ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » เซเรีย อา อิตาลี » เริ่มเข้าโค้งสุดท้าย!สรุปสถานการณ์5ลีกใหญ่ยุโรป

เริ่มเข้าโค้งสุดท้าย!สรุปสถานการณ์5ลีกใหญ่ยุโรป

Posted 19/03/2019 by siamsport

 

การแข่งขันระดับสโมสรใน 5 ลีกใหญ่ยุโรป ประจำฤดูกาล 2018-19 ตอนนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว ซึ่งบางลีกอย่างที่ อิตาลี และ ฝรั่งเศส ตำแหน่งแชมป์คงไม่มีอะไรต้องลุ้น แต่ที่ อังกฤษ และ เยอรมนี การลุ้นแชมป์กำลังสูสี เรียกว่าต้องเกาะติดสถานการณ์แบบเกมต่อเกมเลยทีเดียว ว่าแล้วเราไปเช็คดูสถานการณ์ทั้ง 5 ลีกกันดีกว่า เพราะช่วง 10 กว่าวันนี้ต้องหลีกทางให้กับเกมทีมชาติ ก่อนที่จะกลับมาลุยกันใหม่ในช่วงปลายเดือน

- ลีก เอิง ฝรั่งเศส
    อย่างที่ว่าเอาไว้ ตำแหน่งแชมป์ไม่มีอะไรให้ลุ้นแล้ว เพราะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กำลังเข้าป้ายคว้าแชมป์ลีกไปครองเป็นสมัยที่ 8 แม้เหลือโปรแกรมให้ลงเตะอีก 10 นัด หลังจากที่โกยคะแนนทิ้งห่าง ลีลล์ ทีมอันดับสอง ไปไกลถึง 20 แต้ม ส่วนอีกหนึ่งทีมยักษ์ใหญ่อย่าง โอลิมปิก มาร์กเซย (47 แต้ม) ที่เพิ่งออกไปแพ้ เปแอสเช 1-3 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ต้องลุ้นหนักกับการรักษาอันดับสี่ เพราะตอนนี้มีคะแนนนำ แซงต์-เอเตียน และ แร็งส์ แค่แต้มเดียวเท่านั้น

 

สำหรับโซนท้ายตาราง อาแอส โมนาโก ผลงานดีขึ้นมาก หลังจากที่ได้ เลโอนาร์โด้ ชาร์ดิม กลับมาคุมทีมเมื่อปลายเดือนมกราคม เพราะตอนนี้พวกเขาหลุดพ้นจากโซนอันตรายมาไกลถึง 8 แต้มแล้ว หลังจากที่ไม่แพ้ใครในลีกมา 7 เกมติด (ชนะ 4 เสมอ 3) โดยปัจจุบัน โมนาโก รั้งที่อันดับ 16 ขณะที่สามทีมในโซนตกชั้นอย่าง แก็งก็อง (22 แต้ม), ดิฌง (21 แต้ม) และ ก็อง (20 แต้ม) มีโอกาสสูงเหลือเกินที่จะร่วงไปเล่นใน ลีก เดอซ์ ฤดูกาลหน้า เพราะ อาเมียงส์ ที่รั้งอันดับ 17 นั้น มีถึง 29 แต้ม ตามทฤษฎีพวกเขายังคงมีโอกาสรอด แต่ก็น้อยเต็มที

ส่วนอันดับดาวซัลโวนั้น สถานการณ์ก็แทบไม่ต่างกับการลุ้นแชมป์ลีก เพราะ คีลียัน เอ็มบัปเป้ หัวหอกดาวรุ่งคนเก่งของ เปแอสเช นำโด่งที่ 26 ประตู ขณะที่ เอดินสัน คาวานี่ ดาวยิงเพื่อนร่วมทีม กับ นิโกล่าส์ เปเป้ ดาวเตะ ลีลล์ ตามมาห่างๆ ที่ 17 ประตู

 - กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
    แม้พลาดท่าออกไปแพ้ เจนัว 0-2 ในเกมล่าสุดเมื่อคืนวันอาทิตย์ จนเสียสถิติไร้พ่าย แต่บัลลังก์จ่าฝูงของ ยูเวนตุส ก็ไม่ได้สั่นคลอนอะไร เพราะตอนนี้มีคะแนนทิ้งห่าง นาโปลี ทีมอันดับสองถึง 15 แต้ม ส่วน อินเตอร์ มิลาน (53 แต้ม) ก็แซง เอซี มิลาน (51 แต้ม) กลับขึ้นมาอยู่ที่สาม หลังจากที่คว้าชัยในเกมดาร์บี้แมตช์ได้ ขณะที่อันดับรองๆ ลงมาอย่าง อาแอส โรม่า (47), อตาลันต้า (45), ลาซิโอ (45), โตริโน่ (44) และ ซามพ์โดเรีย (42) แต้มเบียดกันมาก และยังพอแอบมีลุ้นขึ้นไปติดกลุ่มท็อปโฟร์ ซึ่งในกลุ่มนี้ถือว่าลุ้นสนุก

