"หมาป่า" โรม่า เตรียมส่ง สเตฟาน เอล ชาราวี ดาวยิงตัวเก่งล่าตาข่ายเก็บชัยเกมเยือนถิ่น ปอร์โต้ ที่ต้องเปิดเกมบุกเข้าสู้เพื่อคำว่า "ชนะ" สถานเดียวถึงจะมีโอกาสเข้ารอบต่อไป ลุ้นระทึกได้ ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง) คืนวันพุธที่ 6 มี.ค. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : SuperSport 5, เวลา : 03.00 น.

ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
(รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง)
วันพุธที่ 6 มีนาคม 2562
ปอร์โต้ (โปรตุเกส)   -   โรม่า (อิตาลี)
(ผลนัดแรก โรม่า ชนะ 2-1)
ถ่ายทอดสด : SuperSport 5, เวลา : 03.00 น.
สนาม : เอสตาดิโอ ดราเกา

    แซร์โจ้ คอนไซเซา เทรนเนอร์ เอฟซี ปอร์โต้ พาทีมบุกไปแพ้ โรม่า มาก่อน 1-2 ในนัดแรก ก่อนพ่าย เบนฟิก้า ด้วยสกอร์เดียวกันในเกมลีกล่าสุด เป็นการแพ้นัดแรกในรอบ 4 เกม

    นับว่าสถานการณ์ของ ปอร์โต้ ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก เริ่มแผ่ว เพราะแพ้ติดๆ กันมากขึ้นเรื่อยๆ

    สภาพทีมเกมนี้ คอนไซเซา จะได้ เฮซุส โกโรน่า พ้นโทษแบนกลับมาเสริม แต่ในรายของ แว็งซ็องต์ อาบูบาการ์ ยังชวดเหมือนเดิม

    ส่วน เอแดร์ มิลิเตา, เปเป้, เอคตอร์ เอร์เรร่า และ โอตาวินโญ่ ที่ติดคาดโทษ ต้องระวัง เพราะถ้าโดนเพิ่ม ก็จะติดโทษแบน หากผ่านเข้ารอบได้สำเร็จ

    คาดว่า ดานิโล่ เปเรยร่า, เอคตอร์ เอร์เรร่า, ยาซีน บราอิมี่, มุสซ่า มาเรก้า และ ติกินโญ่ โซอาเรส จะได้ลงตัวจริงค่อนข้างแน่

    ฟาก ยูเซบิโอ ดิ ฟรานเชสโก้ เทรนเนอร์ โรม่า พาทีมเปิดบ้านเบียดชนะ ปอร์โต้ 2-1 ในนัดแรก ก่อนแพ้ ลาซิโอ ยับ 0-3 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการแพ้นัดแรกในรอบ 5 เกม

    เรียกว่าเสียหายไม่น้อยในเกมโรมันดาร์บี้ แถมยังทำให้ฟอร์มสะดุด ส่งผลต่อกำลังใจไม่น้อยเลยทีเดียว

    สภาพทีมเกมนี้ ดิ ฟรานเชสโก้ ต้องลุ้นความพร้อมของ คอสตาส มาโนลาส กองหลังตัวหลักที่ถูกเก็บสดไว้เพื่อเกมนี้ หลังมีอาการบาดเจ็บรบกวน

    ส่วน อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ แม้จะเพิ่งโดนไล่ออกมาในเกมลีก แต่ก็พร้อมช่วยทีมได้ตามปกติ

    หากว่าไม่มีอะไรผิดพลาด ไบรอัน คริสตานเต้, ดานิเอเล่ เด รอสซี่, ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่, นิโคโล่ ซานิโอโล่, เอดิน เชโก้ และ สเตฟาน เอล ชาราวี จะได้ออกสตาร์ตตั้งแต่ต้นเกม
   
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม   
    เอฟซี ปอร์โต้ (4-4-2) : อีเกร์ กาซียาส - เอแดร์ มิลิเตา, เฟลิเป้, เปเป้, อเล็กซ์ เตลเลส - เฮซุส โกโรน่า, ดานิโล่ เปเรยร่า, เอคตอร์ เอร์เรร่า, ยาซีน บราอิมี่ - มุสซ่า มาเรก้า, ติกินโญ่ โซอาเรส 
    เทรนเนอร์ : แซร์โจ้ คอนไซเซา 

    โรม่า (4-3-3) : โรบิน โอลเซ่น - อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, คอสตาส มาโนลาส, เฟเดริโก้ ฟาซิโอ, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ - ไบรอัน คริสตานเต้, ดานิเอเล่ เด รอสซี่, ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่ - นิโคโล่ ซานิโอโล่, เอดิน เชโก้, สเตฟาน เอล ชาราวี
    เทรนเนอร์ : ยูเซบิโอ ดิ ฟรานเชสโก้   
 
    ผู้ตัดสิน : คูเน็ย์ต ชาคีร์ (ตุรกี)

เกร็ดเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- ปอร์โต้เข้ารอบน็อกเอาต์ชปล.ได้ 3 ฤดูกาลซ้อนแต่ไม่เคยผ่านไปถึงรอบ 8 ทีมนับตั้งแต่ซีซั่น 2014-15
- ปอร์โต้มีสถิติเล่นในบ้านที่ดี โดยรอบแบ่งกลุ่มฤดูกาลนี้ชนะรวดเหนือกาลาตาซาราย (1-0), โลโคโมทีฟ มอสโก (4-1) และชาลเก้ (3-1)
- กระนั้นปอร์โต้ตีตั๋วได้เพียง 4 จาก 20 ครั้งล่าสุดที่แพ้นอกบ้านในเลกแรก แต่ 3 ใน 4 หนดังกล่าวนั้นพวกเขาพ่าย 1-2 เช่นเดียวกับในฤดูกาลนี้
- โรม่ามีผลงานนอกบ้านชปล.ไม่ดีเลย เมื่อแพ้รวดทั้ง 3 เกมรอบน็อกเอาต์ฤดูกาลที่แล้ว รวมถึงอีก 2 ใน 3 เกมรอบแบ่งกลุ่ม โดยเกมที่ชนะซีเอสเคเอ มอสโก 2-1 คือชัยชนะหนึ่งเดียวใน 8 เกมชปล.ล่าสุด (เสมอ 1 แพ้ 6)
- อย่างไรก็ตาม ทีมหมาป่ากรุงโรมได้ผลเสมอทั้ง 2 หนล่าสุดที่เยือนโปรตุเกส ส่วนสถิติรวม ชนะ 2 เสมอ 3 แพ้ 2
- โรม่าเข้ารอบได้ถึง 26 จาก 30 หนหลังที่ชนะในบ้านเลกแรก โดยหนล่าสุดที่ร่วงนั้นเจอแมนฯ ยูไนเต็ด รอบ 8 ทีม 2006-07 (2-1 เหย้า, 1-7 เยือน)
- อีบัน มาร์กาโน่ กองหลังโรม่าเคยลงเล่นกับปอร์โต้ระหว่างปี 2014-18 โดยได้แชมป์ลีกก่อนย้ายมากรุงโรม
- โรม่าเก็บคลีนชีตได้เพียงหนเดียวใน 9 เกมล่าสุดทุกรายการ จากนัดชนะคิเอโว ทีมบ๊วยเซเรีย อา (3-0) โดยในช่วงดังกล่าว พวกเขาเสียทั้งสิ้น 20 ประตู