทำผลงานได้น่าประทับใจพอตัวตอนที่ถูกเปลี่ยนลงสนามในเกม "แดงเดือด" ด้วย

    สรุปคนที่น่าใช้งาน : อันเดรียส เปเรยร่า

    - ตำแหน่งแนวรุกของ แรชฟอร์ด, มาร์กซิยาล และ ลินการ์ด
    รายของ ลินการ์ด อาจจะไม่ใช่การสูญเสียที่เลวร้ายเท่าไหร่ เมื่อพิจารณาถึงการที่เจ้าตัวไม่มีความคงเส้นคงวาเท่าที่ควร แต่การไม่มีทั้ง แรชฟอร์ด และ มาร์กซิยาล นับเป็นเรื่องที่ร้ายแรงอย่างมาก เพราะทั้งคู่ต่างก็เป็นกำลังหลักในแนวรุกของทีม โดยเฉพาะ แรชฟอร์ด ที่ทำหน้าที่ได้ดีในฐานะกองหน้าตัวเป้า

 ในตอนนี้แนวรุกในทีมชุดใหญ่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ไม่โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานมีเพียงแค่ โรเมลู ลูกากู กับ อเล็กซิส ซานเชซ เท่านั้น ทำให้ถ้าเกิด โซลชา อยากใช้แผนที่มีตัวรุก 3 คนจริงๆ เขาก็ต้องหาตัวเลือกเพิ่ม ซึ่งทางออกก็อยู่ในอะคาเดมี่ของทีม

    ทาฮิธ ชอง เป็นตัวริมเส้นดาวรุ่งที่ได้รับคำชื่นชมมานานแล้ว และเจ้าตัวก็ได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแล้วอีกต่างหาก ส่วนในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้านั้น มันก็มี เมสัน กรีนวู้ด ที่ยิงได้เยอะพอตัวกับทีมรุ่นเยาวชน จนดูแล้วน่าผลักดันอย่างเต็มที่

 จริงอยู่ว่าทั้งคู่ขาดประสบการณ์ที่ดี แต่ในตอนนี้ โซลชา ไม่มีตัวเลือกให้ใช้งานมากนัก และทั้งคู่ก็อาจจะทำผลงานได้โดดเด่นจนกลายเป็นกำลังหลักของทีม เหมือนที่ แรชฟอร์ด เคยทำได้ก็ได้

    สรุปคนที่น่าใช้งาน : ทาฮิธ ชอง, เมสัน กรีนวู้ด