 

หันมาดูโซนล่าง คิเอโว่ ทีมอันดับสุดท้าย แทบจะการันตีการตกชั้น แม้เหลือโปรแกรมลงเตะอีก 10 เกม เพราะพวกเขาเพิ่งจะมีแค่ 11 แต้ม ส่วน โฟรซิโนเน่ ทีมรองบ๊วย อาการก็น่าเป็นห่วง เพราะมี 17 แต้ม แต่โอกาสยังเปิดกว้างสำหรับ โบโลญญ่า ทีมอันดับ 18 ที่มี 24 แต้ม เพราะพวกเขาตามหลัง อูดิเนเซ่ ทีมอันดับ 17 แค่แต้มเดียวเท่านั้น ส่วนพวกที่อยู่เหนือๆ ขึ้นไปอย่าง เอ็มโปลี (25), สปาล (26) และ กายารี่ (30) ก็มีคะแนนไม่หนีกันมาก

สำหรับสถานการณ์อันดับดาวซัลโวของลีกถือว่าสูสี โดยตอนนี้ ฟาบิโอ กวายาเรลล่า ดาวยิงตัวเก๋าของ ซามพ์โดเรีย รั้งอันดับหนึ่งที่จำนวน 21 ประตู ขณะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าซูเปอร์สตาร์ของ ยูเวนตุส ตามมาติดๆ ที่ 19 ประตู ส่วนอันดับรองๆ ลงมาอย่าง ดูวาน ซาปาต้า (อตาลันต้า, 17 ประตู) และ อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค (นาโปลี, 15 ประตู) ก็ยังพอมีลุ้นที่จะเบียดขึ้นมา 

 

- ลา ลีกา สเปน
  ด้วยการที่เกมล่าสุด แอตเลติโก มาดริด พลาดท่าแพ้ ขณะที่ บาร์เซโลน่า คว้าชัยได้ ทำให้ตอนนี้ บาร์ซ่า ที่รั้งจ่าฝูง โกยคะแนนทิ้ง "ตราหมี" ที่รั้งอันดับสอง เป็น 10 แต้มแล้ว เรียกได้ว่าโอกาสคว้าแชมป์ของพวกเขาดูสดใสทีเดียว แม้เหลือเกมให้ลงเตะอีก 10 นัด ขณะที่ เรอัล มาดริด ทีมอันดับสาม ที่เพิ่งได้ ซีเนดีน ซีดาน กลับมาคุมทัพ โอกาสลุ้นแชมป์แทบไม่มีเหลือ แม้คว้าชัยได้ในเกมเมื่อคืนวันเสาร์ (เปิดบ้านอัด เซลต้า บีโก้ 2-0) แต่ถึงกระนั้น "ราชันชุดขาว" ก็ไม่น่าจะหลุดจากกลุ่มท็อปโฟร์ เพราะตอนนี้พวกเขามีคะแนนมากกว่า เดปอร์ติโบ อลาเบส ทีมอันดับห้าถึง 10 แต้ม

 

ส่วนโซนล่าง อ้วยส์ก้า ทีมบ๊วย มีโอกาสสูงที่จะตกชั้น เพราะเพิ่งจะมีแค่ 22 แต้ม ซึ่งห่างจากโซนปลอดภัย 7 แต้ม ขณะที่ ราโย บาเยกาโน่ (23) ทีมอันดับ 19 และ เซลต้า บีโก้ (25) ทีมอันดับ 18 ต่างก็มีสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงไม่แพ้กัน โดยเฉพาะ ราโย แพ้รวดมา 7 เกมติด ส่วน เซลต้า ก็แพ้ 5 จาก 6 เกมหลังสุด

สำหรับสถานการณ์อันดับดาวซัลโวนั้น ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้ากัปตันทีม บาร์เซโลน่า ที่ทำแฮตทริกได้ในเกมล่าสุด นำโด่งแบบหายห่วงที่จำนวน 29 ประตู ขณะที่ หลุยซ์ ซัวเรซ ดาวยิงเพื่อนร่วมทีม รั้งอันดับสองที่ 18 ประตู ส่วน วิสซาม เบน เยแดร์ หัวหอก เซบีย่า ครองที่สามร่วมกับ คริสเตียน สตูอานี่ ของ คิโรน่า ที่ 16 ประตู

 

- บุนเดสลีกา เยอรมัน
    ก่อนหน้านี้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มีโอกาสดีมากที่จะคว้าแชมป์ จากการที่เคยโกยคะแนนทิ้งไปไกลถึง 9 แต้ม แต่ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค แสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเขาไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เพราะตอนนี้ บาเยิร์น แซงขึ้นมารั้งตำแหน่งจ่าฝูงเรียบร้อย ด้วยผลต่างประตูได้-เสียที่ดีกว่า เรียกได้ว่า 8 เกมที่เหลือ การลุ้นแชมป์ต้องจับตาดูให้ดีเลยทีเดียว เพราะต่างฝ่ายต่างพลาดไม่ได้ ส่วนอีกสองโควตาในกลุ่มท็อปโฟร์นั้น ถือว่าเปิดกว้างมากๆ เพราะ แอร์เบ ไลป์ซิก (49), โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค (47), ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต (46), ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (42) และ เฟาเอฟแอล โวล์ฟสบวร์ก (42) มีคะแนนที่ไม่หนีกัน

 

ขณะที่โซนท้ายตาราง ทีมบ๊วยอย่าง เนิร์นแบร์ก ดูแล้วน่าจะรอดยาก เพราะเพิ่งจะมีแค่ 13 แต้ม ซึ่งห่างจากโซนปลอดภัยถึง 10 แต้มเลยทีเดียว ขณะที่ ฮันโนเวอร์ 96 ทีมรองบ๊วย (14 แต้ม) อาการโคม่าไม่ต่างกัน ส่วน เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท ทีมอันดับ 16 ที่มี 20 แต้ม ยังคงมีโอกาสที่จะเอาตัวรอดได้ เพราะ ชาลเก้ 04 (23) ทีมอันดับ 15 และ เอาก์สบวร์ก (25) ทีมอันดับ 14 มีคะแนนไม่หนีกันมาก
       
สำหรับชาร์ตดาวซัลโว โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยอดกองหน้า บาเยิร์น มิวนิค รั้งเบอร์หนึ่งที่จำนวน 18 ประตู แต่ก็ทิ้งไม่มาก เพราะ มาร์โค รอยส์ แข้งซุปตาร์ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กับ ลูก้า โยวิช หัวหอกเนื้อหอม ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ตามมาที่ 15 ประตู

 

- พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
    ชัยชนะเหนือ ฟูแล่ม 2-1 เมื่อคืนวันอาทิตย์ ทำให้ ลิเวอร์พูล แซง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นมารั้งตำแหน่งจ่าฝูงอีกครั้ง ซึ่งถึงแม้พวกเขาลงเตะมากกว่าหนึ่งนัด แต่อย่างน้อยลูกทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ได้แสดงให้เห็นว่า พวกเขายังสามารถยื้อสู้กับ "เรือใบสีฟ้า" ได้

แน่นอนว่า การลุ้นแชมป์เป็นเรื่องของสองทีมระหว่าง "หงส์แดง" กับ "เรือใบสีฟ้า" แต่อีกหนึ่งความมันส์คือการลุ้นติดท็อปโฟร์ที่เหลืออีกสองโควตา ซึ่งถือว่าสูสีเลยทีเดียว เพราะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (61), อาร์เซน่อล (60), แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (58) และ เชลซี (57) มีคะแนนเบียดกันมาก เรียกได้ว่าผลแพ้-ชนะแค่นัดเดียวสามารถทำให้อันดับเปลี่ยนได้เลย

 

 ส่วนโซนท้ายตารางนั้น การันตีได้เลยว่า ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ที่รั้งบ๊วย ตกชั้นแน่นอน เพราะเพิ่งมีแค่ 14 แต้ม ซึ่งห่างจากโซนปลอดภัยถึง 16 แต้ม! แม้เหลือ 21 แต้มให้โกยจาก 7 เกมที่เหลือ แต่ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะทำได้ ขณะที่ ฟูแล่ม (17 แต้ม) ทีมอันดับ 19 ก็รอดยาก แต่ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ทีมอันดับ 18 โอกาสยังคงเปิดกว้าง เพราะตอนนี้พวกเขามี 28 แต้ม ตามหลัง เบิร์นลี่ย์ ทีมอันดับ 17 และ เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมอันดับ 16 แค่ 2 แต้มเท่านั้น ส่วนพวกที่อยู่เหนือขึ้นไปอย่าง ไบร์ทตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน (33), คริสตัล พาเลซ (33) และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (35) ก็จะประมาทไม่ได้เช่นกัน

สำหรับสถานการณ์ดาวซัลโวของลีกนั้น ถือเป็นซีซั่นที่เบียดกันมาก เพราะยิงกันไม่สูง โดยตอนนี้ เซร์คิโอ อเกวโร่ หัวหอก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รั้งเบอร์หนึ่งด้วยจำนวน 18 ประตู ส่วนอันดับสองมีร่วมกันถึงสี่ราย ซึ่งประกอบไปด้วย ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง (อาร์เซน่อล), โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล), ซาดิโอ มาเน่ (ลิเวอร์พูล) และ แฮร์รี่ เคน (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์) ที่กดกันไปคนละ 17 ประตู ส่วน ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกจอมพลิ้ว "เรือใบสีฟ้า" ก็ตามมาที่ 15 ประตู

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »